บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง เชื่อสัปดาห์นี้ราคาทองคำรีบาวน์ หลังกองทุน SPDR เข้าซื้อหนัก และดีมานด์ของเอเชียเพิ่มรับเทศกาลตรุษจีน แนะนักลงทุน “ซื้อเก็งกำไร”ระยะสั้นรอลุ้นขายก่อนเทศกาลตรุษจีน 1-2 วัน คาดการณ์กรอบการลงทุนที่ 19,300-20,050 บาท/บาททอง
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(GBX) กล่าวให้ความเห็นถึงแนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์นี้ว่า ราคาทองคำมีโอกาสรีบาวน์กลับขึ้นมาทดสอบ 1,371-1,381 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ โดยเป็นไปได้ว่าราคาจะแกว่งตัวผันผวนรุนแรงตลอดทั้งสัปดาห์ภายใต้กรอบ 1,330-1,380 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ เช่นเดียวกับภาพการเคลื่อนไหวของสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยในเชิงกลยุทธ์การลงทุน บมจ. โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯแนะนำนักลงทุน “ซื้อเก็งกำไร” ระยะสั้นตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์เพื่อรอลุ้นขายในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นก่อนเทศกาลตรุษจีน 1-2 วัน คาดการณ์กรอบการลงทุนที่ 1,330-1,380 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือ 19,300-20,050 บาท/บาททอง
ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนการรีบาวน์เกิดขึ้นจากมาตรการจีนที่เริ่มบรรเทาลง หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีการออกมาตรการสกัดกั้นการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม และเชื่อว่าสัปดาห์นี้จะมีการออกมาตรการใดเพิ่มเติมเช่นกัน เนื่องจากใกล้ช่วงวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำเบอร์ 1 ของโลก ได้หันมาซื้อทองคำอย่างหนักกว่า 20.34 ตันเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผานมาอยู่ที่ 1,271.77 ตัน ทำให้ยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีลดลงเหลือเพียง 8.95 ตัน จากก่อนหน้าที่แสดงยอดขายสุทธิ 29.29 ตัน
ขณะเดียวกัน ราคาทองคำได้ปรับตัวลงใกล้เคียงเส้นค่าเฉลี่ย 75 สัปดาห์แถว 1,330 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ ซึ่งเป็นแนวรับอยู่มาตลอดปีที่ผ่านมา จึงเป็นไปได้ว่าจะมีการดีดตัวกลับขึ้นมาในช่วงสั้นๆ เช่นเดียวกับ ผลการวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ของ บมจ. โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯ ที่สะท้อนราคาเหมาะสมเฉลี่ยอยู่ที่ 1,366 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ ส่วน Upside เฉลี่ยอยู่ที่ 1,408 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ (สูงกว่าปิดสัปดาห์ก่อน 4.99%) และ Downside เฉลี่ยอยู่ที่ 1,323 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ (ต่ำกว่าปิดสัปดาห์ก่อน 1.4%) ซึ่ง Upside ที่สูงเกินระดับ 4.0% ถือว่าเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และหากเกิดราคาทองคำจะมีการรีบาวน์อยู่เสมอ
นอกจากนี้ ระยะหลังการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญออกมาดูมีบทบาทในการผลักดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยการเปิดเปยข้อมูลจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. 54 ที่จะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านของ S&P โพลล์ที่คาดว่าจะลดลง 1.3% YoY แย่กว่างวดก่อนที่ลดลง 0.8% YoY และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่โพลล์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 53.5 จุดมากกว่างวดก่อนที่ 52.5 จุด
ขณะที่วันที่ 26 ม.ค. 54 จะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ โพลล์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 300,000 ยูนิต มากกว่างวดก่อนที่ 290,000 ยูนิต และผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เพื่อกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ย ขณะที่วันที่ 27 ม.ค. 54 จะมีการเปิดเผยยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ โดยโพลล์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 408,000 คน แย่กว่างวดก่อนที่ 404,000 คน, ยอดสั้งซื้อสินค้าคงทน โพลล์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5% MoM ดีกว่างวดก่อนที่ลดลง 0.3% MoM, และยอดขายบ้านรอปิดการขาย โพลล์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% MoM น้อยกว่างวดก่อนที่เพิ่มขึ้น 3.5% MoM และวันที่ 28 ม.ค. 54 จะเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2553 ซึ่งโพลล์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.8% QoQ มากกว่างวดก่อนที่เพิ่มขึ้น 2.6% QoQ