บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO พร้อมออกวอแรนท์ใหม่ DEMCO-W2 จำนวน 43.5 ล้านหน่วย อัตราส่วนใช้สิทธิ 7 : 1 ในราคา 2.60 บาท คาดได้เงิน 113 ล้านบาท รองรับ แผนลงทุนในอนาคต มั่นใจผู้ถือหุ้นแปลงสภาพคุ้ม รับปัจจัยบวก ทั้งโครงการ 3 จี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ และโครงการพลังงานลมดันผลงานเติบโตก้าวกระโดด
นายประเดช กิตติอิสรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO ผู้นำธุรกิจด้านงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าครบวงจร รวมถึงผลิตและจำหน่ายเสาโครงเหล็กสำหรับงานด้านไฟฟ้า โทรคมนาคมให้กับภาครัฐและเอกชน เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น มีมติอนุมัติออกใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ (วอแรนท์) ครั้งที่ 2 (DEMCO – W2) เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 43.516 ล้านหน่วย ในอัตราส่วน 7 หุ้นเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย โดยอัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อ หุ้นสามัญ 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิ 2.60 บาท ซึ่งวอแรนท์ดังกล่าวจะเข้าซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 และกำหนดการใช้สิทธิได้จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 9 มีนาคม และวันที่ 9 มิถุนายน 2553
สำหรับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ และการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนี้ หากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทุกรายใช้สิทธิ ซื้อหุ้นสามัญครบถ้วน บริษัทฯ จะได้รับเงินจากการระดมทุนในราว 113 ล้านบาท โดยเงินที่ได้ จะรองรับแผนการดำเนินงานในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้รายได้และอัตรากำไรของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น เป็นประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น
“การออกวอแรนท์ในครั้งนี้ ถือเป็นช่องทางการระดมทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะถึงแม้ธนาคารพาณิชย์พร้อมจะสนับสนุนบริษัท แต่การใช้วงเงินสินเชื่อจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสูงขึ้น ดังนั้น วิธีการออกวอแรนท์จะเป็นการรักษาระดับหนี้สินต่อทุนที่เหมาะสมและทำให้ผู้ถือหุ้นมีโอกาสในการตัดสินใจก่อนถึงวันกำหนดการใช้สิทธิ ในช่วงเดือนมีนาคม และมิถุนายน 2553 ซึ่งจะทำให้ผู้ถือหุ้นเห็นภาพธุรกิจของบริษัทฯ ได้ชัดเจนมากขึ้น ถือเป็นประโยชน์กับตัวบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น” นายประเดช กล่าว
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า DEMCO-W2 น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ถือหุ้น เพราะเชื่อว่าจะคุ้มค่ากับการแปลงสภาพ (In the money) เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มธุรกิจตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง 2552 ที่ล้วนแต่เป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ทั้งความคืบหน้าการเปิดประมูลใบอนุญาต (ไลเซนต์) โทรศัพท์มือถือระบบ 3 จี ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเป็นผู้ให้บริการจัดหาเสาโทรคมนาคม รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านโครงการไทยเข้มแข็ง และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากโครงการพลังงานลมที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ
ในส่วนของแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2552 นั้น นายประเดชกล่าวว่า น่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น เนื่องจากการดำเนินธุรกิจเป็นไปตามแผนที่วางไว้ อย่างไรก็ตามภาพรวมธุรกิจทั้งปีนี้อาจจะต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดยคาดว่ารายได้น่าจะอยู่ในระดับ 1,800 – 2,000 ล้านบาท