วังทองกรุ๊ป ผู้นำเทรนด์ในการนำเสนอรูปแบบบ้าน เปิดศักราชปี 2010

วังทองกรุ๊ป เปิดศักราชปี 2010 นำเทรนด์ล้ำสุด ๆ ด้วยเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ Mixed Reality ในการนำเสนอรูปแบบบ้าน สร้างห้องจำลอง ที่มองเห็นได้รอบ 360 องศา เพื่อสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นต่อลูกค้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้านดีไซน์ และรูปแบบโครงการที่แตกต่าง ด้วยการสร้างความหลากหลายของที่อยู่อาศัยให้ตรงกับความต้องการ และตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการคิดนอกกรอบและสร้างความแตกต่างที่โดดเด่น

นายปราโมทย์ เจษฎาวรางกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วังทองกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้นำโปรแกรมที่เรียกว่า Mixed Reality เป็นโปรแกรมที่พิเศษกว่าโปรแกรม 3D ทั่วไป มาปรับใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานให้กับลูกค้า โดยโปรแกรมดังกล่าวนอกจากจะช่วยประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าได้เห็นรูปแบบบ้าน ลักษณะของห้องต่าง ๆ ในลักษณะที่เหมือนจริงมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ คือ สามารถเห็นได้รอบทิศทาง ทั้ง 360 องศา ไม่ว่าจะตกแต่งหรือออกแบบมาในรูปแบบใด เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมที่ให้ความสะดวก รวดเร็ว ชัดเจน และสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Mixed Reality นั้น ควรทำความรู้จักกับโปรแกรม 3 มิติ หรือ 3 Dimension ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมพื้นฐานกันก่อน โปรแกรม 3 มิติ หรือ 3 Dimension เป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่นำมาใช้สร้างภาพวัตถุให้มีความเหมือนกับความเป็นจริงมากที่สุด หลักการสร้างวัตถุหรือรูปร่างในลักษณะ 3 มิติ จะทำได้โดยการกำหนดค่าความกว้าง ยาว และ ลึก ซึ่งจะสามารถแสดงผลให้ดูได้รอบด้าน นอกจากนี้หากนำมาผสมผสานเข้ากับการจัดแสงให้เหมือนจริง และการสร้างบรรยากาศโทนสี ก็จะมีส่วนทำให้งาน 3 มิติ มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ด้วยคุณสมบัติการสร้างมุมมองภาพเสมือนจริง ที่มีความแปลกตาและน่าสนใจ จึงสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ที่ได้พบเห็นได้ตามจินตนาการของผู้สร้างสรรค์ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ในปัจจุบันได้มีการนำโปรแกรม 3D มาสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ อาทิ การ์ตูนแอนิเมชั่น งานโฆษณา รายการโทรทัศน์ เป็นต้น

ไม่เว้นแม้แต่งานด้านสถาปัตยกรรม ที่ได้นำโปรแกรม 3D มาปรับใช้ จนเริ่มเป็นที่นิยมในการออกแบบงานก่อสร้างอาคาร การใช้คอมพิวเตอร์สร้างภาพจำลอง และเสนอผลงานแก่ลูกค้าก่อนที่จะมีการสร้างงานจริง ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นรูปร่างและรูปภาพของอาคารหรือสิ่งก่อสร้างที่จะสร้าง เพื่อปรับความเข้าใจและสามารถปรับแก้ไขได้ง่าย เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้แบบก่อสร้างที่เป็นลายวาด 2 มิติ อีกทั้งยังน่าสนใจกว่าการสร้างโมเดลกระดาษแบบดั้งเดิมอีกด้วย

แต่สำหรับเทคโนโลยี Mixed Reality เป็นเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ที่ผสมผสานระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกเสมือน ที่มีการ interactive ระหว่างคนกับ Hologram หรือภาพ 3 มิติ โดยโปรแกรมจะแสดงโมเดล ซึ่งเมื่อเรานำแผ่นป้ายพิเศษไปสัมผัส ก็จะสามารถดึงข้อมูลเพื่อชมแต่ละจุดได้ เพราะภาพจะลอยขึ้นมา เมื่อมองผ่านจอที่เชื่อมต่อกับกล้อง ก็จะเห็นวัตถุ 3 มิติวางอยู่บนแผ่นป้ายพิเศษ

ซึ่งความแตกต่างระหว่างภาพ 3 มิติ กับ Mixed Reality อยู่ที่เทคโนโลยี Mixed Reality สามารถมองเห็นรูปทรงต่าง ๆ ได้แทบทุกด้าน ซึ่งกล้องจะทำหน้าที่ส่งภาพไปยังซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์และประมวลผลให้เป็นภาพทับซ้อนกับสิ่งที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมจริง ซึ่งจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากจอคอมพิวเตอร์