ธนาคารเกียรตินาคิน มองเศรษฐกิจดีขึ้น กำไรครึ่งปีแรก 986 ลบ. เตรียมปันผล 0.75 บาท

“ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)” มองภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว โดยยังคงนโยบายการดำเนินธุรกิจที่เน้นคุณภาพสินทรัพย์ และขยายฐานเงินฝากลูกค้ารายย่อย ส่งผลกำไรครึ่งปีแรกอยู่ที่ 986 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย NPLs ของธุรกิจหลักคือเช่าซื้อรถยนต์ลดลงจากสิ้นปี มาอยู่ที่ 2.2% ครึ่งปีหลังเตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 แห่ง ล่าสุด บอร์ดธนาคาร อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.75 บาท/หุ้น

นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากการประเมินผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2552 พบว่า ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสินเชื่อรวมมีการเติบโต 2% จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้เมื่อตอนต้นปีที่ 0-5% รวมถึงนโยบายหลักในการการควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ และการตั้งสำรองสำหรับหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ลดลงมาอยู่ที่ 6.99% ของสินเชื่อ หรือเดิม 7.15% ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2552 และมีอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อ เอ็นพีแอลปรับเพิ่มขึ้นเป็น 51.5% แผนงานธนาคาร ในครึ่งปีหลังนี้ จะเตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 แห่ง คือ สุขสวัสดิ์ สมุทรสาคร รามอินทรา และวิภาวดีรังสิต จากปัจจุบันมีสาขาอยู่ 40 แห่ง ส่วนนโยบายหลักๆ ยังคงเป็นเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน การบริหารคุณภาพของสินทรัพย์”

ล่าสุด คณะกรรมการธนาคาร มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2552 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของธนาคารในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 4% โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลในวันที่ 6 สิงหาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 21 สิงหาคม 2552

ล่าสุด คณะกรรมการธนาคาร มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2552 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของธนาคารในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 4% สำหรับงวดครึ่งปีแรก โดยปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 7 สิงหาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 21 สิงหาคม 2552

นายชวลิต จินดาวณิค ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมถึงผลการดำเนินของธนาคาร ว่า “งวด 6 เดือนแรกสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2552 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 986 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนไตรมาส 2 ปี 2552 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 608 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2551 ซึ่งเป็นผลจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นถึง 78.5% จากกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขาย และรายได้ค่านายหน้าจากธุรกิจหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นตามภาวะตลาดทุนที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนทางด้านสินทรัพย์มียอดรวมอยู่ที่ 121,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 ประมาณ 6.3% ขณะที่สินเชื่อธนาคาร ยังคงมุ่งเน้นใน 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย สินเชื่อทั่วไป ซึ่งประกอบด้วย สินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อบุคคล การบริหารเงินลงทุนในสิทธิเรียกร้องและบริการทรัพย์สินรอการขาย และธุรกิจหลักทรัพย์

โดยเงินให้สินเชื่อและลูกหนี้เติบโตขึ้น 2% มียอดรวมอยู่ที่ 82,395 ล้านบาท โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 56,649 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย หรือราว 0.9% จากสิ้นปี 2551 ซึ่งสอดคล้องตามภาวะตลาดที่ยอดจำหน่ายรถยนต์รวมทุกประเภทในครึ่งปีลดลงราว 28% โดยธนาคารมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของสินเชื่อเช่าซื้ออยู่ที่ 2.2% ลดลงจากเดิมที่ 2.5% ส่วนสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เติบโตเพิ่มขึ้น 8.4% มียอมรวมอยู่ที่ 14,987 ล้านบาท สำหรับเงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบีอี และหนี้สินอื่นๆ อยู่ที่ 104,515 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนราว 7.1% โดยมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยที่ระดับ 16.91%”

นางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานสายธุรกิจเงินฝากและการตลาด ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ธนาคาร ยังคงเน้นการขยายฐานเงินฝากลูกค้าไปสู่รายย่อย เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าผ่านสาขา เครื่องเอทีเอ็ม และบริการ KK e-Banking รวมถึงการนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษด้วยอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารได้นำเสนอโปรโมชั่น KK Maximum ที่เป็นโปรโมชั่นงินฝากประจำระยะยาว รวม 4 ปี โดยให้ดอกเบี้ยเป็นขั้นบันได ปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3% ต่อปี ปีที่ 3 ดอกเบี้ย 4% ต่อปี และปีสุดท้ายคือปีที่ 4 ดอกเบี้ยสูงถึง 5% ต่อปี โดยธนาคาร จะจ่ายดอกเบี้ยให้ทุกเดือน รับฝากขั้นต้นที่ 500,000 บาท และสูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท นั้น ซึ่งเปิดรับได้ 5 วัน ปรากฏว่ามียอดเงินฝากเข้ามาราว 3,000 ล้านบาท จากเป้า 5,000 ล้านบาทที่ตั้งไว้ ซึ่งจะทำการปิดรับในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ นอกจากนี้ ธนาคาร หนึ่งในภาคีภาคธุรกิจการเงิน ได้ร่วมจัดงานวันสตรีไทยกับสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยได้จัดเตรียมโปรโมชั่นเงินฝากพิเศษสำหรับวันสตรีไทยไว้ด้วย คือ “ฝากประจำ 24 เดือน ดอกเบี้ย 2.75% ต่อปี” และมอบสิทธิพิเศษสำหรับสตรีที่รักการออม สำหรับ 1,000 ท่านแรก ที่เปิดบัญชีวงเงินฝากขั้นต่ำ 500,000 บาท จะได้รับแสตมป์วันสตรีไทย มูลค่า 120 บาท และประกันอุบัติเหตุวงเงิน 100,000 บาท คุ้มครองทั่วโลกจากเมืองไทยประกันชีวิต (เงื่อนไขเป็นไปตามประกาศธนาคาร) โปรโมชั่นวันสตรีไทยนี้จะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 14 สิงหาคม 2552”