บลจ. ทิสโก้แนะซื้อ LTF-RMF ช่วงโค้งสุดท้ายของปี ชวนลงทุนใน “หุ้นจีน-ทองคำ”

8 ธ.ค. 54 – บลจ. ทิสโก้ แนะลงทุนใน LTF-RMF ช่วงโค้งสุดท้ายของปี ชูผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกการลงทุนของลูกค้า ชูกองใหม่ “กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ” เอาใจผู้ที่ชอบลงทุนในทองคำ ช่วยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Theeranat Rujimethapass, Managing Director of TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีทาง บลจ.ทิสโก้ ได้จัดเตรียมผลิตภัณฑ์กองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ไว้อย่างหลากหลาย เพื่อรองรับโจทย์การลงทุนของลูกค้า พร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจหลายรายการ

โดย TISCO Wealth ซึ่งเป็นบริการที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนครบวงจรจากกลุ่มทิสโก้ แนะนำลงทุนในกองทุน LTF และกองทุน RMF ที่ลงทุนในหุ้นแถบเอเชียโดยเฉพาะจีน ที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และเป็นแรงหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยปัจจัยด้านความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อของจีนได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นจีนยังถือว่ามีความน่าสนใจมากที่สุด โดย P/E ในปีหน้าจะอยู่ที่ 8 เท่า อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือกองทุน RMF ที่ลงทุนในทองคำ ที่ถึงแม้ว่าในระยะสั้นการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่หากมองระยะยาวราคาทองคำน่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปได้อีก เนื่องจากยังมีความต้องการในตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนโยบายของธนาคารกลางในหลายประเทศที่หันมาถือครองทองคำแทนการถือครองเงินสกุล ดังนั้นผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นจีนและทองคำสามารถเลือกลงทุนในกองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นจีน และทองคำ เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทน และที่สำคัญผู้ลงทุนยังสามารถใช้สิทธิ์ในการหักลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

ปัจจุบันบลจ. ทิสโก้ มีกองทุน RMF ที่ลงทุนในหุ้นจีน และทองคำให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนตามความต้องการ โดยล่าสุดได้เปิดตัว “กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ” (TISCO Gold RMF) ที่มีนโยบายลงทุนในทองคำแท่งเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ โดยลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยหลังจากที่เสนอขายครั้งแรก (IPO) ไปในช่วงปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ปัจจุบันได้เปิดให้ซื้อหน่วยลงทุนได้อีกครั้งหลัง IPO แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท และสามารถซื้อขายหรือสับเปลี่ยนได้ทุกวันทำการ กองทุนดังกล่าว จึงถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการลงทุนในทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงทางมูลค่าสูง ควบคู่ไปกับการรับผลประโยชน์ทางภาษี
โดยในช่วงปลายปีนี้ บลจ. ทิสโก้ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเอาใจผู้ลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยเมื่อลงทุนทุกๆ 12,000 บาทในกลุ่มกองทุนหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อินเดีย เพื่อการเลี้ยงชีพ และ กองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน เพื่อการเลี้ยงชีพ, ลงทุนทุกๆ 30,000 บาทในกลุ่มกองทุนหุ้น ผสม และทองคำ ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาว, กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นระยะยาวปันผล, กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ, กองทุนเปิด ทิสโก้ พลทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ และ กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ และลงทุนทุกๆ 50,000 บาทในกลุ่มกองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้มั่นคงเพื่อการเลี้ยงชีพ และ กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ผู้ลงทุนจะได้รับบัตรกำนัลเซ็นทรัลฟรีทันที มูลค่า 100 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนสูงสุด ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ม.ค. 55 นี้

นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทยังเพิ่มช่องทางการชำระค่าหน่วยลงทุน โดยผู้ลงทุนสามารถชำระค่าหน่วยลงทุนผ่านบัตรเครดิตของธนาคารซิตี้แบงก์ และธนาคารกสิกรไทย ณ สาขาของธนาคารทิสโก้ 17 แห่งในกรุงเทพฯ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าอีกด้วย

ผู้ที่สนใจกองทุน LTF และ RMF สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ. ทิสโก้และธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน