THANA หุ้นอสังหาฯ “จิ๋วแต่แจ๋ว” เตรียมเปิดอีก 3 โครงการใหม่รวม 1,360 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้

บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป หรือ THANA หุ้นอสังหาฯตัวเดียวในตลาดเอ็มเอไอ เผยความแข็งแกร่งด้วยยอดขายไตรมาส 1 ที่เติบโตถึง 58 % เตรียมเปิดโครงการใหม่ในจ.นนทบุรีอีก 3 โครงการมูลค่ากว่า 1,360 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 30-40%

นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1 ปี 2553 บริษัทฯ มีรายได้สุทธิ 240 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 152 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 58 โดยมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 42.47 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 12.84 ล้านบาท โดยได้มาจากการเปิดโครงการใหม่ คือ โครงการธนาสิริ ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์ 2 และโครงการเดอะไพรเวซี่ ไพร์มเพลส 2 สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2553 บริษัทฯ เตรียมแผนงานที่จะเปิดโครงการใหม่ที่นนทบุรีอีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 1,360 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเดอะ คลัสเตอร์ วิลล์ ราชพฤกษ์-พระราม 5 มูลค่าโครงการ 370 ล้านบาท บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จำนวน 82 ยูนิต เนื้อที่โดยประมาณ 16 ราคา ไร่ราคาขายเฉลี่ย 4.5 ล้านบาท ต่อยูนิต โครงการเดอะ คลัสเตอร์ วิลล์ ปิ่นเกล้า – ราชพฤกษ์ บ้านแฝดสไตล์บ้านเดี่ยว และบ้านเดี่ยว จำนวน 116 ยูนิต มูลค่าโครงการ 390 ล้านบาท เนื้อที่โดยประมาณ 16 ไร่ ราคาเฉลี่ยต่อยูนิต 3.4 ล้านบาท และโครงการไพร์มเพลส ราชพฤกษ์-บางใหญ่ บ้านแฝดสไตล์บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 247 ยูนิต มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท เนื้อที่โดยประมาณ 34 ไร่ ราคาเฉลี่ย 2.4 ล้านบาทต่อยูนิต

กรรมการผู้จัดการได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับกลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ในปี 2553 นี้บริษัทฯ เน้นย้ำจุดแข็งของบริษัท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง อาทิ การขยายโครงการ บริษัทฯ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 2-3 แปลงในจังหวัดนนทบุรีสำหรับรองรับโครงการปี 2554 นอกจากนี้ ยังได้มีการศึกษาความเป็นไปได้โครงการเพื่อพัฒนาโครงการบนที่ดินที่หาดกมลา จังหวัดภูเก็ต ตลอดจนโครงการคอนโดมิเนียมที่จังหวัดภูเก็ต ในด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีการสำรวจวิจัยคู่แข่งและความต้องการลูกค้า เพื่อสร้างความแตกต่างในแบบบ้านและโครงการ ทางด้านการตลาด บริษัทฯ ได้มีการจัดทำแบรนด์ Branding และวางตำแหน่งของสินค้า (Positioning) ให้ชัดเจน และได้มีการปรับปรุงทุกๆ Customer Contact Points เพื่อตอกย้ำสโลแกนที่ว่า ธนาสิริ “บ้านที่คุ้มค่า ในสังคมที่น่าอยู่” และยังได้มีนวัตกรรมการก่อสร้าง โดยควบคุมการสร้างบ้านในเสร็จภายใน 4.5 เดือน โดยใช้ขบวนการการก่อสร้างแบบ Multiple Linear Process และพัฒนาศักยภาพผู้รับเหมา ตลอดจนการสร้างสัมพันธ์อันดีกับผู้รับเหมา ในด้านการพัฒนาทีมงานและบุคลากร บริษัทฯ ได้พัฒนาขีดความสามารถทีมงาน และรณรงค์วัฒนธรรมองค์กร “T-SMILE” เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของบริษัท นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้นำระบบเทคโนโลยี (IT) มาช่วยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้พัฒนาระบบ ThanaConstruction เพื่อช่วยบริหารจัดการความคืบหน้าการก่อสร้าง และเชื่อมต่อกับทุกระบบการบริหารความเสี่ยง อีกทั้งยังเน้นเรื่องการบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่องสภาพคล่อง ความคืบหน้าโครงการ และการ Balance Ports ระหว่างนนทบุรีและภูเก็ตอีกด้วย

“กล่าวโดยสรุป บริษัทฯ เน้นพัฒนาโครงการในพื้นที่ที่ชำนาญ เพื่อสร้างฐานให้แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตแบบยั่งยืน มีแบบบ้าน และภาพลักษณ์โครงการโดดเด่นและแตกต่าง ในราคาที่คุ้มค่า มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีที่ดินรอการพัฒนาที่มีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าตามบัญชี (ส่วนต่างประมาณ 2.35 บาทต่อหุ้น) อัตราการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างสูง และเราก็มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้สมกับปณิธาณที่ว่า “บ้านที่คุ้มค่า ในสังคมที่น่าอยู่” และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อผลประโยชน์กับผู้ถือหุ้นต่อไป” กรรมการผู้จัดการกล่าวในที่สุด