ระยอง –บ๊อช จับมือ พันธมิตรทางธุรกิจ ”ระยองดีเซล” เปิดศูนย์บริการบ๊อช ดีเซล เซ็นเตอร์ ใหญ่สุดในประเทศไทย ที่จังหวัดระยอง ใช้งบลงทุนเบื้องต้นกว่า 60 ล้านบาท เพื่อรองรับระบบดีเซลแรงดันสูงรุ่นใหม่ เช่น คอมมอนเรล สามารถให้บริการลูกค้าในเขตภาคตะวันออก และครอบคลุมจังหวัดใกล้เคียงด้วย
นายยิ่งยวด หวังประโยชน์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายอะไหล่รถยนต์ บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2552 นี้บ๊อชได้มีการขยายตลาดเพิ่มเติมโดยมาให้ความสำคัญกับการเปิดศูนย์บริการ บ๊อช ให้มีมาตรฐานเดียวกันกับที่ประเทศเยอรมนี ทั้งนี้เนื่องจากเล็งเห็นว่าแนวโน้มของศูนย์บริการในอนาคตจะมีความสำคัญและมีการพัฒนามากขึ้นทั้งในด้านของมาตรฐาน คุณภาพ และ เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการให้บริการในด้านต่างๆ ซึ่งบ๊อชเองก็มีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐาน ออกแบบและผลิตชิ้นส่วนอะไหล่พร้อมอุปกรณ์ตรวจเช็คที่มีเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว ในส่วนของประเทศไทย ตลาดของเครื่องยนต์ดีเซลถือเป็น อีกหนึ่งตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องการการบริการ ที่ได้มาตรฐานสากลจากศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญ บ๊อชจึงได้เดินหน้าเปิดศูนย์บริการ “บ๊อช ดีเซล เซ็นเตอร์ (BDC)” เพื่อเตรียมความพร้อมในการซ่อมระบบดีเซลที่ทันสมัยและซับซ้อนมากขึ้น และล่าสุดบ๊อชได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ “ระยองดีเซล” เตรียมเปิดศูนย์บริการบ๊อชดีเซลเซ็นเตอร์ ที่จังหวัดระยอง ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์บริการบ๊อช ดีเซล ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงสาย36 (กระทิงลาย-ระยอง) ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง
“ผลิตภัณฑ์ของฝ่ายอะไหล่รถยนต์บ๊อชครอบคลุมทั้งอะไหล่รถยนต์ อุปกรณ์วิเคราะห์เครื่องยนต์และระบบตรวจเช็คช่วงล่าง รวมถึงศูนย์บริการรถยนต์มาตรฐานบ๊อช ทั้งระบบเบนซิน และ ดีเซล บ๊อช มีแผนที่จะพัฒนา และปรับปรุงการดำเนินงานของธุรกิจศูนย์บริการอิสระ ทั้งระบบเบนซิน และ ดีเซล ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่เข้มงวดของบ๊อช เพื่อรองรับการแข่งขัน และการเปลี่ยนแปลงของตลาดในปัจจุบัน ทั้งในเรื่องของภาพลักษณ์ของศูนย์บริการทั้งภายในและภายนอก, การเพิ่มทักษะให้แก่เจ้าของศูนย์บริการบ๊อชทั้งในด้านเทคนิค แนวคิดการดำเนินการและการปรับปรุงศูนย์บริการ, รวมถึงการพัฒนาช่างซ่อมและผู้ให้บริการภายในศูนย์บริการบ๊อช เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถในการซ่อมตามมาตรฐานบ๊อช โดยบ๊อชจะให้การอบรมทั้งในเรื่องของความรู้ ด้านสินค้า ข้อมูลทางด้านเทคนิคและการจัดการ รวมถึงการให้การฝึกอบรมวิธีการใช้งานเครื่องมือตรวจวิเคราะห์และอุปกรณ์ที่ทันสมัยและเทคโนโลยีชั้นสูงของบ๊อช และยังดำเนินการตรวจสอบคุณภาพของศูนย์บริการบ๊อชตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ใช้บริการเกิดความพึงพอใจและความเชื่อมั่น ในคุณภาพของศูนย์บริการบ๊อชว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากลของบ๊อช” นายยิ่งยวดกล่าว
ทางด้านนายอรรณพ จารุวนาวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท ระยองดีเซล จำกัด เปิดเผยเพิ่มเติม ถึงศูนย์บริการดังกล่าวว่า ใช้งบลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 60 ล้านบาท โดยให้บริการครอบคลุมทั้งการตรวจวิเคราะห์ปัญหาระบบเครื่องยนต์( Engine management Diagnosis ) ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ KTS550 จากบ๊อช ,การตรวจเช็คควันดำจากไอเสียเครื่องยนต์, การตรวจวิเคราะห์ ตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ ( Engine Inspection Condition), การตรวจสอบ–ซ่อม ปั๊มเชื้อเพลิง และหัวฉีด เครื่องยนต์ดีเซล รวมทั้ง ระบบคอมมอนเรล และ ปั๊มอิเลคทรอนิคส์ ด้วยแท่นเช็คปั๊ม EPS815 ซึ่งเป็นเครื่องมือเทคโนโลยีชั้นสูงของบ๊อช, การตรวจสอบ–ซ่อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ และการตรวจสอบ–ล้างหัวฉีดเบนซิน โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการประมาณ 200 ราย/เดือน
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการกับศูนย์ฯ มีทั้งกลุ่มที่เป็นผู้ใช้รถระบบดีเซลทั่วไป หรือ เป็นรถส่วนตัว, กลุ่มผู้ประกอบการ เช่น กลุ่มขนส่ง/รถบรรทุก, กลุ่มลูกค้ารถฟลีต, กลุ่มเครื่องจักรกลหนัก, กลุ่มลูกค้าในระบบราชการ ลูกค้าต่างประเทศ จนถึงระดับศูนย์บริการอื่นๆ ในแต่ละยี่ห้อ ทั้งในจังหวัดระยอง จังหวัดใกล้เคียง ในภาคตะวันออก และจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศ นอกจากนี้บริษัทยังมีเครือข่ายโดยทำงานร่วมกันกับศูนย์บริการบ๊อช ดีเซล เซอร์วิส (BDS) ในจังหวัดอื่นๆ อีกกว่า 10 จังหวัด เพื่อดูแลลูกค้าที่เข้ารับบริการจากระยอง ดีเซล โดยลูกค้าที่เคยเข้ารับบริการ ที่ศูนย์ BDC จังหวัดระยอง และหากเกิดมีปัญหาที่อื่น เช่น ที่เชียงใหม่ ทางบริษัทสามารถแจ้งไปยังศูนย์เครือข่ายที่เชียงใหม่ให้แก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ โดยลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน ซึ่งบริษัทกำลังพัฒนาขยายเครือข่ายการให้บริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ และเป็นการรับประกันการให้บริการของศูนย์ BDC จังหวัดระยองด้วย
นายอรรณพ กล่าวเพิ่มเติมว่า หัวใจของการให้บริการของเราคือการให้บริการเสมือนเรากำลังซ่อมรถของตัวเอง ดังนั้น เราจะตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดรอบคอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนทำการซ่อม และให้คำแนะนำอย่างถูกต้องและตรงประเด็นแก่ลูกค้าของเรา ซึ่งศูนย์ของเรามีบุคลากรและเครื่องมือที่ทันสมัยรองรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยจะเห็นได้ว่าปัจจุบันเครื่องยนต์ดีเซลพัฒนาไปมาก จากปั๊มดีเซลแรงดันต่ำแบบแถว ก็ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน เป็นระบบปั๊มดีเซลแรงดันสูง ระบบดีเซลแบบอีเลคทรอนิคส์ อาทิ ระบบคอมมอนเรล ระบบยูนิทอินเจ็คเตอร์ ระบบปั๊มหัวฉีดดีเซลรุ่น VP44 ที่ให้กำลังสูง แรงบิดสูง ความทนทานและสามารถ ใช้งานหนักได้ดี “ สิ่งที่ผู้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลควรคำนึงถึงคือ เรื่องการดูแลรักษา เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง-ไส้กรองตามอายุ การเลือกเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่สะอาด เปลี่ยนไส้กรองดีเซล เมื่อครบกำหนด มีการวอร์มอัพ และ วอร์มดาวน์เครื่องยนต์เมื่อเริ่มและหยุดการใช้งานเป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการยืดอายุเครื่องยนต์ให้มีกำลังอยู่เสมอ ที่สำคัญ คือ เมื่อรถเกิดปัญหา ควรติดต่อช่างผู้ชำนาญหรือสถานประกอบการที่ท่านมั่นใจเท่านั้น” นายอรรณพกล่าว
ปัจจุบัน บ๊อชมีศูนย์บริการบ๊อช ดีเซล เซ็นเตอร์ (BDC) 4 แห่ง อยู่ในกรุงเทพฯ 3 แห่ง และที่จังหวัดระยอง เป็นแห่งที่ 4 โดยบ๊อชมีเป้าหมาย ในการขยายศูนย์ BDC แบบค่อยเป็นค่อยไปเนื่องจากในการขยายศูนย์บริการเป็น BDC นั้นต้องใช้เงินลงทุนที่สูงมากและต้องผ่านการอบรมต่างๆจากบ๊อชด้วย นอกจากศูนย์บริการบ๊อช ดีเซล เซ็นเตอร์แล้วบ๊อชยังมีศูนย์บริการบ๊อช ดีเซล เซอร์วิส (BDS) อีกจำนวน 43 แห่งทั่วประเทศด้วย