ทายาทรุ่น 3 กลุ่มสมบูรณ์ ทุ่มงบ 40 ล้านบาท เปิดตัวร้าน ชุน โนะ ไม ชูจุดขาย ครัวโชว์ถ่ายทอดอาหารสูตรต้นแบบจากญี่ปุ่น เน้นเมนูที่ออกแบบโดยตรงตามฤดูกาล และเทศกาลเฉลิมฉลองจากญี่ปุ่น เพื่อให้ลูกค้าพบความแปลกใหม่ และเพลิดเพลินกับการสาธิตการปรุงอาหารอย่างทั่วถึง ผ่านจอมอนิเตอร์รอบร้าน โชว์อาหารจานเด่นประจำร้านด้วยรูปแบบอาหารย่างควันถ่าน (Sumibiyaki) เจ้าแรกในประเทศไทย ที่นำเข้าถ่านจากญี่ปุ่น เพื่อเกิดกลิ่นและรสชาดแบบต้นตำรับ ตามแนวคิดการเสนอ ประสบการณ์อาหารให้ครบทุกสัมผัส ล่าสุดพร้อมให้บริการในแบบอาหารชุดกลางวัน และบุฟเฟ่ต์ตามสั่งในมื้อเย็นแล้ว
นายวัชรธร กิตะพาณิชย์ กรรมการบริหาร บริษัท สมบูรณ์ฟู้ดแอนด์เบเวอเรจ จำกัด เปิดเผยว่า การเติบโตของธุรกิจอาหารญี่ปุ่นเป็นความท้าทายของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และการนำเสนอร้านอาหารที่มีแนวคิดแตกต่าง แต่เน้นต้นตำรับ และมาตรฐานอาหาร ถือเป็นการตอบโจทย์ ผู้บริโภค โดยเน้นจากประสบการณ์ที่ทำงานร่วมกับญี่ปุ่นมานาน อาหารญี่ปุ่นมีภาพลักษณ์ของอาหารคุณภาพ การรักษามาตรฐานของอาหารคุณภาพ ด้วยการใส่จิตวิญญาณในการปรุง คือสิ่งที่เราต้องการสร้างความแตกต่าง จึงตกลงซื้อแนวคิดและร่วมสร้างต้นแบบร้านอาหารญี่ปุ่นโดยมี บริษัท คะโซคูเตะ ผู้ชำนาญการในการถ่ายทอดแนวคิดเป็นแบ็คอัพ และตรวจสอบคุณภาพ ตามมาตรฐานอาหารญี่ปุ่น ซึ่งในเบื้องต้นที่ได้ทดลองเปิดร้านแล้วได้รับคำชมจากลูกค้า ทั้งรสชาด และบรรยากาศ ซึ่งยืนยันถึงการสร้างประสบการณ์ร้านอาหารในแนวคิดใหม่อย่างแท้จริง
สำหรับการจัดกิจกรรม Grand Opening ได้รับเกียรติจากแขกรับเชิญมากมาย อาทิ มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล, ดร.สุวิทย์ และคุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี, นายศักดิ์ทิพย์ และมรว.เบญจาภา ไกรฤกษ์ รวมถึงผู้บริหารจากญี่ปุ่น มร.มิซซูริโอ อินนูอิ ประธานของบริษัท คะโซคูเตะ เป็นต้น รวมถึง ดี.เจ.วุ้นเส้น วิริฒพา ภักดีประสงค์ ให้เกียรติเป็นแขกรับเชิญ และร่วมปรุงอาหารในรูปแบบของ ชุน โนะ ไม ในครัวโชว์ด้วย
การนำเสนออาหารตามเทศกาลที่ได้เตรียมสำหรับลูกค้าในช่วงเปิดร้านใหม่ จะรวมถึงการแนะนำงานเทศกาลไคเซ็นดงบูริ (ข้าวหน้าปลาดิบสไตล์โบราณ) สำหรับมื้อกลางวันตลอดทั้งเดือนตุลาคมนี้ และการเปิดตัวสูตรใหม่ ฮอกไกโด นาเบะ(อาหารต้ม) สำหรับเทศกาลอาหารช่วงปลายปีอีกด้วย
สมบูรณ์ฟู้ดแอนด์เบเวอเรจ มีเป้าสร้างยอดขายเบื้องต้น 750 ล้านบาท ภายในปี 2559 เพื่อขยาย ชุน โนะ ไม ถึง 10 สาขา โดยเริ่มสาขาแรกที่ทองหล่อ และคาดว่าจะขยายไปยังคอมมูนิตี้มอลล์หรือห้างสรรพสินค้า รวมถึงหัวเมืองอื่นๆ เช่น ระยอง,เชียงใหม่ เป็นต้น
