โตโยด้า โกเซ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จัดกิจกรรมปลูกป่าธรรมชาติ “TGT & All Employees Forest Project” ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองการครบรอบ 60 ปีของสำนักงานใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่มุ่งหมายให้ 60 ฐานการผลิตทั่วโลก ปลูกต้นไม้ 600,000 ต้นภายใน 10 ปี ประเดิมปีแรกด้วยการปลูกต้นไม้กว่า 15,000 ต้น จาก 50 สายพันธุ์บนพื้นที่ 4,200 ตารางเมตร ภายในบริเวณโรงงาน ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
มร. ชิเงรุ ทาคาดะ ประธานบริษัทโตโยด้า โกเซ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีแรกของกิจกรรมปลูกป่าธรรมชาติ หรือ “TGT & All Employees Forest Project” ซึ่งผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราได้รับเกียรติจากคุณวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าการจังหวัดชลบุรี และ มร. ยาสุชิ มินามิ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านปฏิบัติการ โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง ร่วมนำทีมพนักงานและแขกผู้มีเกียรติกว่า 2,000 ท่าน ปลูกต้นไม้กว่า 15,000 ต้น จาก 50 สายพันธุ์บนพื้นที่ 4,200 ตารางเมตร ภายในบริเวณโรงงาน ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร โดยอาสาสมัครทุกท่านได้มีส่วนร่วมตั้งแต่การเตรียมคุณภาพดิน การเพาะต้นกล้า และการปรับเนินดิน มาเป็นเวลากว่า 4 เดือนก่อนที่จะลงมือปลูกต้นไม้ในวันงาน เรียกได้ว่าทุกท่านแสดงความร่วมแรงร่วมใจอย่างแท้จริง”
โตโยด้า โกเซ (ประเทศไทย) เลือกใช้วิธีการปลูกป่าด้วยวิธี “Miyawaki Method” ซึ่งนำโดย Dr. Miyawaki Akira นักนิเวศน์วิทยาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากผลงานด้านการฟื้นฟูป่าธรรมชาติ ผู้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์เกียรติคุณของมหาวิทยาลัย Yokohama National University โดยเป็นการปลูกพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด อาทิ ยางนา, ตะเคียนทอง, แก้ว, โมกมัน, ตะแบก, พุด, เหลืองปรีดียาธร และอื่นๆ ซึ่งมีความสูงต่ำของพันธุ์ไม่เท่ากัน และปลูกอย่างหนาแน่นเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติซึ่งแสดงให้เห็นว่าสามารถเร่งการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ดีกว่าวิธีการเพาะปลูกแบบดั้งเดิม ทั้งนี้ Dr. Miyawaki Akira ได้นำการปลูกต้นไม้มาแล้วกว่า 30 ล้านต้นในหลายประเทศทั่วโลก และได้รับรางวัล Blue Planet Prize ซึ่งเปรียบเสมือนกันรางวัลโนเบลสำหรับศาสตร์ทางด้านนิเวศวิทยา
มร. ทาคาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำนักงานใหญ่ของเราได้เริ่มปลูกต้นไม้จำนวน 15,000 ต้นเมื่อปีที่ผ่านมา และโตโยด้า โกเซ (ประเทศไทย) เป็นสำนักงานสาขาแห่งแรกของโลกที่ริเริ่มกิจกรรมปลูกป่าธรรมชาติ โดยสาขาอื่นๆ จะเริ่มดำเนินการในอีกไม่ช้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถปลูกป่าธรรมชาติได้ครบ 600,000 ต้นภายในระยะเวลา 10 ปีได้ตามที่มุ่งหวัง”
“ที่ผ่านมา บริษัทฯ ส่งเสริมความเป็นโรงงานสีเขียว หรือ Green Factory มาโดยตลอด โดยให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของพนักงาน ตลอดจนโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมอื่นๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัย ได้แก่ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบริเวณโรงงาน, การคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิล การสร้างสนามฟุตบอล สนามฟุตซอล และสนามบาสเก็ตบอลให้พนักงาน, การมอบทุนการศึกษา คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์กีฬา ให้แก่นักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล, ตลอดจนดำเนินโครงการต่อต้านการใช้ยาเสพย์ติด รวมถึงส่งเสริมการลดอุบัติเหตุในที่ทำงานและการขับขี่ยานพาหนะโดยปลอดภัย” มร. ชิเงรุ ทาคาดะ กล่าวสรุป