ถิรไทย หรือ TRT ได้รับความไว้วางใจจากต่างประเทศ รับออร์เดอร์งานหม้อแปลงไฟฟ้าเพียบ เตรียมส่งมอบงานมูลค่ากว่า 250 ล้านบาทใน 11 ประเทศ พร้อมเตรียมลุยขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น และยื่นประมูลงานในประเทศ และต่างประเทศอีกกว่า 6,000-7,000 ล้านบาท มั่นใจชนะ 20-30% รับรู้รายได้ปีหน้า ผู้บริหารเผยครึ่งปีหลังรายได้ดีกว่าช่วงแรก หลังมีแบ็กล็อกตุนในกระเป๋าแล้วกว่า 800 ล้านบาท พร้อมโชว์ศักยภาพความแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศมีช่องทางตลาดที่รับเองโดยตรง และผ่านผู้รับเหมาข้ามชาติ จนได้รับความไว้วางใจในคุณภาพหม้อแปลงไฟฟ้าของ “ถิรไทย” จากหลายประเทศ
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่าย และซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ได้มีการทะยอยส่งออร์เดอร์ไปยังประเทศต่าง ๆ กว่า 11 ประเทศ สิงค์โปร, ศรีลังกา, บรูไน, พม่า, กัมพูชา, มาเลเซีย, โอมาน, ฟิลลิปปินส์, เวียนนาม, อินเดีย และประเทศออสเตเรีย ที่ได้มีการสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าหลายขนาด มูลค่ารวมกว่า 250 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะเริ่มทะยอยส่งหม้อแปลงไฟฟ้าตั้งแต่เดือนกรกฏาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม 2553 นี้
สำหรับการขยายตลาดในปีนี้ บริษัทฯได้มีการขยายไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยพุ้งเป้าไปยังในตะวันออกกลาง ด้วยวิธีการทำตลาดแบบเข้าไปรับงานด้วยตนเองโดยตรง และผ่านผู้รับเหมาข้ามชาติ หรือผู้รับเหมาในประเทศนั้น ๆ ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าหม้อแปลงไฟฟ้าของถิรไทยได้รับความไว้วางใจ และมีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก เพราะด้วยบริการ และคุณภาพสินค้าของบริษัท จนได้รับความเชื่อมั่นว่าเป็นสินค้าคนไทยที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
“ปัจจุบันเราได้มีการส่งออกไปยังต่างประเทศกว่า 28 ประเทศทั่วโลก มีประเทศมาเลเซีย, พม่า, ลาว, เวียดนาม, กัมพูชา, ฟิลลิปปิน, สิงค์โปร, อินโดนีเซีย, บรูไน, เนปาน, ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลี, อินเดีย, ศรีลังกา, แทรนิเดด แอนด์ โทเบโก้, ซาอุดิอาราเบีย, โอมาน, อีหร่าน, ปากีสถาน, อาฟริกาใต้, ยูเออี, ออสเตรเลีย, กาน่า, อเจนตินา, อังกฤษ, ออสเตรีย, แคนนาดา และคาดว่าจะมีการขยายไปยังประเทศ อื่น ๆ อีกหลายประเทศ โดยเฉพาะแถบประเทศตะวันออกกลาง” นายสัมพันธ์ กล่าว
นายสัมพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับทิศทางของบริษัทในปีนี้ บริษัทยังคงมีงานที่จะเข้าประมูลเป็นวงเงินประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะชนะการประมูลประมาณ 20-30% โดยทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้บางส่วน และส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปีหน้า โดยงานดังกล่าวเป็นการประมูลงานทั้งทางภาครัฐและเอกชนในประเทศและต่างประเทศ
นายสัมพันธ์ กล่าวอีกต่ออีกว่า สำหรับสถานการณ์ปัญหาในมาบตาพุดที่เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นส่งผลในเชิงบวก รวมถึงความต้องการไฟฟ้าทำให้ภาพรวมของตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศกลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยเฉพาะความต้องการใช้ไฟฟ้า(Peak Demand) สูงกว่าค่าที่ประมาณการไว้ 5-6% ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงการเติบโตของความต้องการการใช้ไฟฟ้าในระยะยาวอย่างชัดเจน โดยที่ผ่านมาบริษัทมีการเซ็นสัญญารับงานผลิตให้แก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยในประเทศอย่างสม่ำเสมอ ทำให้งานในมือปัจจุบันอยู่สูงกว่า 800 ล้านบาท ณ เดือนเมษายน 2553