เมืองไทยประกันชีวิต บริษัทของคนหัวคิดทันสมัย ชูจุดเด่นด้านการบริการลูกค้า ประกาศความสำเร็จของเมืองไทย สไมล์ คลับ ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ 1766 สังคมออนไลน์ เครือข่ายสถานพยาบาลที่ครอบคลุม ล่าสุดปรับโฉมใหม่ศูนย์บริการลูกค้าทุกสาขาทั่วประเทศด้วยแนวคิดสบายๆ เป็นกันเอง พร้อมส่งบริการเสริมพิเศษ “เพิ่มรอยยิ้ม” และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการบริการในธุรกิจกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุดด้านการบริการ Automatic Smile Kiosk (ASK)
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่านโยบายที่เรายึดถือคือการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนซึ่งนั่นหมายถึงคุณภาพในทุกด้าน ทั้งในเรื่องความมั่นคงทางการเงิน การพัฒนาสินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง และอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือการบริการ เพราะนี่คือความแตกต่างที่ลูกค้ารู้สึกได้ เราให้ความสำคัญในทุกการบริการที่ลูกค้าเข้ามาสัมผัสหรือใช้บริการกับเรา ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ 1766 ที่เราเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุด เพื่อความสะดวกและอุ่นใจของลูกค้า เน้นการบริการด้วยคุณภาพซึ่งกำหนด SLA (Service Level Agreement) ไว้ที่ 95% คือใน 100 สายเราต้องสามารถรับสายได้ภายใน 25 วินาทีไม่น้อยกว่า 95 สาย ตลอดจนการเพิ่มช่องทางในการสื่อสารใหม่ๆ กับลูกค้าที่หลากหลายเพื่อเพิ่มความสะดวกในการติดต่อและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เช่นการสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ ทั้ง Facebook และ Twitter โดยปัจจุบันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งเรามีทีมงานคุณภาพที่ให้การดูแลเรื่องนี้โดยตรง
สำหรับในด้านเครือข่ายสถานพยาบาลนั้น นับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เราให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้าใช้บริการโดยไม่ต้องสำรองเงินก่อน (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) เพียงแสดงบัตรประจำตัว “เมืองไทยเฮลท์แคร์” (พร้อมบัตรประชาชน) ซึ่งปัจจุบันเรามีเครือข่ายสถานพยาบาลที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจในการให้บริการกับลูกค้าของเรากว่า 300 แห่งทั่วประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพในการประสานงานระหว่างบริษัทฯ กับสถานพยาบาล บริษัทฯ ได้ลงทุนพัฒนาระบบ Easy Care ภายใต้ลิขสิทธิ์ของเรา นำไปติดตั้งที่สถานพยาบาลแล้วกว่า 100 แห่ง ซึ่งจะทำให้การตรวจสอบสิทธิ์ของลูกค้ารวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเนื่องจากระบบจะมีการออนไลน์ข้อมูลถึงกัน และในด้านการให้บริการผ่านสาขาเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการครอบคลุม 140 สาขาทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิดสบายๆ เป็นกันเอง ด้วยรูปแบบการบริการที่สะท้อนบุคลิก ของบริษัทฯ คือความสุขและรอยยิ้มได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังส่งบริการเสริมพิเศษใหม่ คือ “บริการเพิ่มรอยยิ้ม” เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของการบริการแบบเป็นกันเองที่จะทำให้ทีมงานของเราสามารถพูดคุยกับลูกค้าได้ทุกเรื่องที่ลูกค้าสนใจ โดยลูกค้าที่เข้าใช้บริการที่ศูนย์บริการลูกค้าทุกสาขาสามารถใช้บริการประสานงานและช่วยหาข้อมูลต่างๆ ที่สนใจ รวมถึงสามารถปรึกษาปัญหาสุขภาพกายและความเครียดกับคุณหมอทางโทรศัพท์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยล่าสุดได้เปิดศูนย์บริการลูกค้าสบายๆ เป็นกันเองแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง ณ ห้างสรรสินค้า พาราไดซ์ ปาร์ค สำหรับศูนย์บริการแห่งนี้นอกจากจะสามารถเข้าไปทำธุรกรรมต่างๆ รวมถึงใช้บริการเพิ่มรอยยิ้มแล้ว ลูกค้ายังสามารถเข้าไปนั่งพักผ่อนหรือใช้บริการอินเตอร์เน็ทได้ฟรี อีกด้วย
นอกจากนี้เพื่อฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 ของเมืองไทย สไมล์ คลับ บริษัทฯ ได้เปิดตัว บัตรเมืองไทย สไมล์ คลับ รูปแบบใหม่ขึ้นที่จะส่งให้กับสมาชิก เพิ่มความสะดวกในการใช้เข้าร่วมกิจกรรม และมีระบบความปลอดภัยในข้อมูลด้วยระบบรหัสลับส่วนตัว (Password) ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาสิทธิพิเศษและบริการใหม่ๆ เพื่อมอบให้กับสมาชิกได้มากยิ่งขึ้น สำหรับเมืองไทย สไมล์คลับนั้นถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของบริษัทฯ ในการสร้างการบริการที่แตกต่างที่จับต้องได้ให้กับลูกค้า โดยเราถือเป็นต้นตำรับในการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าผ่านกิจกรรมความสุขต่างๆ ที่ช่วยสะท้อนภาพของแบรนด์ของความสุขและรอยยิ้มได้อย่างชัดเจนและจับต้องได้จริงในความรู้สึกของลูกค้า
เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการบริการแบบคนหัวคิดทันสมัย บริษัทฯ ได้พัฒนานวัตกรรมการบริการใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกและเพิ่มช่องทางใหม่ในการให้บริการกับลูกค้าในรูปแบบของเครื่องให้บริการข้อมูลอัตโนมัติ ASK (Automatic Smile Kiosk) นับเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่พัฒนาระบบนี้ขึ้นให้บริการลูกค้า โดยนายสาระกล่าวเสริมว่า “วันนี้การให้บริการเราจำเป็นต้องเดินเข้าไปหาลูกค้า เราต้องรู้ว่าลูกค้ามี ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันอย่างไรเพื่อพัฒนาการบริการของเราไปในจุดที่ลูกค้าสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่นการใช้เวลาในห้างสรรพสินค้า บริการมากมายสามารถหาได้ในห้างรวมถึงการใช้บริการทางการเงินต่างๆ หรือในแง่มุมของธุรกิจประกันชีวิตเองลูกค้าซื้อประกันผ่านหลากหลายช่องทาง บางท่านสะดวกในการใช้บริการผ่านช่องทางตัวแทน บางท่านอาจซื้อผ่านช่องทางธนาคาร หรือทางโทรศัพท์ สิ่งสำคัญคือไม่ว่าจะซื้อผ่านช่องทางไหนการบริการหลังการขายที่ดีและสะดวกเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ บริษัทฯ จึงได้พัฒนาเครื่องให้บริการข้อมูลอัตโนมัติขึ้นมาเพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการใช้บริการหลังการขายที่จะทำให้ลูกค้าสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยจะติดตั้งไว้ในหลายจุด อาทิ ห้างสรรพสินค้า หรือ พันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามั่นใจมากยิ่งขึ้นในการได้รับบริการหลังการขาย โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดกรมธรรม์และความคุ้มครองต่างๆ
ข้อมูลการชำระเบี้ยประกัน รวมถึงสามารถขอหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกัน เพื่อเป็นหลักฐานการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านเครื่อง ASK ได้ นอกจากนี้ยังสามารถสำรองสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมหรือรับสิทธิประโยชน์ รวมถึงตรวจสอบรายชื่อร้านค้าพันธมิตรต่างๆ ที่มอบส่วนลดพิเศษให้กับบัตร เมืองไทย สไมล์ คลับผ่านเครื่องนี้ได้ โดยความพิเศษคือ ASK จะมีโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับศูนย์บริการข้อมูล หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ได้โดยเจ้าหน้าที่จะสามารถเห็นข้อมูลชุดเดียวกันกับลูกค้า ทำให้การให้ข้อมูลจะมีความถูกต้องและชัดเจนมากยิ่งขึ้น เชื่อว่า ASK จะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เติมเต็มการให้บริการให้กับลูกค้าของเรามากยิ่งขึ้น”
“ทั้งนี้บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต เพื่อตอบสนองในทุกความต้องการของผู้บริโภคทุกท่าน ทั้งความคุ้มครองและการออมควบคู่ไปกับการลงทุน สำหรับการวางแผนทางการเงินในอนาคต เพื่อตอกย้ำความเป็นเลิศในทุกด้าน ตลอดจนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ด้วยความมั่นคง และแข็งแกร่ง และการเติบโตที่แท้จริงซึ่งพิจารณาจากผลประกอบการ เดือนมกราคม – ตุลาคม 2553 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันรับรวมสูงถึง 24,362 ล้านบาท เติบโตสูงถึงร้อยละ 38.77 เป็นเบี้ยประกันใหม่ 10,423 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 39.45 และเบี้ยประกันต่ออายุ 13,939 ล้านบาท เติบโตละ 38.26 โดยบริษัทฯ พร้อมเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ควบคู่ไปกับการบริหารงานภายใต้หลักบรรษัทภิบาลและการบริการที่ดีที่สุด” นายสาระกล่าว