คนไทยนิยมใช้บัตรเดบิตมากขึ้น เพราะความสะดวกสบายและสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, 22 ธันวาคม 2553 – จากผลสำรวจใหม่ที่จัดทำโดยบริษัทวีซ่า หนึ่งในสามของผู้บริโภคชาวไทยนิยมใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคประจำวัน
ผลสำรวจของวีซ่า1 ระบุว่าแม้คนส่วนใหญ่ใช้เงินสดเพื่อซื้อสินค้าและเพื่อบริการต่างๆ แต่บัตรเดบิตก็ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ และเป็นทางเลือกที่ชาวไทยเริ่มให้ความนิยมเพื่อใช้ในการจับจ่ายในการซื้ือสินค้าและบริการในแต่ละวัน ซึ่งรวมถึงการจับจ่ายซื้อสินค้าทั่วไป 30% การซื้อเวชภัณฑ์ ของใช้ส่วนบุคคล 30% และอีก 29% เป็นรายจ่ายเพื่อความบันเทิงต่างๆ เช่น บัตรชมภาพยนตร์ เป็นต้น บัตรเดบิตเอื้ออำนวยให้ผู้ใช้บัตรฯสามารถชำระเงินได้ทันที โดยที่ยอดเงินจะถูกหักจากบัญชีเงินฝากเมื่อใช้บัตรฯซื้อสินค้าหรือบริการ
ในกลุ่มของผู้ที่ตอบแบบสำรวจของวีซ่าซึ่งเป็นผู้ที่มีบัตรเดบิตอยู่แล้ว 76% มีความเห็นว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตให้ความสะดวกสบายกว่า และ 69% เชื่อว่าการใช้บัตรเดบิตมีความปลอดภัยกว่าการถือเงินสด ส่วนความเห็นของกลุ่มที่ไม่มีบัตรเดบิตมาก่อน พบว่า 70% เห็นด้วยว่าบัตรเดบิตใช้งานได้สะดวกกว่า และ 63% คิดว่าเป็นหนทางที่ปลอดภัยกว่าการถือเงินสด
แบบสำรวจยังระบุอีกว่าในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่ไม่มีบัตรเดบิต 61% มีแนวโน้มที่จะสมัครบัตรวีซ่าเดบิต และ 73% หรือสามในสี่ของคนกลุ่มนี้กำลังวางแผนที่จะใช้บัตรวีซ่าเดบิตแทนการใช้เงินสด
เหตุผลหลักของการเลือกใช้บัตรเดบิตแทนการใช้เงินสดของผู้ตอบแบบสอบถามคือ 35% เลือกใช้บัตรเดบิตเพราะสามารถใช้ซื้อสินค้าจากร้านค้าโดยทั่วไปได้ 32% คิดว่าการใช้บัตรเดบิตเป็นวิธีบริหารเงินที่ดี ในขณะที่ 30% เลือกใช้บัตรเดบิตเพราะสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ และอีก 26% ใช้บัตรเดบิตเพราะต้องการสิทธิประโยชน์จากการใช้บัตรฯ
คุณสมบูรณ์ ครบธีรนนท์, ผู้จัดการบริษัทวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “แม้ว่าคนไทยจำนวนมาก มีบัตรเดบิตเป็นของตนเองอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่กลับไม่ทราบว่าบัตรเดบิตนี้เป็นมากกว่าบัตรเอทีเอ็มที่สามารถนำไปใช้เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าที่รับบัตรได้โดยตรง จากผลสำรวจของวีซ่า จะเห็นได้ว่า ผู้บริโภคในเมืองไทยเริ่มตระหนักถึงความสะดวกสบาย และความเป็นบัตรอเนกประสงค์ของบัตรเดบิตที่เป็นทางเลือกหนึ่งในการชำระเงิน ยิ่งไปกว่านั้นคนไทยยังเล็งเห็นคุณค่าของบัตรเดบิตว่าเป็นเสมือนเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ช่วยในการบริหารการเงิน และเป็นสิ่งที่สามารถใช้แทนเงินสดสำหรับชีวิตประจำวัน เช่น เพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล และเพื่อเติมน้ำมันรถยนต์”
แบบสำรวจข้อมูลของวีซ่าสนับสนุนแผนของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ประกาศไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เกี่ยวกับการริเริ่มส่งเสริมให้คนใช้บัตรเดบิตมากขึ้นในปี พ.ศ. 2544 ทั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะกระตุ้นให้คนไทยใช้บัตรเดบิตเพื่อการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคล
คุณสมบูรณ์กล่าวเสริมว่า “ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบในเทคโนโลยี ไปจนถึงคนที่เริ่มอาชีพการงาน และสำหรับครอบครัว บัตรวีซ่าเดบิตมีบทบาทสำคัญในการเป็นเครื่องมือจับจ่ายใช้สอยในอุดมคติ อีกทั้งยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อทดแทนการใช้เงินสด ทางบริษัทวีซ่าฯ มีแผนงานที่จะสร้างความเข้าใจให้คนไทยได้รู้จักบัตรเดบิตมากขึ้นเพื่อตอกย้ำว่า บัตรเดบิตเป็นวิธีการจับจ่ายที่ง่ายกว่า รวมทั้งให้สิทธิประโยชน์จากการใช้บัตรที่เหนือกว่าเงินสด”