เอวอนปลื้มภาพรวมยอดขายปี 2553 พุ่งทะลุเป้าในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งบิวตี้และนอน-บิวตี้ พร้อมเตรียมแผนรุกตลาดครั้งใหญ่ ฉลองครบรอบ 125 ปี สานต่อความเป็นผู้นำตลาดขายตรงของโลก ด้วยการสร้างสรรค์แคมเปญ “เอวอน วอยซ์” เฟ้นหาผู้หญิงมากพรสวรรค์ทั้งร้องและแต่งเพลงร่วมงานกับศิลปินดังระดับโลก ประกาศรุกธุรกิจในกลุ่มคัลเลอร์แบบเต็มสูบ วางแผนเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดปี พร้อมสร้างความแข็งแกร่งให้ทีมขายและขยายช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคตลอดปี
นางวัลลภา นฤนาทวานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอวอน คอสเมติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา เอวอน ประสบความสำเร็จอย่างมากในการแนะนำสินค้าใหม่ๆ สู่ตลาดเมืองไทย ทั้งกลุ่มน้ำหอม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเด็กที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยในกลุ่มน้ำหอมนั้นน้ำหอมผู้ชายและกลุ่มของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนที่มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมแท้ มีการเติบโตดีกว่าเป้าที่วางไว้ชัดเจน เช่นเดียวกับกลุ่มน้ำหอมผู้หญิงที่เอวอนประสบความสำเร็จกับการนำเสนอน้ำหอมในกลุ่มระดับกลางที่ราคาประมาณ 299 – 499 บาท โดยมีสัดส่วนการเติบโตดีกว่าเมื่อปี 52 มาก ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเอนิว ได้มีการเพิ่มไลน์สินค้าที่ให้ความขาวแบบไวทัลลิตี้เข้ามาพร้อมลดเลือนริ้วรอยและบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใสและมีสุขภาพดีในหนึ่งเดียว ในชื่อ เอนิว 360o ไวท์ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้จำหน่ายอิสระเอวอนและกลุ่มลูกค้า ผลักดันให้แบรนด์ เอนิว เติบโตขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ในแบรนด์หลักของเอวอน ตามหลัง เอวอน เมคอัพ ที่ยังครองแชมป์แบรนด์หลักที่มีสัดส่วนยอดขายสูงที่สุดในปี 53 นำโดยความสำเร็จของการเปิดตัว เมก้า อิมแพค ลิปสติกที่ให้สีสันสดชัดทุกมุมมอง ผลักดันอัตราการเติบโตในกลุ่มสีสันในปี 53เป็นอย่างมาก
“ด้านกลุ่มนอน-บิวตี้ เรามีอัตราการเติบโตที่ดีมากในส่วนของชุดชั้นในเอวอน ทั้งในกลุ่มหลักอย่างบอดี้ เพอร์เฟค ที่ดีไซน์ออกแนวแฟชั่นและเน้นความสบายเวลาสวมใส่ และกลุ่มสำคัญอย่างเชฟ เมคเกอร์ ชุดชั้นในที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อการปรับส่วนสัด กระชับส่วนเกิน สำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาเรื่องรูปร่าง ก็มีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ เรามีความสำเร็จในการเพิ่มขนาดใบสั่งซื้อในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มนักขายคนเก่งของเราที่นอกจากจะมีความต่อเนื่องในการทำธุรกิจกับเอวอนแล้ว ยังสามารถเพิ่มขนาดใบสั่งซื้อได้ในระดับที่น่าพอใจถึงกว่า 10% ด้วยกัน อัตราผลกำไรขั้นต้นของเราในปีนี้ก็มีการปรับตัวดีขึ้นถึง 1 percentage point ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และต้นทุนสินค้าลดลงที่ได้รับผลมาจาก Harmonization ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคนี้” นางวัลลภา นฤนาทวานิช กล่าว
ด้านกลุ่มสินค้าเด็ก “เอวอน เบบี้” ที่เอวอนเพิ่งแนะนำสู่ตลาดเมืองไทยนั้น พบว่า ได้ผลตอบรับเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ทั้งในเรื่องของโอกาสการสร้างรายได้จากกลุ่มนักขายคนเก่ง และผู้บริหารกลุ่มของเอวอน และได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากสื่อทุกแขนง และที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากคงเป็นเรื่องของการทำ trade promotion ร่วมกับนิตยสารคุณแม่ชั้นนำจำนวนมาก ในแง่ของสัดส่วนการขายสามารถสรุปยอดขายได้ ดังนี้ เอวอน เบบี้ โลชั่น มีสัดส่วนการสร้างรายได้สูงที่สุดถึง เกือบ 40% ตามมาด้วย เอวอน เบบี้ เฮด ทู โท วอช มีสัดส่วนอยู่ที่ 32% ตามมาติดๆ ด้วยกลุ่ม เอวอน เบบี้ ซูทธิ่ง ออยล์ ที่มีลำดับสัดส่วนการสร้างรายได้ในช่วง 3 เดือนแรก ถึง 29% นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมส่งเสริมการขายที่จัดขึ้นรวมทั้งการนำเสนอตัวอย่างน้ำหอมของเอวอน เบบี้ ในแค็ตตาล๊อกของเอวอน รวมไปถึงกิจกรรมเอวอน เบบี้ สปา ที่จัดขึ้นตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน ที่เอวอน บิสสิเนส เซ็นเตอร์ บางกะปิ ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างยอดขายให้กับเอวอน เบบี้เช่นกัน
ด้านช่องทางการจำหน่ายนั้น ในปีที่ผ่านมาเอวอนมีการปรับกลยุทธ์ด้านช่องทางการจำหน่ายให้เข้ากับวิถีชีวิตในปัจจุบันรวมถึงความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยได้เปิดเอวอน บิสสิเนส เซ็นเตอร์ ที่บางกะปิ อย่างเป็นทางการ เพื่อให้บริการด้านการสั่งสินค้าพร้อมรับสินค้าทันทีกว่า 200 รายการ นอกจากนี้ ยังใช้เป็นศูนย์ฝึกอบรมแก่ผู้บริหารกลุ่มของเอวอน โดยมีตารางพัฒนาและฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์และการพัฒนาผู้นำธุรกิจภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก อบรมโดยทีมงานมืออาชีพของเอวอนทั้งในด้านธุรกิจและด้านความงาม นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาการรับใบสั่งซื้อในรูปแบบเทรดดิชั่นนัลทางไปรษณีย์ โดยเปิดตลอดแคมเปญการสั่งซื้อจากทั่วประเทศและเพิ่มบริการจัดส่งสินค้าให้กับผู้จำหน่ายอิสระและกลุ่มนักขายคนเก่งทั่วประเทศภายใน 3 วันทำการ ในขณะที่เอวอนคอลเซ็นเตอร์ ก็ให้บริการรับใบสั่งซื้อตลอด 24 ชม.ทุกวันผ่าน 0-2614-0123 สำหรับช่องทางการสั่งซื้อแบบออนไลน์ ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบรับการขยายตัวของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากผู้จำหน่ายอิสระและผู้บริหารกลุ่ม ซึ่งเอวอนมุ่งขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านสื่อออนไลน์ และโซเชียล มีเดีย รวมถึงเน็ทเวิร์คต่างๆ โดยจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์หลักที่เอวอนจะพัฒนาโดยใช้รูปแบบเดียวกันทั่วโลก เพื่อเสริมโอกาสการสร้างรายได้ให้กับนักธุรกิจเอวอนที่จะสามารถทำธุรกิจได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านโลกออนไลน์ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์สมาร์ท โฟน
“ในปี 2554 ถือเป็นปีที่เอวอนทั่วโลกฉลองครบรอบ 125 ปีร่วมกัน เอวอนจึงได้นำเสนอแคมเปญระดับโลก เอวอน วอยซ์ เพื่อมอบโอกาสให้ผู้หญิงทั่วโลกร่วมแสดงความสามารถและพรสวรรค์ทางด้านการร้องเพลงและดนตรีให้คนทั่วโลกได้รับรู้ผ่านเว็บไซต์ www.avonvoices.com ที่สามารถเข้าถึงได้จากทุกมุมโลก โดยมีนักร้องมืออาชีพระดับโลกรวมถึงบุคลากรระดับโลกจากวงการดนตรีเข้าร่วมเป็นกรรมการและเทรนเนอร์ให้กับผู้ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย โดยแคมเปญดังกล่าว ถือเป็นการเปิดช่องทางไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ซึ่งเป็นวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงานที่จะได้รู้จักเอวอนได้ดียิ่งขึ้น” นางวัลลภา นฤนาทวานิช กล่าว
ด้านมุมมองต่อการเติบโตของธุรกิจขายตรงในปี 2554 นั้น นางวัลลภา นฤนาทวานิช กล่าวเสริมในประเด็นดังกล่าวว่า “การเข้ามาของบริษัทขายตรงรายสำคัญๆ ทำให้ตลาดมีความตื่นตัว และทำให้รูปแบบของธุรกิจขายตรงเป็นที่จับตามองของภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป เนื่องจากเป็นการเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้และเป็นธุรกิจที่ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้เท่าๆ กัน โดยแทบไม่ต้องอาศัยพื้นฐานการศึกษาและพื้นฐานทางสังคมส่วนตัว การเข้ามาของบริษัทขายตรงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายเข้าสู่ท้องตลาดตรงถึงผู้บริโภค ผ่านเครือข่ายขายตรงที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามนักธุรกิจอิสระหรือประชาชนควรให้ความสำคัญกับการเลือกเข้าร่วมธุรกิจขายตรงกับบริษัทใดๆ เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นตัวกำหนดความสามารถในการดำเนินธุรกิจในระยะยาวของบริษัทนั้นๆ แล้ว ยังมีผลโดยตรงต่อคุณภาพของสินค้าและบริการที่จะได้รับจากสินค้าในกลุ่มนี้ด้วย ผู้บริโภคก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะมีส่วนสำคัญในการกำหนดความสำเร็จและโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนในธุรกิจขายตรงมากขึ้น ไม่ใช่เป็นเพียงแต่นักธุรกิจในเครือข่ายเท่านั้น การเพิ่มการบริการ การรับประกันการคืนสินค้า ความสะดวกในการสั่งซื้อ การรวดเร็วในการได้รับผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน จะเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดการเติบโตที่ยั่งยืนของบริษัทในกลุ่มขายตรงอย่างแน่นอน”