ทีวี ธันเดอร์ ผู้ผลิตสื่อปลอดมลพิษ เผยแผนรุกตลาดครึ่งปีหลังชู 3 กลยุทธ์ขับเคลื่อนนโยบาย “กรีน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” สร้างสรรค์รายการ-ละครปลอดมลพิษ สร้าง “สังคมดี อารมณ์ดี” ผ่านฟรีทีวี 3-5-7-9 วางแผนส่งพนักงาน ดารา และสื่อมวลชน ไปเปิดประสบการณ์สัมผัสวิถีความพอเพียง พร้อมรณรงค์ให้คนไทยลดการซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยแก้ปัญหาโลกร้อน จัดงาน “ดาราไทยหัวใจรียูส ปี 2” มหกรรมที่เป็นมากกว่าการขายของมือ 2 จากดารา-ไฮโซหัวใจสีเขียวกว่า 4,000 ชิ้น ตั้งเป้ามอบเงินรายได้กว่า 1 ล้านบาท ร่วมสมทบทุนมูลนิธิอาสา เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย วันที่ 28-29 สิงหาคม ณ แกรนด์ฮอลล์ สยามดิสคัฟเวอรี่
นางภัทรภร วรรณภิญโญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด ได้กล่าวถึงแนวคิดนโยบาย “กรีน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ สังคมดี อารมณ์ดี” ว่า “บริษัทได้เล็งเห็นความสำคัญของสื่อโทรทัศน์ในการคืนกำไรให้กับสังคม ผ่านการใช้พื้นที่สื่อและศักยภาพที่มีอยู่สร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ ด้วยการผลิตสื่อบันเทิงปลอดมลพิษทางอารมณ์ นั้นคือสนุกสนาน สร้างอารมณ์ที่ดีและไม่นำเสนอสิ่งที่ขาดความน่าเชื่อถือ งมงาย มอมเมา หรือชักนำให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียต่อวัฒนธรรมและศีลธรรมอันดีงามของไทย รวมทั้งเป็นสื่อกลางในการก่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ให้กับคนดูที่มีวุฒิภาวะในการรับรู้ที่ต่างกัน ผ่านในรายการและกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท รวมทั้งดารา-ศิลปินในสังกัดมาอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมตั้งแต่ปี 2551”
สำหรับแผนในการรุกตลาดครึ่งปีหลังบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขับเคลื่อนสร้าง “สังคมดี อารมณ์ดี”ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ กลยุทธ์ที่ 1 การผลิตและสร้างสรรค์รายการ-ละครหลากมิติให้ 4 สถานีฟรีทีวี สำหรับช่อง 3 และช่อง 7 จะเน้นผลิตละครที่สามารถดูได้ทั้งครอบครัวซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจพอเพียงอย่างต่อเนื่อง เช่นในครึ่งปีแรกได้ผลิตละครเรื่องเขยบ้านนอก และเจ้าสาวไร่ส้ม ทางช่อง 3 และละครที่มุ่งเน้นการพัฒนาการเกษตรแบบพึ่งพาตัวเอง เรื่องเปรี้ยวตลาดแตก ทางช่อง 7 ส่วนช่อง 9 ได้ก็มีการเพิ่มเติมกลยุทธ์ในการสร้างมัลติแพลทฟอร์มคอนเทนท์ และสร้างกิจกรรมคู่ขนานอย่างต่อเนื่องให้กับละคร “สลัดโสดคอมพานี” ละครที่สนับสนุนให้คนมีความรักเพื่อร่วมสร้างสังคมให้เป็นสุข
สำหรับช่อง 5 ได้จัดสรรช่วงพิเศษของรายการทั้ง 2 ของบริษัทฯ ได้แก่ “รายการสะบัดช่อ” และ “รายการโอโน่โชว์” เพื่อผลิตสารคดีชุดพิเศษภายใต้โครงการ “ททบ.5 รวมพลังเทิดไท้มหาราชินี” ร่วมเฉลิมพระเกียรติในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยรายการ “สะบัดช่อ”จะเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวโครงการธนาคารอาหารชุมชน โครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ บ้านนาป่าแปก อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นโครงการตามรอยพระราชดำริ ที่ทรงมุ่งหวังให้คนและป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุกและยั่งยืน ส่วน “รายการโอโน่โชว์”จะนำเสนอเรื่องราวเบื้องหลังความงามแห่งผ้าไหมไทยที่ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และยกระดับชุมชน
กลยุทธ์ที่ 2 การเปิดประสบการณ์เรียนรู้ความพอเพียงแบบรู้จริงทำจริงด้วยตัวเอง ด้วยการจัดค่ายเรียนรู้สู่ความพอเพียง เพื่อปลูกจิตสำนึกในการใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้กับพนักงานของบริษัทฯ ดาราในสังกัด และสื่อมวลชน ให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ในฐานะของตัวแทนสื่อที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารให้แก่สาธารณชนได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
ปิดท้ายด้วยกลยุทธ์ที่ 3 การรณรงค์ให้คนไทยลดการซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยแก้ปัญหาโลกร้อน งาน “ดาราไทยหัวใจรียูส ปีที่ 2” ซึ่งจะจัดในวันที่ 28-29 สิงหาคม ณ สยามดิสคัฟเวอรี่ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ช้อปของใช้ดาราในคอนเซ็ปต์ “ใช้ซ้ำ” โดยของที่เราไม่ได้ใช้อาจเป็นของใหม่ของใครหลายคน ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและบรรเทาปัญหาโลกร้อน ซึ่งนอกจากจะเป็นของจากศิลปิน-ดาราแล้ว ในปีนี้ยังได้รับความสนใจจากผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ รวมทั้งเซเลบริตี้ชื่อดัง เช่น คุณอรัญญา มาลีนนท์ คุณกรณ์ ณรงค์เดช คุณศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ และคุณพิษณุ นิลกลัด ฯลฯ ได้ส่งของมาร่วมจำหน่ายรวมกว่า 4,000 ชิ้น และคาดว่าจะสามารถจำหน่ายและประมูลสินค้าภายในงานได้มากถึง 1 ล้านบาท โดยจะนำไปสมทบทุนเพื่อใช้ในกิจกรรมของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ต่อไป
“นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณพันธมิตรทางธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ Naturalizer และศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่ได้เล็งเห็นถึงคุณค่าและให้ความสนับสนุนกับงาน ‘ดาราไทยหัวใจรียูส ปีที่ 2’ ในครั้งนี้ เราเชื่อว่าสังคมไทยจะเดินไปในทิศทางไหนนั้นขึ้นอยู่ในมือของเราทุกคน ทีวี ธันเดอร์ ในฐานะผู้ผลิตรายการโทรทัศน์บันเทิงที่มุ่งมั่นใช้พื้นที่สื่อและศักยภาพที่มีอยู่สร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ ด้วยการยกระดับมาตรฐานการเป็นผู้ผลิตสื่อที่รับผิดชอบต่อสังคม และยังต้องขึ้นอยู่กับความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนในสังคมและคนไทยทุกคน ที่จะผลักดันและสร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมที่น่าอยู่เพื่อลูกหลานของเราต่อไปในอนาคต” นางภัทรภรกล่าวทิ้งท้าย