4 แบงก์ใหญ่ไทย-เทศ กสิกรไทย-กรุงไทย-เอ็กซิม-มิซูโฮ ปล่อยกู้บริษัทธุรกิจเรือยักษ์ใหญ่

4 แบงก์ไทย-เทศ กสิกรไทย กรุงไทย เอ็กซิมแบงก์ มิซูโฮ ร่วมปล่อยกู้โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ บริษัทที่ลงทุนในธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกองรายใหญ่ของไทยเป็นจำนวน 200 ล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นเงินทุนขยายธุรกิจขนส่ง พร้อมวางแผนขยายสู่ธุรกิจพลังงาน และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเพื่อสร้างความหลากหลายและกระจายความเสี่ยงของแหล่งรายได้

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพ ฯ ได้มีพิธีลงนามในสัญญาให้การสนับสนุนทางการเงิน (Syndicated Loan Facility) จำนวน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และธนาคารมิซูโฮ กับบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (Thoresen Thai Agencies Public Company Limited : TTA) ผู้ดำเนินธุรกิจลงทุนในธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกองรายใหญ่ของประเทศไทย

การปล่อยสินเชื่อร่วมครั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในการจัดหาสินเชื่อร่วม (Coordinator) รวมถึงได้รับแต่งตั้งให้เป็น Security Agent และ Facility Agent และมีธนาคารผู้ทำหน้าที่เป็น Mandated Lead Arrangers และร่วมปล่อยกู้ทั้งหมด 4 แห่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อส่งออกและการนำเข้าแห่งประเทศไทย และธนาคารมิซูโฮ

วงเงินสินเชื่อครั้งนี้ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) มีแผนการจะนำไปใช้เป็นเงินทุนสำรองสำหรับใช้ขยายธุรกิจใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ คือการขยายการลงทุนในธุรกิจขนส่ง ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจเกี่ยวกับสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อให้สายธุรกิจมีความเข้มแข็งและขยายไปยังตลาดใหม่ ดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของความต้องการขนส่งสินค้า และค่าระวาง รวมทั้งพยายามกระจายกลุ่มลูกค้าเพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินการ และทางการเงิน สร้างความมั่นคงของรายได้ในระยะยาว

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น (Holding Company) โดยลงทุนในธุรกิจ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2552 บริษัทเป็นเจ้าของเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองจำนวน 35 ลำ เรือบริการนอกชายฝั่ง 5 ลำ และเรือขุดเจาะ 2 ลำ

บริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อปี 2538 ปัจจุบันเป็นหนึ่งใน 50 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ฯ ที่มีมูลค่าทางการตลาดขนาดใหญ่ที่สุด (SET 50) ทั้งนี้ตลอดเวลาที่บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 มีรายได้รวมกว่า 15,900 ล้านบาท (ไม่รวมกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 676 ล้านบาท) โดยรายได้หลัก 71% มาจากธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง รองลงมาคือ ธุรกิจบริการนอกชายฝั่งที่มีรายได้คิดเป็นสัดส่วน 25%