เกมนัดบอด – สื่อรักออนไลน์ ความเปลี่ยนแปลง ที่ผันผ่านไปตามกาลสมัย

กรุงเทพฯ 18 มกราคม 2553 – จากผลสำรวจของ วินโดวส์ ไลฟ์ กับผู้ใช้งานกว่า 1,400 คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผู้ตอบคำถามจำนวนมาก (86.5%) ระบุว่าใช้โปรแกรมสนทนาออนไลน์ หรือ Instant Messenger (ไอเอ็ม) ในการนัดคู่เดท ในขณะที่บางราย (แม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่มากนักคือ 6.8%) บอกว่าจะใช้โปรแกรมนี้ขอคนรักแต่งงานทางออนไลน์

การสร้างความสัมพันธ์ทางออนไลน์ได้กลายเป็นเรื่องปกติของสังคมยุคไอทีไปเสียแล้ว กว่าหนึ่งในสี่ของผู้ใช้งานออนไลน์ (26.1%) บอกว่าพวกเขากล้าที่จะบันทึกภาพส่วนตัวของตัวเองทางเว็บแคมแล้วแชร์ผ่านไอเอ็มขณะสนทนากัน ในขณะที่กว่า 60% ของผู้ใช้งานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยอมรับใช้โปรแกรมนี้ เพื่อคุยจีบกันทางออนไลน์กับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนของตนเอง

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในขณะที่คนส่วนใหญ่คิดว่าการนัดเดททางออนไลน์ เป็นสิ่งที่ยอมรับได้โดยทั่วไป กลับมีผู้ร่วมการสำรวจเพียงหนึ่งในสาม (33.3%) เท่านั้น ที่คิดว่าจะเลิกกับแฟนผ่านทางไอเอ็มจริงๆได้

จากสถิติดังกล่าวนี้ เราเชื่อว่าเกมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์แบบรักๆใคร่ๆ ได้ดำเนินมาถึงจุดพลิกผันแล้ว มีผู้ชายจำนวนมากที่มีแนวโน้มในการขอไอดี (ID: Identification) ของหญิงสาวเพื่อจะได้ แช้ทออนไลน์มากกว่าที่จะขอเบอร์โทรศัพท์

ปัจจุบันผู้คนมากมาย เริ่มเดทกันทางออนไลน์ก่อนที่จะได้เจอหน้า “แฟน” กันจริงๆ นี่หมายความว่าอย่างไร และคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ที่คุณจะเริ่มจริงจังกับการเดทแบบออนไลน์ และพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ทิปส์ข้างล่างนี้เป็นข้อแนะนำจากเว็บไซต์ แม็ทช์ดอทคอม (Match.com) บนเอ็มเอสเอ็น ที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณรู้ว่า เมื่อไหร่คือเวลาที่ใช่ ในการนัดพบคู่เดทของคุณแบบ “ตัวเป็นๆ”

1.เกิดอาการสปาร์คซึ่งกันและกัน และดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
เอาล่ะ แม้จะเป็นการจีบกันทางอีเมล์ ที่ดูเหมือนจะใสซื่อบริสุทธิ์ แต่คุณก็สามารถบอกได้ว่าชายหนุ่มหรือหญิงสาวคนนั้นจะคลิกกับคุณได้หรือไม่ หากการเดทกันทางออนไลน์มีดีกรีที่เข้าขั้นร้อนแรง ลองคิดดูสิว่าเวลาที่เจอกันซึ่งๆหน้าโดยไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์กั้นกลางระหว่างคุณ มันจะร้อนแรงได้อีกขนาดไหน

2.เกิดความหวัง
คุณเกิดความรู้สึกตุ้มๆ ต่อมๆ ทุกครั้งที่ได้รับข้อความไอเอ็มหรือเปล่า คุณรู้สึกผิดหวังที่มันเป็นแค่แมสเสจจากเพื่อนร่วมงานของคุณในห้องถัดไปหรือเปล่า คุณรู้ว่าคุณจะต้องพบคนๆนี้ให้ได้ แม้ว่าจะเป็นแค่เพียงเพื่อความสบายใจหรือแค่ความอยากรู้อยากเห็น

3.กระหน่ำโทรหากันทุกวัน
บางทีคุณทั้งสองคนอาจจะได้พัฒนาความสัมพันธ์ออกจากโลกไซเบอร์ไปสู่โลกแห่งการใช้เทคโนโลยีมือถือแล้วก็ได้ คุณรู้สึกมีความสุขที่ได้พูดคุยกันตลอดเวลา หรือกระทั่งถึงขั้นที่คุณไม่รู้สึกรำคาญเลยแม้แต่น้อย เมื่อเขาหรือเธอโทรมาหาคุณในเวลาหลังเที่ยงคืนหรือเมื่อคุณหลับไปแล้ว ในสัปดาห์ต่อมาถ้าคุณยังสามารถใช้เวลาพูดคุยกันเกี่ยวกับวันวานเก่าๆสมัยที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยได้ละก็ ออกเดทกันแบบจริงๆจังๆ ได้เลย

4.การทอดสะพานแบบเป็นนัยๆ
เขาหรือเธอเคยถามคำถามเหล่านี้กับคุณหรือเปล่า เช่น “เคยไปทานดินเนอร์ที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนเปิดใหม่แล้วหรือยัง” “เขาว่าอวตาร 3D เจ๋งมากนะ น่าไปดูเนอะ” แต่ก็ยังไม่มีคำถามต่อเนื่องในเชิงชักชวน คู่เดทของคุณอาจจะพยายามลองหยั่งเชิงหรือเขินอายอยู่ คุณอาจจะช่วยให้สถานการณ์นี้ง่ายขึ้น โดยการตอบกลับไปว่า “ยังเลย แต่เราน่าจะลองไปทานด้วยกันนะ” หรือ “ดีเลย กำลังคิดจะชวนอยู่เหมือนกัน” เป็นต้น

หากมีสัญญาณที่แสดงให้เห็นความเป็นไปได้ในการพบกันแบบตัวต่อตัว ลองวางแผนเพื่อนัดพบกันในที่สาธารณะ หรือจะเจอกันพร้อมกับกลุ่มเพื่อนก็ได้ คุณอาจจะเลือกร้านอาหารที่คุณเคยพูดถึงตอนที่แช้ทออนไลน์ การนัดพบกับคนที่เราแช้ททางออนไลน์เป็นวิธีการที่ดีในการเลือกสกรีนคู่เดทได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในที่สุดคุณก็ควรตัดสินใจมาเจอกันตัวเป็นๆให้ได้ ว่ากันตามจริงแล้วการได้นั่งกุมมือกัน ยังดีกว่ามานั่งกอดแป้นพิมพ์อยู่หน้าจอเป็นไหนๆ