ยูนิเวนเจอร์ทำยอดรับรู้รายได้เกือบ 600 ล้านในไตรมาสสองปีนี้

บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) เผยว่ามียอดรายได้รวม 584 ล้านบาท ในไตรมาสที่สองปี 2553 เพิ่มขึ้น 380 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ 205 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิ 29 ล้านบาท จากที่ขาดทุนสุทธิ 2.9 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของ ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ยอดรายได้กว่า 52% มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการรับรู้รายได้ 307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 296 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2552 ซึ่งอยู่ที่ 11 ล้านบาท โดยหลักๆ มาจากโครงการยู ดีไลท์ @ บางซื่อ สเตชั่น ที่ก่อสร้างเสร็จและปิดการโอนได้แล้ว 100% ส่วนธุรกิจสังกะสี อ๊อกไซด์มียอดขาย 3,618 ตัน เพิ่มขึ้น 133 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2552 ผนวกกับราคาสังกะสีแท่งในตลาดปรับตัวสูงขึ้นจาก 1,474 เป็น 2,026 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ MT จึงส่งผลให้มูลค่ายอดขายเพิ่มขึ้น 277 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 194 ล้านบาท

นางอรฤดี ณ ระนอง ประธานอำนวยการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลประกอบการในครึ่งปีแรกเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ขณะนี้บริษัทฯ มียอดการรับรู้รายได้รวมครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,666 ล้านบาท จากเป้ารายได้รวมทั้งปีที่วางไว้กว่า 2.2 พันล้านบาท ทั้งนี้กลุ่มภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของธุรกิจสังกะสีอ๊อกไซด์ มีการขยายตัวทางธุรกิจอย่างมาก จึงส่งผลให้ธุรกิจส่วนนี้ของบริษัทฯ มีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งความต้องการที่พักอาศัยในตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็ยังมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ที่ดีในปัจจุบัน บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดรายได้รวมปีนี้ได้ตามแผนที่วางไว้แน่นอน”

คุณธนพล ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ อยู่ในช่วงขยายการลงทุน มีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น ‘ปาร์คเวนเชอร์’ โครงการอาคารสำนักงานและโรงแรมระดับ 5 ดาวย่านเพลินจิต-วิทยุ หรือโครงการคอนโดมิเนียมคุณภาพอย่าง ยู ดีไลท์ @ ห้วยขวาง สเตชั่น และยู ดีไลท์ @ จตุจักร สเตชั่น ที่ปัจจุบันมียอดขายกว่า 80% และ 100% ตามลำดับ ทำให้ขณะนี้บริษัทฯ มียอดขายห้องชุด ในครึ่งปีแรกทะลุเป้ารวมทั้งปีที่วางไว้กว่า 2.6 พันล้านบาทแล้ว จึงเดินหน้าเร่งเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ ‘ยู ดีไลท์’ สู่ตลาดไม่เกินภายในไตรมาสที่สีปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการที่มีอยู่และสร้างการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง”