“เด็มโก้” มั่นใจรายได้ปี 2553 ยังเติบโตมากกว่าปีที่แล้วเท่าตัว แม้ล่าสุด กฟผ.จะเลื่อนรับซื้อไฟจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ส่งผลให้ 3 โรงไฟฟ้าพลังงานลมของบริษัทฯ ต้องยืดระยะเวลาการรับรู้รายได้ออกไปก่อน พร้อมยกเลิกงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแกลบ หลังผู้ลงทุนต่างชาติเจ้าของโครงการกังวลผลกระทบความเสี่ยงทางการเมือง ส่วนแผนต่อไปเตรียมยื่นประมูลโครงการใหม่อีกเพียบ คาดทยอยรับรู้รายได้ปี 54 เต็ม ๆ
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO ผู้นำธุรกิจด้านงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าครบวงจร รวมถึงผลิตและจำหน่ายเสาโครงเหล็ก สำหรับงานด้านไฟฟ้า โทรคมนาคมให้กับภาครัฐและเอกชน เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้แจ้งผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกของปี 2553 ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้ 1,386.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.59% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 739.17 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 64.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,230.39% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.02 ล้านบาทนั้น บริษัทฯ เชื่อว่า ทิศทางในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า รายได้ตลอดปีจะเติบโตจากปีก่อนหน้าประมาณ 100%
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า เป้าหมายรายได้ในปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ ตั้งไว้ที่ 5,000 ล้านบาท อาจจะไม่ได้ตามเป้า เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ชะลอการเซ็นสัญญารับซื้อไฟจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทุกโครงการ เพื่อรอความชัดเจนจากการที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ทบทวนเรื่องส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder)
“การที่ กฟผ.เลื่อนการทำสัญญารับซื้อไฟ ทำให้กระทบกับเป้าหมายรายได้ที่จะรับรู้ในครึ่งปีหลัง ที่ต้องยืดระยะเวลาออกไป แต่ในส่วน Adder ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยอยู่ที่ 3.50 บาทต่อหน่วย และเมื่อทำสัญญากับ กฟผ.แล้ว บริษัทฯก็จะดำเนินการก่อสร้างและทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี อย่างไรก็ตาม การเลื่อนระยะเวลาเริ่มงานดังกล่าวจะทำให้รายได้โครงการพลังงานลม ประมาณ 3,000 ล้านบาทไปรวมอยู่ในปี 2554 เมื่อพิจารณาประกอบกับการยื่นประมูลงานวิศวกรรมไฟฟ้ารวมประมาณ 4,00 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเคาะราคาประมูลในครึ่งปีหลัง รวมถึงงานด้านการขายในกลุ่มผลิตและจำหน่ายเสาโทรคมนาคม ที่มีความชัดเจนจากการที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จะเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ทำให้บริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีถัดไป ” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
ส่วนการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในรอบที่ผ่านมา ได้มติที่สำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่ มติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการครึ่งปีให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 10 กันยายน 2553 และมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนจำนวน 40 ล้านหุ้น ในวงเงินไม่เกิน 214 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินที่มาจากการใช้สิทธิแปลงสภาพ Demco-W1 และ Demco-W2 ซึ่งการซื้อหุ้นคืนจะทำให้จำนวนหุ้นในตลาดน้อยลง ส่งผลให้อัตรากำไรต่อหุ้นสูงขึ้น ทำให้ผู้ถือหุ้นมีโอกาสได้รับเงินปันผลต่อหุ้นที่สูงขึ้น เท่ากับเป็นการเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity – ROE) อีกทางหนึ่งด้วย