เวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้งสำหรับบริษัทประกันชีวิตสายเลือดของขบวนการสหกรณ์ไทย ที่ยืนหยัดรับใช้ให้บริการแก่สมาชิกสหกรณ์มาเป็นเวลา 15 ปีเต็มในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2552นี้
นายสหพล สังข์เมฆ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า โคยคณะกรรมการบริษัทฯ ชุดที่ 15 ได้บริหารงานท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่มีแนวโน้มถดถอย อย่างไรก็ตามคณะกรรมการได้ใช้ความตั้งใจ ความซื่อสัตย์ บริหารกิจการจากที่เคยติดลบมานานกว่า 8 ปีเต็ม มีกำไรถึง 2.08 ล้านบาท อันเนื่องจากได้รับความร่วมมือจากสหกรณ์ผู้ถือหุ้นอย่างดียิ่งต่อ การตัดสินใจ เจาะจง เลือกใช้บริการ จัดบริการคุ้มครองภัยกับบริษัทประกันชีวิตที่สหกรณ์เป็นเจ้าของ ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดต่อความสำเร็จและความยั่งยืนของบริษัทเพื่อ
1) มุ่งสร้างรายได้ และความมั่นคงที่ยั่งยืนถาวรให้แก่สหกรณ์ผู้ถือหุ้น
2) มุ่งสร้างสวัสดิการ กินดี อยู่ดี และยกระดับ พัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งของสมาชิกสหกรณ์ผู้ถือหุ้น และบุคคลในครอบครัวให้มีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีเลิศ
3) มุ่งมั่นสู่การเป็นองค์กรกลางทางการเงิน เพื่อสร้างหลักประกัน และความมั่นคงทางการเงินให้แก่ขบวนการสหกรณ์ไทย
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 บริษัทมีรายได้กว่า 101.02 ล้านบาท มีค่าใช้จ่าย 98.94 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายการรับประกัน 80.26 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 18.68 ล้านบาท มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ 290.92 ล้านบาท มีเงินสำรองประกันภัย 334.27 ล้านบาท มีจำนวนสหกรณ์ผู้ใช้บริการ 106 สหกรณ์ 163 กรมธรรม์
นับเป็นมิติใหม่ ภาพลักษณ์ใหม่ ของบริษัท แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความสามัคคีของพี่น้องในขบวนการ สหกรณ์ ซึ่งเป็นภาพแห่งความเอื้ออาทรและสมานฉันต่อกัน เป็นภาพของความเชื่อมั่นศรัทธาที่มีต่อบริษัทของเราเอง ภาพเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าสหกรณ์ผู้ถือหุ้นพร้อมอยู่เสมอที่จะร่วมมือร่วมใจร่วมกันคิดร่วมกันทำไปกับบริษัทหนึ่งเดียวของขบวนการสหกรณ์แห่งนี้
คณะกรรมการชุดปัจจุบัน ผู้อาสาเข้ามารับปัญหานานานับประการที่มีมาตลอด 14 ปี ขันอาสาเข้ามาช่วยปรับปรุง แก้ไข และฟื้นฟูกิจการขึ้นใหม่ด้วยความหวังที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งบริษัทประกันชีวิตของคนไทย จนวันนี้ทำให้บริษัทมีโอกาสทางการเงินในระดับที่แข็งแกร่งเป็นที่น่าพอใจ ดังจะเห็นได้ว่าอัตราการเติบโตของธุรกิจในเดือนมิถุนายน 2552 เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551 พบว่า
1) ภายในปี 2552 บริษัทฯ จะระดมทุนจดทะเบียนเป็นจำนวนเงินเต็ม 1,000 ล้านบาท
2) บริษัทฯ มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น อีกจำนวน 159.18 ล้านบาท
3) บริษัทฯ มีเงินสำรองประกันภัยเพิ่มขึ้น อีกจำนวน 56.28 ล้านบาท
4) บริษัทฯ มีรายได้จากเบี้ยประกันภัยรับเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 60.08 ล้านบาท
5) ความสำเร็จในครั้งนี้มาจากการบริหารจัดการธุรกิจที่เปิดกว้างรับฟังทุกความคิดเห็น แสวงหาการมีส่วนร่วมจากสหกรณ์ผู้ถือหุ้น กรรมการ และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ตัวแทนประกันชีวิต และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยทั้งนี้ได้นำมาประมวล กำหนดแนวนโยบาย แผนทิศทางการเร่งรัด ฟื้นฟู และขยายโอกาสธุรกิจโดยประกาศใช้ “นโยบายการบริหารความเสี่ยง” และ “หลักธรรมาภิบาล” เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกๆ คนที่ใช้บริการกับเรา