กลุ่มพรูเด็นเชียล
– เบี้ยประกันภัยรับคำนวณเต็มปีสุทธิ 3,485 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 23%
– อัตราผลกำไรจากธุรกิจใหม่ (APE) ตามมาตรฐานทางบัญชีของยุโรป (EEV) คิดเป็น 58%
– ผลกำไรจากธุรกิจใหม่ ตามมาตรฐานทางบัญชีของยุโรป (EEV) 2,028 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 25%
พรูเด็นเชียล ประเทศไทย
– เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (FYP) 1,150 ล้านบาท เติบโต 58% และเบี้ยประกันภัยรับรวม (Total premium) 3,664 ล้านบาท เติบโต 21%
– ช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์เติบโตร่วม 200%
– มีเงินกองทุนสำรอง 691 ล้านบาท สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดถึง 490%
นายทิดเจน เธียม ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ได้แถลงผลการดำเนินงานของปี 2553 ว่า “ผลการดำเนินงานปี 2553 ของบริษัทฯ มีความโดดเด่นเหนือกว่าปี 2552 ในทุกตัวชี้วัดที่สำคัญ ตอกย้ำให้เห็นว่ากลยุทธ์ของกลุ่มบริษัทฯ อันได้แก่ การเร่งการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย การสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจในสหรัฐอเมริกา การมุ่งเน้นธุรกิจเฉพาะทางในสหราชอาณาจักร และการบริหารธุรกิจจัดการกองทุนรวมอย่างรอบคอบทั้งในสหราชอาณาจักรและภูมิภาคเอเชียนั้นได้ดำเนินมาถูกทางแล้ว รวมถึงการรักษาวินัยอย่างเคร่งครัดใน การจัดสรรทุนและการบริหารงบดุลอย่างมีประสิทธิภาพก็เป็นหัวใจสำคัญในความสำเร็จของกลุ่มฯ ด้วยเช่นกัน
เมื่อพิจารณาในภาพรวมของทั้งกลุ่มฯ เราประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างผลกำไรธุรกิจใหม่ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 20% เติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยเงินทุนส่วนเกินจากเงินกองทุนขั้นต่ำที่ต้องดำรงไว้ตามกฎหมาย (Free Surplus) และเงินกองทุนส่วนที่เกินกว่าภาระผูกพันต่อผู้เอาประกันภัย (IGD) รวมถึงการเพิ่มขึ้นของส่วนของผู้ถือหุ้นทั้งสองมาตรฐานในทางบัญชี (EEV และ IFRS) นอกจากนี้ เรายังประสบความสำเร็จในการเพิ่มอัตราผลกำไรให้สูงเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยเพิ่มขึ้น 1% เป็น 58% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2552 พร้อมกันนี้ เรายังได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าไม่เพียงแค่ภูมิภาคเอเชียที่มีการเติบโตและสร้างผลกำไรให้แก่กลุ่มฯ แต่ยังรวมถึงหน่วยธุรกิจต่างๆ ในทุกภูมิภาคที่จะสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทฯ ด้วยเช่นกัน”
นายบินายัค ดัตตา กรรมการผู้จัดการ บมจ.พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาว่า “ปี 2553 นับว่าเป็นปีที่เราประสบความสำเร็จอย่างสูง สามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับปีแรก (FYP) ได้ถึง 1,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 58% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ที่เติบโตขึ้นร่วม 200% ในขณะที่ช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอับดับ 2 ก็ยังคงเป็นช่องทางที่พรูเด็นเชียลมีความเชี่ยวชาญ โดยเน้นคุณภาพการบริการและการบริหารต้นทุนการดำเนินงานให้เหมาะสมที่สุด โดยในปีนี้บริษัทฯ มีนโยบายเชิงรุกสำหรับช่องทางขายผ่านตัวแทน ทั้งด้านการสรรหาตัวแทนใหม่เพิ่มขึ้นให้ได้สองเท่า และเน้นให้ตัวแทนมีผลงานสม่ำเสมอ ซึ่งในทุกช่องทางจะเน้นการเติบโตอย่างรอบคอบและมั่นคง บนพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง เห็นได้จากเงินกองทุนสำรองที่บริษัทฯ ได้ดำรงไว้ถึง 691 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าจำนวนเงินกองทุนที่ต้องดำรงไว้ตามกฎหมายถึง 490% (ณ วันที่ 30 กันยายน 2553)”