หลังจากมีสาขาต้นแบบ ควอลิตี้คิดส์ เบรนฟิตเนส เซ็นเตอร์เปิดตัวไปแล้วที่จังหวัดชลบุรี ที่มีผลตอบรับที่ดีมาก ทำให้มั่นใจได้ว่า ความต้องการของผู้ปกครองที่ต้องการพัฒนาลูกหลานในการพัฒนาทักษะสมองมีอยู่มาก โอกาสของธุรกิจนี้เติบโตได้อีกมาก สถาบันควอลิตี้คิดส์ ฟิตเนส เซ็นเตอร์ จึงมีเป้าหมายเปิดขึ้นในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ทำไมหลักสูตรการพัฒนาความฉลาด เสริมสร้างทักษะสมองของเด็กจึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เพราะพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้น เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจในเรื่องการพัฒนาการของลูก อีกทั้งการขาดความรู้ และวิธีการในการปรับพฤติกรรมของเด็ก ทำให้แนวทางการเรียนการสอนของควอลิตี้คิดส์ เบรนฟิตเนส เซ็นเตอร์ ตอบสนองความต้องการจุดนี้ได้ตรงจุด
ความสำเร็จ ของแฟรนไชส์ ควอลิตี้คิดส์ ที่มีสาขาอยู่ กว่า 21 แห่ง ในกรุงเทพฯ ในแต่ละปีมีการเติบโตกว่า 50% ทำให้บริการนี้ได้สามารถขยายออกสู่ต่างจังหวัด โดยเริ่มเปิดตัวแห่งแรกที่ จังหวัดชลบุรี ที่มีการตอบรับอย่างรวดเร็ว
คุณแม็ทธิว แบร์ดี้ ประธานกรรมการ Quality Kids กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีว่า “เราเปิดที่ชลบุรี 3 เดือน มีเด็กมาเรียน 100 กว่าคน ทั้งๆที่เป็นแบรนด์ ที่คนไม่รู้จัก เป็นหลักสูตรที่ไม่เคยเห็น แต่ผู้ปกครองต้องการให้ลูกฉลาด เมื่อก่อนผู้ปกครองต้องการแค่ลูกอ่านออกเขียนได้ แต่ในยุคนี้ เปลี่ยนไปแล้ว ผู้ปกครองอยากให้ลูกกล้าพูดกับฝรั่ง ต้องการแก้ไขปัญหาเด็ก สาเหตุที่สถาบันของเราได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่ส่งลูกมาเรียนที่นี่ เขาเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของลูก ก็มีการบอกต่อ คนต่างจังหวัดมีสังคมที่ใกล้ชิดกว่าที่กรุงเทพ ทำให้การบอกต่อได้ผลอย่างรวดเร็ว”
แนวการเรียนการสอน ของ ควอลิตี้คิดส์ เบรนฟิตเนสเซ็นเตอร์ เป็นการฝึกฝนการทำงานของสมอง เรียนรู้ผ่านการเล่น Education Toys “ระบบของเรา คือการฝึกสมองซีกซ้าย และซีกขวา ให้ทำงานไวขึ้น ทำให้เด็กเรียนง่ายขึ้นด้วย เด็กที่ฉลาดกว่า คือมีประสบการณ์มากกว่า ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเด็กเรียนหนัก 5 วิชา เปรียบเทียบกับเด็กที่ 10 วิชาด้วยความสนุก เช่น ดนตรี ศิลปะ เล่นเกมฝึกสมอง ภาษา เด็กกลุ่มหลังนี้จะไปได้ไกลกว่า”
การเรียนผ่านการเล่นเกมของเล่น เช่น การต่อจิ๊กซอว์ การเล่นหมากรุก ตัวต่อ และอื่นๆอีกมากกว่า 3,000 ชนิด ที่ ให้ประโยชน์กับเด็ก ในการสังเกต การเรียนรู้เรื่องภาษาผ่านเกมที่เล่น การฝึกทักษะเกี่ยวกับตัวเลขผ่านเกมของเล่นต่างๆเหล่านั้นให้ประโยชน์ แก่เด็ก 5 ด้าน คือ
“สร้างประสบการณ์ Experience เพราะเด็กเรียนจากการทดลอง ทำจริง อย่างเช่นเรื่องเลข และสัดส่วน แทนที่เด็กจะเรียนจากการฟังอย่างเดียว แต่เด็กจะเรียนผ่านของเล่น ที่เด็กได้ลงมือทำ และลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ทำให้ประโยชน์ที่ทำให้เด็กเข้าใจเรื่องสัดส่วนด้วยการลงมือเล่น เป็นการสร้างประสบการณ์การ ซึ่งเขาจะมีการจดจำได้ดีกว่า เกิดความเข้าใจลึกซึ้งกว่า”
“ฝึกทักษะ Skill คือการที่เด็กได้ทำซ้ำๆ จะทำให้สมองเขาไวขึ้น และคิดได้เร็วขึ้น อย่างการเล่นจิ๊กซอว์ หรือเล่นตัวต่อ เมื่อเขาได้เล่นบ่อยๆ จะมีทักษะในการคิดเร็วขึ้นๆ และการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น”
“ฝึกสมาธิ Focus ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับจากการเรียน โปรแกรมนี้ จะทำให้เด็กมีสมาธิที่ดีขึ้น เด็กที่ไม่เคยอยู่นิ่งเลย จะเปลี่ยน เขาจะสามารถจดจ่อกับสิ่งที่เขาสนใจได้นานขึ้น การได้ฝึกการเล่นที่ต้องใช้สมาธินี้ จะทำให้เขานำไปใช้กับการเรียนในโรงเรียนด้วย”
“มีความสุข Happiness เด็กจะมีความสุขกับการเรียนแบบนี้ เพราะแนวการสอนของเรา ต้องนึกถึงเด็กก่อน คือไม่ได้เอาความสะดวกของครู เช่น เด็กอนุบาล กับเด็กมัธยมไม่ควรเรียนภาษาอังกฤษ 1 ชั่วโมงเท่ากัน นี่คือความสะดวกของครู แต่กิจกรรมสำหรับเด็กของเรา จะประมาณ 15 นาที ก็จะเปลี่ยน เด็กจะเรียนรู้ได้ดี เมื่อพวกเขามีความสุขในการเรียนด้วย”
“มีความมั่นใจ Confidence การให้เด็กเล่นเกมของเล่น จะเริ่มจากระดับที่ไม่ยากเกินไป เหมาะสมกับวัยของเขา อย่างเช่นการต่อภาพอาจจะเริ่มที่ 6 ชิ้นก่อน เมื่อเขาทำได้สำเร็จ เขาจะเกิดความมั่นใจในความสำเร็จของเขาเอง และเด็กต้องมีความพร้อมที่จะเล่น เป็นการพัฒนาความเชื่อมั่นของเขา และการเล่นในระดับที่ยากขึ้นไป ทำให้เขาเห็นเป้าหมายที่จะทำต่อไปให้ได้ นี่คือประโยชน์ที่เด็กจะได้รับโปรแกรมการสร้างความมั่นใจของเรา”
“เวลาที่เด็กเจอกัน เด็กไม่ได้มาคุยการเมืองเศรษฐกิจ ถึงเด็กพูดกันคนละภาษา แต่ก็ชวนมากันเล่นได้ นี่คือประโยชน์ 5 อย่าง ที่เด็กๆจะได้รับจากโปรแกรมการสอนของเรา และ เป้าหมายสูงสุดของเรา เราตั้งใจจะพัฒนาเด็กไทยทั่วประเทศ เพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็น ในเรื่องของการพัฒนาเด็ก” แม็ทธิว กล่าว
ในปีนี้การขยายสาขาของ ควอลิตี้คิดส์ เบรนฟิตเนส เซ็นเตอร์ จะเปิดขึ้นอีก 10 สาขาที่เป็นแฟรนไชส์ โดยสาขาที่จะเปิดขึ้นตามมาเร็วๆ นี้ คือ สาขาศรีราชา , นครปฐม, ภูเก็ต, นครสวรรค์, สุราษฎ์ธานี
สำหรับผู้ที่สนใจ ต้องการทำธุรกิจการศึกษานี้ในต่างจังหวัด จะลงทุนประมาณ 2.5 ล้านบาท ทั้งนี้การลงทุนจะปรับขึ้นลง ตามต้นทุนตกแต่ง ค่าเช่าสถานที่ ซึ่งในต่างจังหวัด จะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ถูกกว่าในกรุงเทพฯ ทำให้การเปิดธุรกิจเกิดขึ้นได้ไม่ยาก ซึ่งช่วงนี้ยังมีโอกาสมาก เพราะบางจังหวัดที่ยังไม่มี ก็สามารถเปิดให้บริการได้
ผู้ที่เหมาะสมจะมาทำธุรกิจนี้ ควรเป็นผู้หญิง ที่มีอายุระหว่าง 28-45 ปี ถ้ามีลูกแล้วก็จะดีกว่า และเป็นผู้ที่ต้องการบริหารธุรกิจ และควรมีประสบการณ์ในการบริหารคนมาบ้าง และมีจิตใจรักเด็ก การเปิดสถาบัน 1 แห่ง จะมีพนักงานประมาณ 3-4 คน
สำหรับความช่วยเหลือที่จะได้รับจากทางบริษัทแม่ ก็คือ การให้ความรู้ในเรื่องวิธีการสอน การขาย การบริหาร รวมไปถึงความรู้เกี่ยวกับการแก้ปัญหาเด็ก