สหการประมูลรุกตลาดประมูลอสังหาริมทรัพย์มือสอง จับมือธนาคารกสิกรไทยคัดทรัพย์เอ็นพีเอมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ประมูลขายราคาถูก เจาะกลุ่มผู้ซื้อบ้านทำเล กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารชุด อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน และที่ดินเปล่า ได้ฤกษ์เปิดประมูลครั้งแรก 27 พ.ย.53
นางสาวเสาวลักษณ์ ชัยเดชสุริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งให้สหการประมูลเป็นผู้ดำเนินการประมูลขายทอดตลาดทรัพย์เอ็นพีเอจากธนาคาร กสิกรไทย กับนายอติพัฒน์ อัศวจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย โดยการจับมือกันในครั้งนี้ บริษัท สหการประมูล จำกัด ได้รับสิทธิในการทำการตลาดและประมูลขายอสังหาริมทรัพย์พร้อมขายทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารชุด อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน และที่ดินเปล่า จำนวน 172 รายการ มูลค่าที่กำหนดเป็นราคากลางทั้งสิ้นจำนวน 565 ล้านบาท คาดว่าหลังจากการประมูลขายเรียบร้อยแล้วทรัพย์สินทั้งหมดจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท
“แม้ว่าธุรกิจหลักของบริษัท สหการประมูล จำกัด จะเน้นไปที่การประมูลขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มือสอง แต่เราก็มีนโยบายที่จะเป็นผู้ดำเนินการขายทอดตลาดในสินทรัพย์ทุกประเภท ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการประมูลขายทั้งหุ้น รวมทั้งเครื่องใช้สำนักงานและบ้านจัดสรร โดยเฉพาะภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง บริษัท สหการประมูล มีบริษัทในเครือฯ ที่ดำเนินธุรกิจดังกล่าวอยู่แล้วตั้งแต่ปี 2542 การได้ร่วมงานกับธนาคารกสิกรไทย ในการประมูลขายทรัพย์เอ็นพีเอในครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะแสดงศักยภาพในการทำการตลาดและประมูลขายทอดตลาด เชื่อว่าประสบการณ์และภาพลักษณ์ที่ดีในการดำเนินงาน จะทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี” นางสาวเสาวลักษณ์กล่าว และเปิดเผยเพิ่มเติมถึงการประมูลขายทรัพย์เอ็นพีเอของธนาคารกสิกรไทยว่า บริษัทมีเป้าหมายในการประมูลขายทรัพย์ทั้งหมด 172 รายการ ภายในเวลา 6 เดือน และจะจัดให้มีการประมูลขายทุกวันเสาร์สัปดาห์ที่ 4 ของแต่ละเดือน ทั้งนี้ การประมูลขายในครั้งแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2553 ณ โรงแรมทาวน์อินทาวน์ โดยจะจัดให้มีการประมูลขายเดือนละครั้งจนกว่าจะสามารถขายทอดตลาดทรัพย์ได้ทั้งหมด ส่วนการประมูลครั้งต่อไปจะแจ้งให้กลุ่มเป้าหมายทราบในภายหลัง
สำหรับการประมูลขายทรัพย์เอ็นพีเอของธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้ บริษัทฯ เน้นทำการตลาดสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ในทำเล กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเฉพาะในจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานี ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค เนื่องจากมีศักยภาพในการเป็นที่อยู่อาศัยที่รองรับการขยายตัวของกรุงเทพฯ ทั้งยังมีความสะดวกสบายในการเดินทางและระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน เชื่อว่าจะสามารถทำการตลาดและประมูลได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพราะนอกจากทำเลดังกล่าวอยู่ในความสนใจทั้งจากผู้บริโภคและนักลงทุนแล้ว ราคาทรัพย์ที่ประมูลขายในครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นราคากลางที่ประเมินไว้สำหรับการเริ่มต้นประมูลเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ห้องชุดพักอาศัยในราคาเริ่มต้น 3.8 แสนบาท อาคารพาณิชย์ราคา 8.4 แสนบาท ทาวน์เฮ้าส์ราคา 5.2 แสนบาท รวมทั้งบ้านเดี่ยวในราคา 1.1 ล้านบาท รวมทั้งทรัพย์พร้อมอยู่อีกหลายรายการที่ราคาน่าสนใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และทำเลที่ตั้งของทรัพย์แต่ละแปลง
นางสาวเสาวลักษณ์ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงเงื่อนไขในการประมูลในครั้งนี้ว่า ผู้ที่ต้องการประมูลซื้อทรัพย์ประเภทต่าง ๆ สามารถตรวจสอบสภาพก่อนวันประมูล โดยทางเจ้าหน้าที่ของสหการประมูลจะเป็นผู้ให้ข้อมูลและบริการพาเข้าชมทรัพย์ระหว่างเวลา 08.30-17.30 น. นอกจากนี้แล้วผู้ที่ต้องการเข้าประมูลจะต้องมัดจำป้ายจำนวน 20,000 บาท เนื่องจากการประมูลจะใช้วีธีการชูป้าย หากทรัพย์นั้น ๆ มีผู้สนใจประมูลซื้อมากกว่า 1 ท่านราคาจะปรับขึ้นครั้งละ 10,000 บาท และผู้ที่ประมูลซื้อได้จะต้องลงนามในใบจองซื้อทรัพย์และวางเงินหลักประกัน โดยทรัพย์ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ต้องวางเงินประกัน 30,000 บาท และทรัพย์ราคาสูงกว่า 1 ล้านบาท ต้องวางเงินประกันจำนวน 50,000 บาท สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและขอรายการทรัพย์ที่จะเข้าประมูลขายในวันดังกล่าวได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 0-2934-7344-8 หรือ www.union-auction.com