เทสโก้ โลตัส ผงาดขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ซื้อสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการซื้อผักและผลไม้จำนวน 228,000 ตัน จากเกษตรกรไทย คิดเป็นมูลค่า 5,600 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเศรษฐกิจไทย ทำให้ตัวเลขการส่งออกช่วงปี 2552/2553 จากไทยไปยังกลุ่มเทสโก้ มีมูลค่าสูงถึง 11,700 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึง 46 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เทสโก้ โลตัส ยังได้ผนึกกำลังกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพิ่มการส่งออกไปยังกลุ่มเทสโก้ ที่มีสาขาอยู่ใน 14 ประเทศ ทั้งในสหราชอาณาจักร , ยุโรปตะวันตก , เอเชียตะวันออก และสหรัฐ โดยสินค้าที่ทำให้รายได้หลัก คือ ผักและผลไม้ ที่เป็นผลผลิตที่ได้ทำการรับซื้อจากเกษตรกรไทยโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง นับเป็นการเข้าไปสนับสนุนภาคการเกษตรซึ่งมีประชากรถึง 14 ล้านคนให้มีรายได้ที่แน่นอนและมั่นคง จากการวางแผนการปลูก การขนส่ง การรับซื้อผลผลิตและการกระจายสินค้าไปสู่เทสโก้ โลตัสสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศ และส่งออกจำหน่ายในต่างประเทศ
ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เทสโก้ โลตัส เปิดเผยว่า “ เราตระหนักดีว่าภาคการเกษตร ซึ่งมีประชากรถึง 14 ล้านคน คือเส้นเลือดหลักของเศรษฐกิจและสังคมไทย ซึ่งในปีที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า เราให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกรมาโดยตลอด ด้วยการช่วยเกษตรกรในการพัฒนาผลผลิต ทั้งในด้านคุณภาพและความปลอดภัย ช่วยในการบริหารจัดการโดยผ่านสหกรณ์การเกษตร อีกทั้ง ยังช่วยให้เกษตรกรสามารถมีรายได้ที่สม่ำเสมอและยุติธรรม ในเวลาเดียวกัน ลูกค้าของเราทั่วประเทศก็จะได้รับผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพในราคายุติธรรมด้วยเช่นกัน”
ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าสดโดยผ่านกลุ่มเทสโก้ มีมูลค่าเพิ่มกว่า 6,300 ล้านบาท สวนทางกับตัวเลขการส่งออกโดยรวมของไทย ที่ลดลง 19 เปอร์เซ็นต์ นอกจากผักและผลไม้แล้ว สินค้าอื่น ๆ ที่ถูกส่งไปยังกลุ่มเทสโก้ รวมถึง ไก่, กล้วยไม้ , กุ้งกุลาดำ , ข้าว และสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร นอกจากนี้ เทสโก้ยังคงเดินหน้าหาตลาดใหม่ ๆ สำหรับสินค้าไทย ที่วางจำหน่ายอยู่ในร้านสาขาของเทสโก้ทั่วโลกอีกด้วย
อีกทั้ง เทสโก้ โลตัส ได้ส่งทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ไปทำงานใกล้ชิดกับเกษตรกร และสหกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย สำหรับสินค้าที่จะถูกส่งไปจำหน่ายตามสาขา เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีรายได้สม่ำเสมอและยุติธรรม และยังช่วยให้หลายคนกลายเป็นผู้ส่งออกเองอีกด้วย และในปี 2553 นี้ เทสโก้ โลตัส มีแผนจะซื้อผลผลิตจากสหกรณ์ของเกษตรจันทรบุรี , ระยอง , ชลบุรีและตราด จำนวน 2 หมื่นตัน เป็นมูลค่ากว่า 750 ล้านบาท
นอกจากนี้ เทสโก้ โลตัส ยังเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของโครงการในพระราชดำริ โดยมีสัดส่วนในการซื้อผลิตผลมากกว่า 50 ชนิด ของโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ เช่น แคร์รอท , กระหล่ำปลี , ผักขม และสินค้าท้องถิ่นอื่น ๆ คิดเป็นมูลค่าปีละกว่า 40 ล้านบาท
“ในปี 2553 นี้ เทสโก้ โลตัสมีแผนการที่จะรับซื้อผลไม้ฤดูกาลทั้งหมดจากเกษตรกรไทยประมาณ 47,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 1,500 ล้านบาท โดยปริมาณและมูลค่าดังกล่าวไม่รวมถึงการรับซื้อผักและผลไม้ตลอดทั้งปี ซึ่งคาดว่าจะมีการรับซื้อประมาณ 180,000 ตัน มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท” ดร.ดามพ์ฯ กล่าวสรุป