กรุงเทพฯ – 4 มีนาคม 2553 – กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับภาคเอกชน กำหนดจัดงานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง ปี 2553 หรือ BIFF & BIL 2010, ASEAN Integration Textiles – Apparel – Leather นำเสนอความยิ่งใหญ่และครบครันของอุตสาหกรรมแฟชั่นในอาเซียน ตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ ไปถึงปลายน้ำอีกครั้งต้นเดือนเมษายนนี้ ภายใต้แนวคิด “Look East”
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ในปี 2552 ไทยมีรายได้จากการส่งออกสินค้าแฟชั่น 1.76 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 2.24 และคาดว่าจะสูงเกิน 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2553 เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึงร้อยละ 9-13 แบ่งเป็นสินค้าสิ่งทอ 7-7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 – 12 เครื่องนุ่งห่ม 3.2 – 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-15 ผ้าผืนและเส้นด้าย 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 สินค้าเครื่องหนัง 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1 และจากการที่ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หลายฉบับมีผลบังคับใช้แล้วในปีนี้ คาดว่าจะส่งผลให้มูลค่าทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่ค้าจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว นับเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิต ผู้ขาย และผู้ซื้อที่จะได้ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงดังกล่าว”
นายยรรยง กล่าวอีกว่า “งาน BIFF & BIL 2009 ในปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี นับเป็นครั้งแรกที่ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนผนึกกำลังแสดงขีดความสามารถด้านแฟชั่นร่วมกันใน ASEAN Fashion Plus Pavilion สำหรับในปี 2010 นี้ ภายใต้วิสัยทัศน์ที่เรียกว่า ASEAN Integration เชื่อแน่ว่างาน BIFF & BIL จะช่วยให้ผู้ประกอบการจากชาติสมาชิกอาเซียน ตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีโอกาสได้แสดงศักยภาพของตนให้ประจักษ์สู่สายตาผู้ซื้อจากทั่วโลกมากขึ้น นับเป็นอีกกลไกหนึ่งที่ส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังโดยรวม”
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “อุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งประกอบด้วยสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้เดินทาง เครื่องหนังและรองเท้า ถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของภาคส่งออกของไทยที่เติบโตต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยหนุนการเติบโตดังกล่าวมาจากความร่วมแรงร่วมใจกันของภาครัฐและเอกชนในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย เพื่อก้าวเป็นศูนย์กลางแฟชั่นในอาเซียน สำหรับงาน BIFF & BIL ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 25 แล้ว โดยยังคงตอกย้ำความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตอย่างยั่งยืน งานนี้จึงมีความสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ ไม่เฉพาะแต่อุตสาหกรรมแฟชั่นของไทยเท่านั้น แต่ยังช่วยขยายความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนได้อีกด้วย”
ในปี 2552 มีผู้ประกอบการร่วมแสดงสินค้ากว่า 700 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนถึง 114 ราย สำหรับงานในปีนี้มุ่งต่อยอดความร่วมมือดังกล่าวภายใต้กรอบ ASEAN Integration เพื่อแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมแฟชั่นในอาเซียนที่พร้อมจะประสานพลังความคิดสร้างสรรค์ ความเชี่ยวชาญ และการผลิตแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดส่งออกสำคัญๆ โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น อินเดีย และตะวันออกกลาง สำหรับงาน BIFF & BIL 2010 จะเป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่นจากผู้ผลิตชั้นนำในอาเซียนที่หลากหลายและครบวงจรที่สุด ภายใต้แนวคิด “Look East” ทั้งสินค้าตามเทรนด์ล่าสุดของตลาดโลกและสินค้าในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ โดยปีนี้มีผู้ร่วมแสดงสินค้ากว่า 1,000 ราย
นายปิลันธน์ ธรรมมงคล ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “งาน BIFF & BIL เป็นเวทีแสดงศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมสิ่งทอไม่แพ้ปัจจัยด้านอื่นๆ ที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ของภูมิภาค เทคโนโลยีการผลิต แหล่งวัตถุดิบ และแรงงานที่มีฝีมือ อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถแข่งขันด้วยราคาที่ถูกอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่ต้องเร่ง คือ สร้างคนของเราให้มีคุณภาพสูงขึ้น รู้เทรนด์เพื่อที่จะได้นำเสนอให้ถูกกลุ่มเป้าหมาย ถูกที่ และถูกเวลา ตามทันเทคนิคการผลิตใหม่ๆ ทั้งยังต้องรู้จักสร้างมูลค่าให้กับสินค้าด้วย งานนี้จึงเป็นโอกาสแจ้งเกิดของนักออกแบบหน้าใหม่มากความสามารถ รวมถึงผู้ประกอบการไทยที่จะได้เรียนรู้เทรนด์ใหม่ๆ และความต้องการที่แท้จริงของตลาด สำหรับอัตราเติบโตของอุตสาหกรรมสิ่งทอในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 14-15”
นางปรานี คุรุเวฬุกรณ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย และรองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์หนัง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “อุตสาหกรรมฟอกหนัง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านบุคลากร เครื่องจักร และการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ในอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์หนังฟอกของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องพร้อมคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับระดับสากลสู่ตลาดในประเทศและตลาดโลก ทั้งนี้ในปี 2552 ไทยส่งออกหนังฟอกมีมูลค่ารวมกว่า 447 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสินค้าเครื่องหนัง เครื่องใช้ในการเดินทาง และรองเท้า มูลค่ารวมกว่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าปีนี้จะขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้ได้พัฒนาและปรับตัวให้สอดคล้องกับเทรนด์ของตลาดโลกเป็นอย่างดี โดยเฉพาะด้านคุณภาพ การออกแบบ และระบบการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันภาครัฐและเอกชนก็ได้พยายามร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Thailand’s Leather Goods: Italy of the East โดยให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา รวมถึงส่งเสริมการสร้างตราสินค้าไทย เพื่อสร้างมูลค่าให้กับสินค้าไทย โดยในปีนี้จะมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมหนัง เครื่องหนังและรองเท้าร่วมแสดงสินค้าในงาน BIFF & BIL รวม 252 บูท นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะได้แสดงศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมหนังและเครื่องหนังไทย”
กิจกรรมเด่นที่น่าสนใจ ในงาน BIFF & BIL 2010, ASEAN Integration Textiles – Apparel – Leather ได้แก่
– การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทย และผลงานแฟชั่นจากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)
– การประชุม Asian Designer Congress ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักออกแบบในภูมิภาคเอเชีย
– การเปิดตัว Thailand Designer Club ผ่านกิจกรรมคูหาเจรจาการธุรกิจเพื่อซื้อขายแบบระหว่างนักออกแบบแฟชั่นและผู้ประกอบการ รวม 50 คูหา
– การแสดงแฟชั่นโชว์รวม 48 รอบโชว์ จากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Workshop การแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย Bangkok Trend 2011/10 สมาคมอุตสาหกรรมฟอกย้อมพิมพ์และตกแต่งสิ่งทอไทย สำหรับตลาดตะวันออกกลาง และ Thai Designer ในตลาดญี่ปุ่น และ New Collection จากผู้ประกอบการแฟชั่นต่างๆ
– นิทรรศการ โครงการสร้างนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลก หรือ Designers’ Room, Thai Tex Trend (T3), Fashion Network : For US Market
– การสัมมนา “ Trend Fashion 2011/12 โดย WGSN
– การจัดแสดงสุดยอดผลิตภัณฑ์อาเซียนใน ASEAN Integration Pavilion
– การจัดแสดงผ้าผืนและเสื้อผ้า จากผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วม โครงการพัฒนาผ้าผืน/เสื้อผ้าสำเร็จรูปสู่ตลาดญี่ปุ่น ภายใต้กรอบ JTEPA และผลงานการออกแบบโดยนักออกแบบของ Bunka Fashion Graduate University จำนวน 20 ชุด โดยใช้ผ้าจากโครงการฯ ใน Japan Pavilion
นอกเหนือจากการแสดงสินค้าและกิจกรรมพิเศษหลากหลายแล้ว กรมส่งเสริมการส่งออกยังมีบริการการจับคู่ทางธุรกิจ ระหว่างผู้เข้าร่วมงาน BIFF&BIL 2010 กับผู้นำเข้าจากต่างประเทศ (Business Matching) ตลอด 4 วันของการจัดงาน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสามารถนัดหมายล่วงหน้าเพื่อพบปะเจรจาธุรกิจการค้าแบบเป็นส่วนตัวในสถานที่รับรองที่จัดไว้อย่างเป็นสัดส่วน พร้อมอุปกรณ์สำนักงานและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บริการนี้ได้รับความสนใจและมีผลตอบรับดีมาก โดยขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานแล้วจาก 37 ประเทศ และมีผู้ซื้อรายใหญ่จากหลายประเทศแจ้งความประสงค์ขอนัดหมายเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยที่จะมาร่วมแสดงสินค้าในงานแล้วกว่า 20 ราย
งาน BIFF & BIL 2010 , ASEAN Integration Textiles – Apparel – Leather กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 4 เมษายน 2553 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยวันที่ 1 – 2 เมษายน สำหรับนักธุรกิจ (เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.) วันที่ 3 – 4 เมษายน สำหรับประชาชนทั่วไป (เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.biffandbil.com สำหรับบริการ Business Matching สามารถ ดาวน์โหลด File: Exhibitor Application Form และ Buyer Application Form จาก www.biffandbil.com