อีเบย์ อิงค์ (หรือมีชื่อในตลาดหลักทรัพย์แนสแดคว่า EBAY) เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2553 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 โดยในไตรมาสสามของปีนี้ มีรายได้เท่ากับ 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นร้อยละ 10 เมื่อคำนวณโดยไม่นับรวมสไกพ์ เมื่อคำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (GAAP) สำหรับไตรมาส 3/2553 อีเบย์ อิงค์ มีรายได้สุทธิ 431.9 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 0.33 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นปรับลด ขณะเดียวกันในไตรมาส 3/2553 อีเบย์ อิงค์ มีรายได้สุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) คิดเป็น 530.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 0.40 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นปรับลด เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อคำนวนโดยไม่นับรวมสไกพ์
สำหรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของอีเบย์ อิงค์ในไตรมาส 3/2553 เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเติบโตอย่างโดดเด่นของธุรกิจเพย์พาล โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้ ยอดการชำระเงินโดยรวม และยอดบัญชีเพย์พาลส่งผลให้บริษัทเป็นผู้นำ การชำระเงินออนไลน์ ทั้งนี้ ธุรกิจเพย์พาลมีผู้ใช้บริการทั่วโลกรวม 90 ล้านราย โดยในไตรมาสสามที่ผ่านมา เพย์พาลมียอดการเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่าล้านบัญชีในแต่ละเดือน ยอดการชำระเงินโดยรวมของการบริการสำหรับสถานธุรกิจมีการเติบโตประมาณหรือมากกว่าร้อยละ 40 ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สี่ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนธุรกิจมาร์เก็ตเพลสมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านการให้บริการแก่ลูกค้า โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางในส่วนการดำเนินงานสำคัญต่างๆ ซึ่งรวมทั้งโมบายคอมเมิร์ซและแฟชั่น ทั้งนี้ปริมาณการขายของบริษัท เมื่อคำนวนโดยไม่นับรวมจีมาร์เก็ตมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 13 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการเติบโตอย่างรุดหน้าในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
มร. จอห์น โดนาโฮ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีเบย์ อิงค์ กล่าวว่า “อีเบย์มี ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/2553 โดยมีเพย์พาลเป็นธุรกิจที่นับวันมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงต่อไป อีเบย์ดำเนินการบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอเพื่อรักษาเสถียรภาพทั้งทางด้านความแข็งแกร่ง ความท้าทายทางธุรกิจ และโอกาส ทั้งยังเดินหน้าลงทุนในธุรกิจที่มี การเติบโตเพื่อให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง”