TSL ลงทุนกว่า 100 ล้าน เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ ใจกลางย่านธุรกิจ

TSL ขึ้นแท่นเบอร์ 1 เกรย์มาร์เก็ตในประเทศไทย เผยยอดขายโตสวนกระแส ล่าสุดทุ่มงบกว่า 100 ล้าน ยึดทำเลย่านทองหล่อ เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรแห่งใหม่ แย้มแผนปีหน้า ทุ่มทุนเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ

นายสุรสิทธิ์ อุดมผลวณิช ประธานกรรมการ บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าอิสระ รถยนต์จากต่างประเทศ (เกรย์ มาร์เก็ต) เปิดเผยถึงความสำเร็จและทิศทางของการทำธุรกิจของ TSL ว่า หลังจากที่บริษัทดำเนินธุรกิจนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศมาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วนั้น ปรากฏว่าบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนสามารถเป็นผู้นำเข้ารถยนต์อิสระรายใหญ่อันดับ 1 ของประเทศไทยได้ในขณะนี้ เพราะไม่เพียงแค่ยอดจำหน่ายที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ในส่วนของการให้บริการหลังการขาย บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาโดยตลอด มีอุปกรณ์เครื่องมือในการตรวจซ่อมที่ทันสมัย ที่สำคัญคือ TSL เป็นศูนย์บริการรายแรกที่สามารถรองรับเครื่องยนต์ไฮบริด(ตั้งแต่ปี 2549) จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจเพื่อรองรับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาทสร้างโชว์รูมแห่งใหม่ที่ปากซอยทองหล่อ ( สุขุมวิท 55 ) เพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ถือเป็นสาขาที่ 3 ของ TSL ที่เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการแล้ว

นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า โชว์รูมแห่งแรกอยู่ที่แจ้งวัฒนะ เป็นสำนักงานใหญ่ แห่งที่ 2 อยู่ที่สาทร และโชว์รูมใหม่ปากซอยทองหล่อแห่งนี้เป็นสาขาที่ 3 เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการที่จะช่วยเพิ่มให้ความสะดวกกับลูกค้าที่จะเข้ามารับบริการได้มากขึ้น และที่นี่จะเป็นจุดต้นแบบของการยกระดับการให้บริการหลังการขายสำหรับรถยนต์นำเข้าและรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม ในนาม SMRT (Smart team and Smart service) อีกด้วย สำหรับในปี 2553 นี้ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานทั่วเขตกรุงเทพฯ อีกด้วย

“วันนี้ถือเป็นความสำเร็จของ TSL อีกก้าวหนึ่งที่ได้ขยายการให้บริการกับลูกค้าของเรา การที่เรามีนโยบายและยืนหยัดในอุดมการณ์ของการทำงานที่เรามุ่งเน้นผลประโยชน์ของลูกค้ามากที่สุด รักษามาตรฐานการบริการด้วยความจริงใจ ทำให้ลูกค้าให้ความไว้วางใจมาโดยตลอด ซึ่ง TSL ไม่เพียงแค่จะให้บริการลูกค้าของเราเท่านั้น ลูกค้าที่ไปซื้อรถมาจากที่อื่นแล้วมาเข้าศูนย์บริการของ TSL เราก็ยินดีรับบริการด้วยเช่นกัน” นายสุรสิทธิ์กล่าว

ด้านนางสาว สุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช รองประธานกรรมการ บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึงสถานการณ์ของตลาดรถยนต์นำเข้าในขณะนี้ว่าตลาดโดยรวมยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะเดียวกันการแข่งขันทางการตลาดยังคงรุนแรงด้วยเช่นกัน เพราะมีผู้จำหน่ายรายใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลาดรถยนต์ระดับนี้อาจจะสวนกระแสภาพรวมของตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ที่หดตัวลงไปบ้าง เพราะกลุ่มลูกค้าระดับนี้จะเป็นกลุ่มลูกค้าในระดับพรีเมี่ยม ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองนัก

สำหรับยอดจำหน่ายของ TSL เมื่อปีที่ผ่านมานั้น นางสาวสุรีย์ภรณ์ กล่าวว่ายอดจำหน่ายโดยรวมของปี 2551 มีอัตราการเติบโตกว่า 100% โดยมียอดจำหน่ายมากถึง 352 คัน เมื่อเทียบกับ 2549 จำหน่ายได้ 167 คัน และในปี 2552 นี้คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก30% หรือไม่น้อยกว่า 450 คัน โดยมีสินค้าหลักคือ Estima, Cube, Vellfire, The New E-Class, SLK-Class และ Bb แต่อย่างไรก็ตามเราต้องยอมรับว่าปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจรวมถึงราคาน้ำมันมีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าอยู่พอสมควร ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังจะเดินหน้าทำตลาดด้วยสินค้ากลุ่มไฮบริดอย่างต่อเนื่อง โดยยอดจำหน่ายของบริษัทในปีนี้เป็นรถยนต์จากญี่ปุ่นราว 70% ในจำนวนนี้เป็นรถยนต์เทคโนโลยีไฮบริดประมาณ 30% มีรุ่นหลัก ๆ คือ Prius Hybrid และ Estima Hybrid

“เราจะเน้นการดำเนินธุรกิจของเราด้วยหัวใจหลัก 3 ประการคือ Excellent Service การให้บริการหลังการขายที่เป็นเลิศ, Fresh Product สินค้าใหม่ สดก่อนใคร และสุดท้าย Reasonable Price สินค้าคุณภาพราคาสมเหตุสมผล ขณะเดียวกันยังส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีต่อคู่ค้า และหัวใจของการให้บริการอย่างจริงใจและ เป็นกันเองต่อลูกค้าและพนักงานทุกท่าน และในส่วนของงาน Service นั้น ทีเอสแอลฯ ตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์บริการรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมที่ดีที่สุด โดยเตรียมเพิ่มช่องทางบริการให้มากขึ้น ภายในต้นปีหน้าและเสริมจะมีการให้บริการแบบเคลื่อนที่ (Delivery services) คือ การให้บริการนอกสถานที่โดยเราจะไปเช็ครถและตรวจสภาพรถให้ลูกค้าถึงที่บ้าน ไปตรวจตามระยะ ตามรายการที่เป็นมาตรฐานทั้ง 24 รายการ การให้บริการอย่างนี้เป็นการเพิ่มช่องทางการให้บริการลูกค้าอีกทางหนึ่ง และเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการของเราอีกด้วย ” นางสาวสุรีย์ภรณ์ กล่าว