จีเอฟเอ เสริมแกร่งธุรกิจแฟรนไชส์ สบช่องรุกธุรกิจร้านอาหารเต็มสูบ เปิดให้บริการ “คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์” สาขาแรกที่ “เมกาบางนา” พร้อมเสิร์ฟเมนูความอร่อยทั้งอาหารไทยและเทศกว่า 100 รายการ ชูจุดเด่น “ฟิวชั่นฟู้ด” โดนใจคนรุ่นใหม่มีสไตล์คัดข้าวพันธุ์ดีจาก “บ้านนานา” จัดสรรเมนู “ซีเอสอาร์” คืนกำไรสู่เด็กด้อยโอกาสในระยะยาว ตั้งเป้าขยาย 12 สาขาภายใน 3 ปี ส่วนภาพรวมของ จีเอฟเอ ปีนี้ มั่นใจเติบโตกว่า 25%
มร.โจเซฟ เชอร์เลี่ยน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น [ไทยแลนด์] จำกัด เปิดเผยว่า “จีเอฟเอ” ในฐานะผู้นำในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเภทธุรกิจแฟรนไชส์ โดยประสบความสำเร็จทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ มายาวนานกว่า 13 ปี ด้วยนโยบายที่มุ่งมั่นพัฒนามาตรฐานการบริการให้ลูกค้าประทับใจยิ่งๆ ขึ้นไป ซึ่งเป็นที่มาของแนวคิดในการเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ใหม่ ในรูปของร้านอาหาร คือ “คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์“ เพื่อตอบสนองเทรนด์ของตลาด และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่มีพฤติกรรมรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น โดย “คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์” ได้เปิดให้บริการแล้วที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้าเมกาบางนา เป็นสาขาแรก ให้บริการอาหารเต็มรูปแบบ มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มบริการให้เลือกมากกว่า 100 รายการ ทั้งนี้ จีเอฟเอ ตั้งเป้าที่จะขยายสาขา “คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์” จำนวน 12 สาขา ภายในระยะเวลา 3 ปี
คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์ เป็นโมเดลใหม่ของธุรกิจแฟรนไชส์ ในเครือจีเอฟเอ โดยให้บริการในระบบร้านอาหารเต็มรูปแบบ ภายใต้คอนเซ็ปท์ “คอนเทมเปอรารี่ แคสชวล ไดนิ่ง” [Contemporary Casual Dining] ตกแต่งด้วยดีไซน์ทันสมัย ให้บรรยากาศความเป็นกันเอง ในพื้นที่ขนาดตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไป ด้วยงบลงทุน 5 – 7 ล้านบาท โดยมีเมนูอาหารหลากหลายมากกว่า 100 รายการ ประกอบด้วย อาหารไทย 60% อาหารนานาชาติ 20% และอาหารฟิวชั่นฟู้ด อีก 20% ทั้งนี้ ภายในร้าน คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์ ยังมีเคาน์เตอร์ “คอฟฟี่ เวิลด์” เพื่อให้บริการเครื่องดื่มต่างๆ ตามแบบฉบับของ “คอฟฟี่ เวิลด์” ที่ลูกค้าประทับใจมาเป็นระยะเวลายาวนาน ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว
นางสาวศิรินทร แซ่แต้ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น [ไทยแลนด์] จำกัด กล่าวว่า “คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์” ได้เติมเต็มประสบการณ์และเพิ่มเติมรสชาติที่ดีในการรับประทานอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น โดยได้จัดสรรเมนู “ซีเอสอาร์” อาทิ แกงเผ็ดเป็ดย่าง , กุ้งเทมปุระและส้มตำ และ หมูสันในราดซอสกะเพราสูตรพิเศษ เป็นต้น ซึ่งจะเสิร์ฟคู่กับข้าวหอมมะลิสายพันธุ์ “คอฟฟี่ เวิลด์” ที่ปลูกโดยเด็กด้อยโอกาส “บ้านนานา” ในจังหวัดเชียงรายซึ่งพนักงานจิตอาสาจีเอฟเอได้ลงแรงเก็บเกี่ยวข้าวร่วมกับเด็กๆ “บ้านนานา” เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และได้นำข้าวที่เก็บเกี่ยวมาให้บริการลูกค้าภายในร้าน “คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์” เพื่อเป็นการสนับสนุน “บ้านนานา” ให้มีรายได้นำไปหล่อเลี้ยงเด็กด้อยโอกาส นอกจากนี้ ยังคืนกำไร โดยปันรายได้จากการให้บริการเมนูดังกล่าวฯ เพื่อนำไปสมทบทุนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กๆ ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ ลูกค้า นอกจากจะได้รับประทานอาหารรสเลิศแล้ว ยังได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสไปพร้อมๆ กัน
หัวใจสำคัญของกลยุทธ์ในการรุกตลาดร้านอาหารตะวันตก ที่มีอัตราการเติบโตทางธุรจิกกว่า 30 % ต่อปี ของ “คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์” คือ การเลือกทำเลที่เหมาะสม และการคัดสรรเมนูอาหารที่หลากหลาย เพิ่มความแปลกใหม่คู่ความอร่อย โดยเมนูอาหารของ “คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์” แต่ละรายการ ได้ผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันจากเชฟผู้มีประสบการณ์ ทำให้มีทั้ง อาหารไทย, อาหารนานาชาติ และ ฟิวชั่นฟู้ด ที่รสชาติอร่อยและมีสไตล์แปลกใหม่ ซึ่งก่อนหน้าได้เปิด “คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์” สาขาต้นแบบขึ้นที่ ชั้น 1 โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โดยประสบความสำเร็จดีเกินความคาดหมาย ทั้งนี้ “คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์“ จะใช้งบส่งเสริมการตลาดประมาณ 5% ของรายได้รวม และจะเริ่มเปิดรับแฟรนไชส์ซี่ ประมาณต้นปี 2556 และตั้งเป้าขยายให้ได้จำนวน 12 สาขา ภายในระยะเวลา 3 ปี
ในปีนี้ จีเอฟเอ ตั้งเป้าที่จะเปิดร้านกาแฟ “คอฟฟี่ เวิลด์” ให้ได้ทั้งสิ้น 25 สาขา ซึ่งมากกว่าปีก่อนๆ ที่ผ่านมา เนื่องจากมีช็อปปิ้งมอลล์ เปิดเพิ่มมากขึ้น โดยในปัจจุบัน “คอฟฟี่ เวิลด์” มีสาขารวมประมาณ 79 สาขา แบ่งเป็น สาขาที่ลงทุนเอง 65% และสาขาแฟรนไชส์ 35% ทั้งนี้ ในปี 2555 นี้ จะเพิ่มสัดส่วนแฟรนไชส์เป็น 40% โดย จีเอฟเอ มั่นใจว่า ยังมีโอกาสที่จะขยายแฟรนไชส์ ซึ่งตลาดกาแฟสดในไทยที่มีอัตราเติบโตมากกว่า 10% ต่อปี โดยมีมูลค่าตลาดในปัจจุบันกว่า 6,400 ล้านบาท และผลกระทบจากเศรษฐกิจและปัญหาน้ำท่วมในปีที่ผ่านมาไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนมากนัก เพราะนักลงทุนมีการปรับตัวได้รวดเร็วกว่าในอดีต นอกจากนี้ จีเอฟเอ ยังมีแผนที่จะขยายแฟรนไชส์ “ครีมแอนด์ฟัดจ์” ร้านไอศกรีมระดับซูเปอร์ พรีเมี่ยม ที่มีอยู่จำนวน 12 สาขา ให้เพิ่มอีก 5 สาขา เพื่อปรับสัดส่วนระหว่างแฟรนไชส์กับสาขาที่ลงทุนเองให้บาลานซ์ที่ 40 : 60 ในส่วนของแบรนด์ “นิวยอร์ก ฟิฟท์ อเวนิว เดลี่” ร้านอาหารแนวตะวันตก มีอยู่ 6 สาขา ปีนี้ มีแผนที่ขยายไปยังศูนย์การค้าในคอนเซ็ปต์ใหม่อีกด้วย สำหรับภาพรวมปีนี้ แม้ว่าธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มจะมีการแข่งขันที่รุนแรง แต่ไลฟ์สไตล์และรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ มีพฤติกรรมรับประทานอาหารนอกบ้านมาขึ้น จึงทำให้ จีเอฟเอ มั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันในตลาดได้เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าเติบโต 25-30% มร.โจเซฟ กล่าวในที่สุด