ผลสำรวจจากวีซ่าชี้คนไทยหันมาใช้บริการการ ชำระหนี้ผ่านระบบออนไลน์เพราะพึงพอใจในความสะดวกสบาย

ข้อมูลจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในระบบอี-คอมเมิร์ชปี 2553 โดยวีซ่า1 (2010 Visa eCommerce Consumer Monitor) พบว่าผู้บริโภคชาวไทยเลือกชำระเงินจากใบแจ้งหนี้ต่างๆผ่านระบบออนไลน์มากกว่าชำระด้วยเงินสดหรือเช็คเพราะเล็งเห็นถึงความสะดวกและสามารถยืดหยุ่นได้

ผลสำรวจจากผู้บริโภคชาวไทยจำนวน 534 คนในช่วงไตรมาสที่สามของปีที่ผ่านมาพบว่า 43เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเคยชำระค่าบริการต่างๆผ่านระบบออนไลน์ในสิบสองเดือนที่ผ่านมาโดย 92 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้บริการเหล่านี้ยืนยันทำการชำระค่าบริการผ่านระบบออนไลน์ต่อไป นอกจากนี้ 45 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ไม่เคยใช้บริการนี้ มีความประสงค์ที่จะทดลองชำระผ่านระบบออนไลน์

เมื่อถามว่าผู้ตอบแบบสอบถามการชำระค่าบริการด้วยรูปแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ เปอร์เซ็นต์ที่ได้มีดังต่อไปนี้ 25 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้เครื่องเอทีเอ็มเพื่อชำระหนี้ต่างๆเป็นช่องทางหลัก ขณะที่ 21 เปอร์เซ็นต์เลือกชำระผ่านเว็บของธนาคาร, 19 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อชำระค่าบริการ, 11 เปอร์เซ็นต์ชำระที่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าและอีก 5 เปอร์เซ็นต์ชำระผ่านเว็บไชต์ของห้างร้านโดยตรง

“การชำระบริการต่างๆผ่านระบบออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยและมีแนวโน้มว่าจะโตมากขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคเล็งเห็นถึงความสะดวกสบายในการชำระเงินผ่านระบบธุรกรรมอัตโนมัตินี้” คุณสมบูรณ์ ครบธีระนนท์, ผู้จัดการบริษัทวีซ่า, ประจำประเทศไทยกล่าว

“ด้วยรูปแบบชีวิตที่เร่งรีบและวุ่นวายในปัจจุบันทำการตรวจตราว่าค่าบริการแต่ละใบได้ชำระแล้วหรือยังนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย การเชื่อมถึงกันระหว่างค่าบริการต่างๆที่เกิดขึ้นและการใช้บัตรเพื่อการชำระเงินโดยตรงหรือผ่านระบบออนไลน์ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถติดตามได้ว่าจ่ายเงินของใบเรียกเก็บใดไปบ้างแล้วเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการชำระเงินเกินกำหนด ทั้งยังสามารถสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของรางวัลโดยไม่ต้องเดินทางไปที่จุดชำระเงินด้วยตัวเองอีกด้วย ทั้งบริการเวอร์ริฟายด์ บาย วีซ่า(Verified by Visa) ซึ่งเป็นบริการตรวจสอบอัตลักษณ์ก็ทำให้ผู้บริโภคแน่ใจได้ว่าการทำธุรกรรมผ่านบัตรวีซ่านั้นเป็นเรื่องที่ปลอดภัย” คุณสมบูรณ์กล่าวเสริม

ผู้ตอบแบบสอบถามที่เคยใช้บริการชำระค่าบริการด้วยระบบออนไลน์นั้นให้เหตุผลในการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ว่าเป็นเพราะ ช่วยประหยัดเวลา (29 เปอร์เซ็นต์), มีความยืดหยุ่นเพราะสามารถชำระเงินได้ทุกเวลา (15 เปอร์เซ็นต์) และช่วยให้ตรวจสอบและบริหารการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น (7 เปอร์เซ็นต์)

ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยชำระค่าบริการผ่านระบบออนไลน์โดยเฉลี่ยที่ 64 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐต่อปี โดย 59 เปอร์เซ็นต์เป็นการชำระค่าโทรศัพท์, 43 เปอร์เซ็นต์คือค่าใช้บริการอินเตอร์เน็ตอีก 39 เปอร์เซ็นต์จากการชำระบัตรเครดิตและอีก 33 เปอร์เซ็นต์ชำระค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคต่างๆ

ข้อมูลจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในระบบอี-คอมเมิร์ชปี 2553 โดยวีซ่า (2010 Visa eCommerce Consumer Monitor) ถูกจัดทำขึ้นเมื่อไตมาสที่สามขอปีที่ผ่านมาโดยติดตามแนวโน้มของการใช้จ่ายออนไลน์ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตใน 6 ประเทศหลักในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอันได้แก่ จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไต้หวัน, และประเทศไทย