ธนาคารเกียรตินาคิน ไตรมาสแรกสินเชื่อขยายตัว 7%

“ธนาคารเกียรตินาคิน” ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาสแรกของปี สินเชื่อรวมขยายตัวต่อเนื่องที่ 7% กำไรสุทธิอยู่ที่ 605 ล้านบาท และลดระดับเอ็นพีแอลให้มาอยู่ที่ 3.95% โดยสินเชื่อหลักคือเช่าซื้อรถยนต์ยังคงเติบโตได้ดี จากแรงสนับสนุนของงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เมื่อปลายปีที่ผ่านมาส่งผลให้ 3 เดือนแรก มียอดสินเชื่ออนุมัติใหม่ราว 13,000 ล้านบาท ล่าสุด ออกแคมเปญใหม่ KK Max 7 Plus ซึ่งเป็นเงินฝากประจำ 11 เดือน ดอกเบี้ย 7% ต่อปี คู่กับการซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. นี้

นายชวลิต จินดาวณิค ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (Mr. Chavalit Chindavanig, Head of Finance and Budgeting of Kiatnakin Bank Plc) เปิดเผยว่า “ในไตรมาสแรกของปี 2554 นี้ สินเชื่อรวมของธนาคารขยายตัวเพิ่มขึ้น 7% จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 16-19% โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ยังคงเติบโตได้ดี มียอดสินเชื่ออนุมัติใหม่ใน 3 เดือนแรก ราว 13,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากแรงสนับสนุนของงานมอเตอร์เอ็กซ์โปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ธนาคารและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิรวม 605 ล้านบาท ลดลง 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นกว่า 40% จากจำนวนพนักงานและสาขาที่เพิ่มขึ้น ซึ่งธนาคารได้เปิดสาขาใหม่จำนวน 16 สาขาในปีที่ผ่านมา รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขาย ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต อย่างไรก็ตาม ธนาคารประสบความสำเร็จในส่วนของการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ โดยระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ลดลงมาอยู่ที่ 3.95% ของสินเชื่อรวมตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จาก 4.43% ณ สิ้นปี 2553 ด้วยสินทรัพย์รวมกว่า 154,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 9% จากสิ้นปี”

อนึ่ง ในปี 2554 นี้ ธนาคารยังคงมีนโยบายที่จะขยายสินเชื่อ ควบคู่ไปกับการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ และธุรกิจหลักคือสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ไตรมาสแรกเติบโต 8.5% และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 15.36% ล่าสุด จากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย TRIS Rating ได้ยืนยันอันดับเครดิตที่ A- และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารเป็น Positive หรือบวก จากเดิมคือ Stable หรือคงที่ ซึ่งสะท้อนถึงผลประกอบการทางธุรกิจและการเงินของธนาคารที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล ประจำปี 2553 ในอัตราหุ้นละ 2.40 บาท (คิดเป็นอัตราผลตอบแทนของเงินปันผล (Dividend Yield) ที่ 50.78%) ซึ่งธนาคารได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2553 ไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท และคงเหลือจ่ายปันผลงวด 1 กรกฎาคม – 30 ธันวาคม 2553 จำนวน 1.40 บาท/หุ้น

สำหรับแผนงานด้านเงินฝากและการตลาดนั้น ณ ไตรมาส 1/2554 ธนาคารมีหนี้สินรวม 131,434 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% จากสิ้นปี 2553 โดยมีเงินฝากจำนวน 72,226 ล้านบาท และตราสารหนี้และเงินกู้ยืมจำนวน 50,736 ล้านบาท โดยสัดส่วนของการระดมเงินด้วยตั๋วแลกเงิน (บีอี) เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีราว 62% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ฝากเงินเริ่มกระจายเงินฝากมากขึ้น

ทางด้านดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารจะบริหารตามภาวะตลาด โดยได้ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ล่าสุดวันนี้ (วันที่ 26 เมษายน 2554) ซึ่งเงินฝากประจำ 6 เดือน และ 18 เดือนของธนาคาร จะให้ผลตอบแทน สูงสุดในระดับที่ 2.85% และ 3.60% ตามลำดับ ส่วนตั๋วแลกเงินระยะเวลาการฝากเดียวกัน ระยะเวลา 6 เดือน ดอกเบี้ย 3.10% ส่วน 18 เดือน ดอกเบี้ย 3.85%

ในส่วนของแคมเปญใหม่ที่น่าสนใจ ณ ขณะนี้ คือ KK Max 7 Plus ซึ่งเป็นเงินฝากประจำ 11 เดือน ดอกเบี้ย 7% ต่อปี คู่กับการซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ KK Smart 7 Plus ที่ธนาคารร่วมกับบริษัทอเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษเฉพาะที่ธนาคารเกียรตินาคินเท่านั้น โดยรับฝากเงินจำนวนเท่ากับทุนประกันภัย เริ่มต้นที่ 1 แสนบาท ชำระเบี้ยประกัน 7 ปี รับความคุ้มครองชีวิต 210% ของทุนประกันภัย นับตั้งแต่ปีแรก ไปตลอด 21 ปี ทั้งนี้ เบี้ยประกันสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท สิ้นสุดแคมเปญวันที่ 30 มิถุนายน 2554 เท่านั้น