ฟุตบอลโลก2010 : พนันฟุตบอลยังคึกคัก….แม้ถูกกระแสการเมืองบดบัง

ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกปีนี้ที่จะเริ่มแข่งในช่วงวันที่ 11 มิถุนายน-11 กรกฎาคม 2553 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้มีการสำรวจเกี่ยวกับ พฤติกรรมเรื่อง ”คนกรุงเทพฯ กับการแข่งขันฟุตบอลโลก2010” ในช่วงระหว่างวันที่ 1-10พฤษภาคม 2553 จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 1,265 ชุด กระจายตามประชาชนกลุ่มต่างๆแยกตาม เพศ อายุ อาชีพ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในประเทศเพิ่งจะผ่านพ้นภาวะวิกฤติ ทำให้ผู้ประกอบการสินค้าต่างๆ อาจจะมีการทุ่มเม็ดเงินโฆษณา ประชาสัมพันธ์ไม่เต็มที่นัก เมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ก็คาดว่า เมื่อการแข่งขันได้เริ่มต้นไปสักระยะหนึ่ง กระแสความสนใจต่อฟุตบอลโลก จะมีเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญคือ เวลาการถ่ายทอดสดการแข่งขันในประเทศไทย ที่อยู่ในช่วงไม่ดึกจนเกินไปนัก และส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 18.30-21.00 น ทำให้ไม่เป็นอุปสรรคต่อผู้สนใจติดตามชม ซึ่งนับว่าแตกต่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2549 ที่ช่วงเวลาการถ่ายทอดส่วนใหญ่ จะอยู่ในช่วงเวลา 23.00 น. และ 02.00 น. ซึ่งถือเป็นช่วงที่ดึกพอสมควร จึงค่อนข้างลำบากสำหรับผู้ที่จะต้องไปเรียนหรือทำงานตอนเช้า

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดว่า จะมีวงเงินสะพัดหมุนเวียน เพื่อเล่นพนันฟุตบอลโลก ของคนกรุงเทพฯในครั้งนี้ประมาณ 9,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2549 ซึ่งในครั้งนั้น คนกรุงเทพฯเล่นพนันฟุตบอลประมาณ 7,700 ล้านบาท

สำหรับประเด็นสำคัญที่ได้จากผลการสำรวจในครั้งนี้ มีดังนี้
1.วงเงินสะพัดจากการเล่นพนันฟุตบอลโลกของคนกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.9

เนื่องจากจำนวนผู้เล่นพนันฟุตบอลโลกของคนกรุงเทพฯในปีนี้ ที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.12 ล้านคน จากจำนวนผู้เล่นประมาณ 0.88 ล้านคนในการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อน อันเป็นผลจากจำนวนประชากรกลุ่มผู้เล่นรายใหม่ ที่เข้าสู่ธุรกิจพนันฟุตบอล ที่เพิ่มสูงขึ้น(จำนวนผู้เล่นพนันฟุตบอลดังกล่าวส่วนหนึ่งประมาณร้อยละ 46.9 เป็นกลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลกับโต๊ะพนันฟุตบอลเป็นประจำ ส่วนที่เหลือประมาณร้อยละ 53.1 จะเป็นกลุ่มที่ตั้งใจเล่นพนันฟุตบอลเฉพาะในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกหรือฟุตบอลยูโร หรือเล่นเฉพาะการแข่งขันบางคู่ที่สนใจเท่านั้น) ดังนั้นคาดว่า จะมีเงินสะพัดเพื่อการเล่นพนันฟุตบอลประมาณ 9,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.9 เมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2549 ซึ่งมีวงเงินในการเล่นพนันฟุตบอลประมาณ 7,700 ล้านบาท

สำหรับวงเงินเพื่อการเล่นพนันฟุตบอลโลก ในปีนี้จากผลการสำรวจ คาดว่าอาจ จะลดลงเหลือเฉลี่ยเพียงคนละ 8,000 บาท จากวงเงินเฉลี่ยคนละ 8,800 บาท เมื่อครั้งการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2549 เนื่องจาก ผลกระทบจากปัจจัยทางด้านปัญหาความรุนแรงทางการเมืองเมื่อช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ทำให้กลุ่มที่ต้องการเล่นพนัน จะมีความระมัดระวังการใช้จ่ายเงินมากขึ้น

สำหรับปัจจัย ที่ส่งผลทำให้เม็ดเงินการเล่นพนันฟุตบอลโลกในปี 2553 ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา มีดังนี้

-จำนวนคนเล่น จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง ที่สนใจเล่นพนันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ พบว่า มีประมาณร้อยละ 12.6 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ ซึ่งไม่ได้เล่นพนันฟุตบอลโลกในครั้งก่อน ดังนั้น กลุ่มนี้ จึงถือเป็นผู้เล่นพนันฟุตบอลรายใหม่ ที่เข้ามาในระบบของการเล่นพนันฟุตบอล ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่เคยเล่นพนันฟุตบอลโลกครั้งก่อน แต่มาครั้งนี้ตัดสินใจไม่เล่น มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 10.3 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามาเพิ่ม มีสัดส่วนสูงกว่ากลุ่มลูกค้าเดิมที่ออกไป ส่งผลทำให้จำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้น โดยหากแยกตามกลุ่มอาชีพแล้วจะพบว่า กลุ่มอาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัว และกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา เป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนของผู้เล่นรายใหม่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะประชากรในกลุ่มเด็กและเยาวชน ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่มีโอกาสเข้าสู่วงจรการเล่นพนันฟุตบอลค่อนข้างสูง เนื่องจาก เพื่อนฝูงจะเข้ามามีบทบาททางความคิด ทำให้สามารถถูกชักจูงจากเพื่อนฝูง ซึ่งเป็นเครือข่ายตัวแทนที่รับเล่นพนันฟุตบอล เพื่อส่งต่อโต๊ะพนันรายใหญ่อีกทอดหนึ่ง ในขณะเดียวกัน กลุ่มคนที่สำเร็จการศึกษาและเพิ่งเริ่มต้นทำงาน ก็มีโอกาสเข้าสู่วงจรการเล่นพนันได้ง่ายเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีความสามารถในการหารายได้ด้วยตนเองแล้วนั่นเอง

-ช่วงเวลาการแข่งขัน การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2553 จะเริ่มต้นแข่งขันตั้งแต่เวลา 12.30 น. ไปจนถึงเวลา 19.00 น. ของเวลาที่แอฟริกาใต้ ซึ่งตรงกับเวลาการถ่ายทอดสดในประเทศไทยช่วงเวลา 18.30 น.(แข่งขัน 8 คู่) เวลา 19.30 น.(แข่งขัน 2 คู่) เวลา 21.00 น.(แข่งขัน 25 คู่) และเวลา 01.30 น.(แข่งขัน 29 คู่) ซึ่งจะเห็นได้ว่า เวลาการถ่ายทอดสดถึง 35 คู่ จะอยู่ในช่วงไม่เกิน 21.00 น.หรือเสร็จสิ้นการถายทอดไม่เกิน 23.00 น.ส่งผลให้ ผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลติดตามและลุ้นผลการแข่งขันได้สะดวก ซึ่งต่างจากการถ่ายทอดสด ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2549 ที่ส่วนใหญ่จะแข่งขันกันในเวลาที่ดึกประมาณ 23.00 น. และเวลา 02.00 น ทำให้ไม่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการติดตามลุ้นผลการแข่งขัน

-เทคโนโลยีการสื่อสาร ปัจจุบัน เทคโนโลยีการสื่อสาร มีการพัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้น ส่งผลให้ ผู้สนใจสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสด การแข่งขันฟุตบอลโลกได้หลายทาง แม้จะอยู่ในที่ทำงานหรือในสถานศึกษา อาทิ การรับชมถ่ายทอดสดผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต หรือผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยปัจจุบันโทรศัพท์รุ่นที่สามารถดูหนัง ฟังเพลง และชมการถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์ช่องฟรีทีวี มีราคาจำหน่ายไม่สูงมากนัก ดังนั้น ผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลจึงสามารถลุ้นผลการแข่งขันได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่และเวลาใด

ทีมที่เข้ารอบการแข่งขันมีความโดดเด่น ฟุตบอลโลกเป็นมหกรรมการแข่งขันที่รวบรวมเอาทีมฟุตบอลจากประเทศที่มีชื่อเสียง ทางด้านฟุตบอลที่ทั่วโลกให้การยอมรับ และติดตามการแข่งขันในแต่ละฤดูกาลมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน บราซิล ฮอลแลนด์ และเมื่อทีมเหล่านี้ได้มาแข่งขันร่วมกัน ย่อมจะดึงดูดความสนใจให้ติดตามชมการแข่งขัน รวมทั้งเล่นพนันเพื่อความสนุกสนานควบคู่กันไปด้วย

2.กลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอล..ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ชอบเล่นพนันอยู่เดิม
จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างพบว่า กลุ่มผู้ที่สนใจเล่นพนันฟุตบอลโลกในปีนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 46.9 เป็นกลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลเป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งฟุตบอลอังกฤษ เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส หรือสเปน โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มอายุระหว่าง 20-29 ปี เป็นกลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลเป็นประจำ ในสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ซึ่งกลุ่มนี้ก็คือ กลุ่มนักศึกษาและกลุ่มที่เริ่มต้นทำงาน และมีรายได้ประจำแล้ว และมีบางกลุ่มที่เล่นพนันเฉพาะรายการใหญ่ๆ เช่น ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป(ยูโร) และฟุตบอลโลก

นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบอีกว่า วงเงินสำหรับใช้เล่นพนันฟุตบอล ในกลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลเป็นประจำนั้น จะใช้วงเงินเพื่อการเล่นพนันฟุตบอลเฉลี่ยประมาณ 5,000 บาท/เดือน/คน โดยกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา ที่เล่นพนันฟุตบอลเป็นประจำ มีการใช้วงเงินในการเล่นพนันฟุตบอลต่ำสุด เฉลี่ยประมาณ 2,000 บาท/คน/เดือน ส่วนกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน และกลุ่มข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ มีการใช้วงเงินเพื่อเล่นพนันฟุตบอลสูงที่สุด เฉลี่ยประมาณ 10,000 บาท/คน/เดือน

3.แหล่งเงินที่ใช้เล่นพนันฟุตบอล…มีบางส่วนเป็นเงินที่นำมาจากการกู้ยืม
สำหรับแหล่งพึ่งพิงทางการเงินที่นึกถึง หากจะเล่นพนันฟุตบอลนั้นพบว่า ส่วนใหญ่จะใช้เงินเดือนของตนเอง สัดส่วนร้อยละ27.8 รองลงมาร้อยละ 24.1 จะมาจากเงินที่เก็บสะสมไว้ ร้อยละ 21.0 จะใช้เงินที่ยืมจากเพื่อน/ญาติหรือคนในครอบครัว และมีถึงร้อยละ 14.9 ที่จะใช้แหล่งเงินจากการกู้ยืมเงินมาจากแหล่งต่างๆอาทิ ธนาคาร บัตรเครดิต และเงินกู้นอกระบบ ซึ่งแหล่งเงินในส่วนนี้ จะก่อปัญหาให้กับผู้เล่นพอสมควร เนื่องจากเป็นเงินที่เกิดจากการกู้ยืม รวมทั้งบางส่วนยังมีภาระทางด้านดอกเบี้ยที่สูงเช่น เงินกู้นอกระบบ หรือเงินกู้จากบัตรเครดิต ซึ่งหากชำระล่าช้า จำนวนเงินต้นและดอกเบี้ย จะเพิ่มสูงขึ้นจนไม่สามารถจะชำระได้ ซึ่งอาจเกิดปัญหาการฟ้องร้อง หรือการทวงหนี้ที่รุนแรงตามมา

พนันฟุตบอล : หลากปัญหาสังคมที่ติดตามมา
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน การเล่นพนันฟุตบอล ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประชาชน แทบจะทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน หรือผู้ใหญ่ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาต่างๆติดตามมา ทั้งปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งของคนในครอบครัว และปัญหาทางสังคม โดยเฉพาะคดีลักทรัพย์ จี้ปล้นทำร้ายร่างกาย หรือค้ายาเสพติดเพื่อนำทรัพย์สินไปใช้หนี้พนันฟุตบอล หรือปัญหาการทำร้ายร่างกายเนื่องจากการติดตามทวงหนี้ของโต๊ะพนัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

นักพนันร้อยละ 21.9 เคยเล่นพนันฟุตบอลเสียแล้วไม่มีเงินจ่าย
จากการสอบถามพบว่า กลุ่มผู้เล่นพนันฟุตบอล เคยเล่นเสียและไม่มีเงินจ่ายสัดส่วนร้อยละ 21.9 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ โดยพบว่า เพศชาย มีสัดส่วนของการเล่นพนันฟุตบอลเสียแล้วไม่มีเงินจ่าย ในสัดส่วนมากกว่าเพศหญิง ส่วนกลุ่มอาชีพที่เล่นพนันฟุตบอลเสียแล้วไม่มีเงินจ่ายมากที่สุดคือ กลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีรายได้ประจำ จึงกล้าที่จะเล่นพนันฟุตบอลโดยคาดว่า จะสามารถหมุนเงินได้ทัน ส่วนกลุ่มที่มีสัดส่วนน้อยที่สุดคือ กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มที่ส่วนใหญ่ ยังไม่สามารถหารายได้ด้วยตนเอง ต้องพึ่งเงินจากทางบ้าน ทำให้การเล่นพนันฟุตบอลแต่ละครั้งจะไม่สูงมากนัก เนื่องจากเกรงว่าพ่อแม่ผู้ปกครองจะทราบเรื่องหากว่าเสียเงินจากการพนัน

นักพนันใช้วิธียืมเงินจากเพื่อน…เพื่อใช้หนี้พนันฟุตบอล
เมื่อสอบถามถึงแนวทางการแก้ปัญหา เมื่อเกิดปัญหาการติดหนี้พนันฟุตบอลพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 69.3 ของกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ จะใช้วิธียืมเงินจากเพื่อน รองลงมาคือขอเงินจากพ่อแม่ มีสัดส่วนร้อยละ 14.0 ผ่อนจ่ายเป็นรายงวด มีสัดส่วนร้อยละ 5.8 นำของไปจำนำสัดส่วนร้อยละ 3.5 กู้เงินนอกระบบสัดส่วนร้อยละ 1.2 หนีไปต่างจังหวัด มีสัดส่วนร้อยละ 0.8 และย้ายที่อยู่/ที่ทำงาน มีสัดส่วนร้อยละ 0.2

จะเห็นได้ว่า วิธีแก้ปัญหาจากการเป็นหนี้พนันฟุตบอล ดังที่กล่าวมาแล้วในเบื้องต้น ล้วนแล้วแต่สร้างปัญหาต่อเนื่องทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการยืมเงินจากเพื่อน ซึ่งหากไม่ใช้คืน ก็เกิดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งกัน หรือหากขอเงินจากพ่อแม่ ก็อาจเกิดปัญหาภายในครอบครัวได้ ประการสำคัญที่สุดคือ การแก้ปัญหาโดยการย้ายที่อยู่ ที่ทำงาน หรือหลบหนีไป ก็ล้วนส่งผลกระทบรุนแรงต่อวิถีชีวิตของตนเองและครอบครัวมากยิ่งขึ้น ซ้ำยังอาจได้รับอันตรายจากการติดตามทวงหนี้ของโต๊ะพนันอีกด้วย

ทรัพย์สินรอบกาย…สูญเสียไปเพื่อเล่นพนันฟุตบอล
ไม่เพียงแต่เงินสดเท่านั้น นักเล่นพนันฟุตบอล ยังเคยต้องสูญเสียทรัพย์สิน สิ่งของต่างๆไปเพื่อเล่นหรือใช้หนี้พนันฟุตบอลอีกด้วย โดยจากการสอบถามเกี่ยวกับทรัพย์สินสิ่งของ ที่เคยเสียไปจากการเล่นพนันฟุตบอลพบว่า ส่วนใหญ่จะเป็นทรัพย์สินที่คนทั่วไปมีหรือเก็บสะสมไว้ เช่นทองคำ โทรศัพท์มือถือและเครื่องประดับ ส่วนทรัพย์สินขนาดใหญ่ที่เคยเสียไปก็คือ รถยนต์/จักรยานยนต์ บ้าน ที่เหลือก็เป็นทรัพย์สินประเภท เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน

ทั้งนี้พบว่า นักเรียน/นักศึกษา จะสูญเสียทรัพย์สินประเภท โทรศัพท์มือถือมากที่สุด รองลงมาคือทองคำและเครื่องประดับ ส่วนทรัพย์สินมีค่าราคาแพงทั้งบ้าน และรถยนต์นั้น เนื่องจากไม่ใช้ทรัพย์สินส่วนตัว แต่เป็นของพ่อแม่ผู้ปกครอง ทรัพย์สินในส่วนนี้ จึงไม่สูญเสียไป ส่วนกลุ่มที่ต้องสูญเสียทรัพย์สินมีค่าราคาแพงไปมากที่สุดคือ กลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน และกลุ่มอาชีพค้าขาย/กิจการส่วนตัว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก เนื่องจากทรัพย์สินดังกล่าวกว่าจะหามาได้ต้องใช้เวลานาน

บทสรุป
จากผลการสำรวจพฤติกรรมการเล่นพนันฟุตบอลของคนกรุงเทพฯ ของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ในช่วงระหว่างวันที่ 1-10 พฤษภาคม 2553 พบว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2553 นี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดเพื่อการเล่นพนันฟุตบอลของคนกรุงเทพฯประมาณ 9,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.9 เมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2549 ซึ่งมีวงเงินในการเล่นพนันฟุตบอลประมาณ 7,700 ล้านบาท ในขณะที่จำนวนผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลโลกในกรุงเทพฯมีทั้งสิ้นประมาณ 1.12 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 0.88 ล้านคนเมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2549 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้เล่นพนันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 46.9 เป็นกลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลเป็นประจำ ทั้งฟุตบอลอังกฤษ เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส หรือสเปนเพื่อเสี่ยงโชคหรือหวังด้านรายได้อยู่แล้ว และมีบางกลุ่มที่เล่นพนันเฉพาะรายการใหญ่ๆ เช่น ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป(ยูโร) และฟุตบอลโลก ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้เล่นพนันเฉพาะกิจ

อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มที่เล่นพนันเฉพาะรายการใหญ่ๆ เช่น ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป(ยูโร) และฟุตบอลโลก มีการพัฒนาไปสู่การเล่นพนันฟุตบอลต่อเนื่อง ก็จะทำให้จำนวนผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลเป็นประจำ เพิ่มจำนวนมากขึ้น ดังนั้นจึง จำเป็นที่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะ 3 สถาบันหลักที่มีความใกล้ชิดกับภาคประชาชน ซึ่งประกอบด้วย สถานบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และภาครัฐที่จะต้องเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาการเล่นพนันฟุตบอลให้ลดลง ซึ่งจะช่วยให้ปัญหาต่างๆที่ติดตามมา จากการเล่นพนัน ทั้งปัญหาการทะเลาะในครอบครัว ปัญหาทางด้านสังคม การจี้ปล้น ลักทรัพย์ หรือการค้ายาเสพติดเพื่อนำมาใช้หนี้พนันฟุตบอลบรรเทาเบาบางลงด้วยเช่นเดียวกัน