เคทีซีแจงปีที่ผ่านมาธุรกิจสินเชื่อบุคคลได้รับผลตอบรับดี ฐานสมาชิกกว่า 5.4 แสนบัญชี พอร์ตลูกหนี้คุณภาพดี เผยนโยบายปีนี้รุกหนักตลาดสินเชื่อบุคคล ด้วยข้อเสนอที่ดีที่สุด เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินเชื่อได้สะดวก รวดเร็วและเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้สมาชิกที่มีอยู่ กับ 3 แคมเปญเพิ่มสมาชิกใหม่ เจาะกลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีบัญชีเงินเดือนกับธนาคารกรุงไทยและกลุ่มผู้สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยดอกเบี้ยอัตราพิเศษ และล่าสุดกับบริการใหม่รับวงเงินคืนทันที เมื่อชำระค่างวดที่เคาน์เตอร์ เซอร์วิส ในเซเว่น-อีเลฟเว่น พร้อมจัด 3 โปรแกรมเด็ดกระตุ้นการใช้วงเงินเอาใจสมาชิกปัจจุบัน ได้แก่ ชิงโชคเคลียร์หนี้รวมมูลค่าทั้งสิ้น 1.3 ล้านบาท รับเงินคืนเข้าบัญชีสูงสุด 50% และลดดอกเบี้ยถึง 5% ทุกวันเสาร์
นางสาวสุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจสินเชื่อบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาพรวมการทำธุรกิจสินเชื่อบุคคลของเคทีซีที่ผ่านมาถือว่าน่าพอใจ โดยใช้แนวทางการคัดกรองสมาชิกคุณภาพเพื่อสร้างพอร์ตลูกหนี้ที่ดี และเป็นเสมือนเพื่อนคู่คิดที่คอยให้คำปรึกษาแนะนำ และช่วยแบ่งเบาภาระการใช้จ่ายให้กับสมาชิก รวมทั้งสนับสนุนให้สมาชิกบริหารการเงินและใช้จ่ายอย่างมีเหตุผลและมีวินัย ทำให้จำนวนลูกค้าสินเชื่อบุคคลขยายตัวต่อเนื่องและเป็นลูกหนี้ที่มีคุณภาพ โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมามีสมาชิกสินเชื่อบุคคลในพอร์ตถึงกว่า 540,000 บัญชี และมียอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลสุทธิอยู่ที่ 10,900 ล้านบาท”
“ในปีนี้เคทีซีมีแผนรุกตลาดสินเชื่อบุคคลโดยร่วมกับคู่ค้าทางธุรกิจหลายฝ่าย ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์พฤติกรรมความต้องการที่แท้จริงของสมาชิก เพื่อคัดสรรข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับการจัดแคมเปญการตลาดในครั้งนี้ โดยเน้น 2 เรื่องหลักคือ การให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินเชื่อได้สะดวกรวดเร็ว และเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้สมาชิกที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังมีการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ ศูนย์บริการลูกค้า “เคทีซี ทัช” ช่องทางออนไลน์และโซเชี่ยลมีเดียอีกด้วย”
“สำหรับ 3 แคมเปญการจัดหาสมาชิกใหม่สินเชื่อบุคคล ประกอบด้วย 1) รับส่วนลดดอกเบี้ย 2% ต่อปี เมื่อสมัครสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี แคช รีโวล์ฟ” ประเภทหักค่างวดผ่านบัญชีเงินเดือนธนาคารกรุงไทย (ที่เงินเดือนเข้าบัญชี 3 วันทำการก่อนสิ้นเดือน) เน้นกลุ่มเป้าหมาย
ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ประจำ 10,000 บาทขึ้นไป 2) รับดอกเบี้ยพิเศษเพียง 6.5% ต่อปีนานถึง 4 รอบบัญชี (วันนี้-14 มิ.ย 2554) เมื่อสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซท์ต่างๆ ที่มีสัญลักษณ์ “i WANT KTC” หรือที่ www.ktc.co.th และสามารถทราบผลอนุมัติด่วนในวันรุ่งขึ้น โดยสามารถเลือกลงทะเบียนเพียงกรอกชื่อและเบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับภายใน 2 ชั่วโมง (เฉพาะการลงทะเบียนในวันและเวลาทำการ) หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ออนไลน์ เพื่อสมัครออนไลน์ด้วยตนเอง หรือเลือกดาวน์โหลดใบสมัครเพื่อกรอกและยื่นด้วยตนเองที่ศูนย์บริการลูกค้า “เคทีซี ทัช” และล่าสุดกับบริการใหม่ 3) รับวงเงินคืนทันที เมื่อชำระค่างวดที่เคาน์เตอร์ เซอร์วิสในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขา เพื่อให้สมาชิกสามารถเบิกถอนเงินสดได้ทันทีหลังจากชำระค่างวด เพิ่มความสะดวกและความยืดหยุ่นทางการเงินให้กับลูกค้าที่วงเงินเต็มหรือประสบภาวะการเงินฉุกเฉิน”
“นอกจากนี้เคทีซียังได้จัด 3 โปรแกรมเด็ดกระตุ้นการใช้วงเงิน เพื่อเอาใจสมาชิกสินเชื่อบุคคลปัจจุบัน ได้แก่ 1) ชิงโชคเคลียร์หนี้รวมมูลค่า 1.3 ล้านบาท เพียงสมาชิกมียอดเงินคงค้าง ณ วันสิ้นรอบบัญชีระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2554 เพิ่มขึ้นจากยอดเงินคงค้าง ณ วันสิ้นรอบบัญชีเดือนมีนาคม 2554 ทุกๆ 1,000 บาท ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละรอบบัญชี รับ 1 สิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับการเคลียร์หนี้ (สูงสุดไม่เกิน 10 สิทธิ์ต่อบัตร) โดยการส่ง SMS ลงทะเบียนครั้งเดียว พิมพ์ RL ตามด้วยหมายเลขบัญชี 16 หลัก มาที่เบอร์ 4515000 ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิ.ย. 2554 ประกาศผลวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 ทางเว็บไซท์ www.ktc.co.th”
“2) รับเงินคืนเข้าบัญชี 50% สำหรับการเบิกถอนเงินสดที่ “เคทีซี ทัช” เพียงสมาชิกมียอดเบิกถอนเงินสดขั้นต่ำต่อวัน 20,000 บาท ที่ “เคทีซี ทัช” ทุกแห่ง ยกเว้นวันเสาร์ ตั้งแต่วันนี้-31 กรกฎาคม 2554 และมียอดเงินคงค้างอย่างน้อย 12,000 บาท ณ สิ้นรอบบัญชีเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2554 ติดต่อกัน 3 รอบบัญชี รับเลยเงินคืนเข้าบัญชีสูงสุด 50% จากยอดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินที่แจ้ง ณ วันสรุปรอบบัญชีเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2554 (สูงสุดไม่เกิน 400 บาทต่อราย) และ 3) ลดดอกเบี้ยฯ 5% ทุกวันเสาร์ สมาชิกจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยฯ 5% จากอัตราปกติ 1 รอบบัญชีจากยอดเบิกถอนเงินสดทุกวันเสาร์ที่ “เคทีซี ทัช” ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้-31 กรกฎาคม 2554”
“เราหวังว่าแผนการตลาดที่ครอบคลุม ทั้งการจัดหาสมาชิกใหม่และการกระตุ้นใช้วงเงินสำหรับสมาชิกปัจจุบัน จะสามารถตอบสนองความต้องการของสมาชิกในแต่ละกลุ่มได้อย่างตรงใจที่สุด โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น และจะช่วยขยายพอร์ตสินเชื่อให้เติบโตขึ้น” นางสาวสุดาพรกล่าวปิดท้าย
