ไอบีเอ็มประกาศขยายธุรกิจในหัวเมืองทั่วอาเซียน

ไอบีเอ็มประกาศกลยุทธ์มุ่งขยายธุรกิจในกลุ่มอาเซียน เดินหน้าเปิดสำนักงานในหัวเมืองนอกเมืองหลวง 13 แห่งในภูมิภาคอาเซียน อาทิ เมืองโกตากินะบะลู มาเลเซีย, เมืองดานัง เวียดนาม และเมืองมาคาสซาร์ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคของไอบีเอ็มในปีนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของไอบีเอ็มในการให้บริการแก่ลูกค้าในวงกว้างทั้งในและนอกเขตเมือง ครบคลุมทั้งภาครัฐและเอกชน หวังนำนวัตกรรมใหม่ๆ สู่ลูกค้าระดับภูมิภาคทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม

มร. ทิม วอง รองประธานกลุ่มธุรกิจทั่วไป ไอบีเอ็มอาเซียน กล่าวว่า ลูกค้าตามหัวเมืองต่างๆ นอกเมืองหลวงเริ่มเห็นคุณค่าอันมหาศาลของเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอที ว่าเป็นเครื่องมือในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยยกตัวอย่างถึง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ได้เลือกไอบีเอ็ม ในการเชื่อมต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด ให้กับโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย ได้แก่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ในการปรับปรุงการดูแลคนไข้ และการเพิ่มความเป็นเลิศทางด้านวิชาการให้แก่นักศึกษาแพทย์ภาคเหนือ

“กลยุทย์ของเราคือการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับลูกค้าของเราในภูมิภาคต่างๆ และช่วยให้ลูกค้าได้ใช้นวัตกรรมในการเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มคุณภาพการบริการ และสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้ธุรกิจ รวมทั้งยังมุ่งมั่นสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวกับภาครัฐบาลและสถาบันการศึกษา และการขยายความสัมพันธ์กับพัธมิตรทางธุรกิจ” มร. วอง กล่าวในการเปิดงานสัมมนา IBM Geo Academy and Regional Business Partner Summit ที่จังหวัดเชียงใหม่

โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นเป็นระยะเวลา 3 วัน โดยเป็นโปรแกรมการฝึกอบรมเพื่อสร้างความพร้อม และสร้างความสัมพันธ์และเครือข่ายระหว่างทีมขาย และพันธมิตรทางธุรกิจของไอบีเอ็มทั่วอาเซียน 6 ประเทศ โดยที่ผ่านมาไอบีเอ็มได้สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจตามหัวเมืองต่างๆ นอกเมืองหลวง มากกว่า 700 รายทั่วอาเซียนอย่างต่อเนี่อง และช่วยพันธมิตรทางธุรกิจเหล่านั้นในการขยายขีดความสามารถ ผ่านการฝึกอบรมและการสร้างกิจกรรมทางการตลาดร่วมกัน
โดยในงานดังกล่าว ไอบีเอ็มยังได้เปิดตัว “”ไอบีเอ็ม อาเซียน มิดมาร์เก็ต โมบาย คีออส” (IBM ASEAN Midmarket Mobile Kiosk) เป็นครั้งแรกในอาเซียน โดยเป็นคีออสเคลื่อนที่ ที่สามารถจัดแสดงโซลูชันจากไอบีเอ็มอย่างครอบคลุม ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการ โดยเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง (Mid-market) ตามหัวเมืองต่างๆ โดยตรง โดยจะจัดแสดงหมุนเวียนไปยังประเทศต่างๆ ทั่วอาเซียนภายในเวลา 12 เดือนต่อจากนี้ โดยเริ่มต้นที่เชียงใหม่เป็นที่แรกในงานนี้

นอกจากการนำเทคโนโลยีและโซลูชันใหม่ๆ เข้าไปนำเสนอลูกค้าภูมิภาคแล้ว ไอบีเอ็มยังมุ่งเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาหัวเมืองต่างๆ ทั่วอาเซียนอีกด้วย หนึ่งในโครงการดังกล่าวคือ การริเริ่มโครงการ IBM Corporate Service Crops (CSC) ซึ่งเป็นโครงการอาสาสมัครเพื่อสันติภาพ (Peace Corps) โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมา ไอบีเอ็มได้ส่งพนักงานที่มีศักยภาพสูงของไอบีเอ็มกว่า 20 ทีมจากทั่วทุกมุมโลก ไปยังประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย เข้าไปทำโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ นอกจากนี้ทีม IBM CSC ยังมีแผนที่จะเข้ามาไปทำโครงการนี้ในเมืองซูราบายา อินโดนีเซียในปลายเดือนนี้อีกด้วย

หลายปีที่ผ่านมา ไอบีเอ็มเข้ามาลงทุนอย่างมหาศาลในประเทศกลุ่มอาเซียน ในด้านการพัฒนาทักษะของบุคลากรผ่านทางโครงการ Academic Initiative ผ่านหลักสูตรออนไลน์ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยให้มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาในชุมชนต่างๆ ทั่วโลกมีโอกาสในการเพิ่มทักษะและความสามารถในการแข่งขันทั้งทางด้านธุรกิจและไอที เพื่อรองรับกับความต้องการของอุตสาหกรรมต่างๆ และในขณะเดียวกันไอบีเอ็มก็มุ่งผลักดันหลักสูตรใหม่ในชื่อ วิทยาศาสตร์บริการ (Service Science, Management and Engineering – SSME) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อผลิตบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งทางด้านเทคโนโลยีและธุรกิจเข้าสู่ตลาดแรงงานในปัจจุบัน เพื่อให้บุคคลากรที่มีศักยภาพกลุ่มนี้สามารถช่วยเหลือประเทศทั้งในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการสร้างสรรค์นวัตกรรม

มร. วอง กล่าวเสริมว่า “ไอบีเอ็มลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนมานานกว่า 70 ปี อย่างไรก็ตาม ด้วยการลงทุนครั้งใหม่ในครั้งนี้ เราพยายามที่จะนำไอบีเอ็มเข้าไปรุกสู่ตลาดภูมิภาคในหัวเมืองต่างๆ อย่างเต็มตัว ภายในปี 2015 เราจะมีมากกว่า 30 สาขาในภูมิภาคนี้ เราเห็นว่ายังมีโอกาสอีกมากในการพัฒนาหัวเมืองต่างๆ นอกเมืองหลวง เนื่องจากผู้นำทั้งภาครัฐบาลและเอกชนต่างก็มุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการเปลี่ยนองค์กรให้ทำงานอย่างชาญฉลาดมากขึ้น”

ด้าน นายกิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจทั่วไป บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “สำหรับประเทศไทย ไอบีเอ็มได้เข้าไปขยายธุรกิจในภาคเหนือ โดยการเปิดสำนักงานสาขาที่เชียงใหม่เมื่อต้นปีทีผ่านมา ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไอบีเอ็ม ในการนำโซลูชันทางด้านเทคโนโลยีและธุรกิจเข้าไปช่วยเหลือธุรกิจต่างๆ ในภาคเหนือ ด้วยการร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในภาคเหนือที่มีกว่า 100 ราย โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่เรามุ่งเน้นคือกลุ่มธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ, สถาบันการศึกษา, อุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจการโรงแรม และธุรกิจค้าปลีก นอกจากการดำเนินธุรกิจ เราก็มุ่งเน้นการสร้างและการพัฒนาทักษะบุคคลากรในท้องถิ่น อาทิ การจัดการบริหารงานบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Infrastructure Library Foundation – ITIL) ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นต้น”
รายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจของไอบีเอ็มในหัวเมืองต่างๆ สามารถดูได้ที่

http://www.ibm.com/id/city/
http://www.ibm.com/my/city/
http://www.ibm.com/ph/city/
http://www.ibm.com/th/city/
http://www.ibm.com/vn/city/