“Zalora” บุกไทย สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของการช็อปปิ้ง ตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งแฟชั่นรีเทลในปี 2013

รับกระแสออนไลน์ที่โตต่อเนื่อง ล่าสุด ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซระดับโลก ร็อกเกต อินเตอร์เน็ต ประกาศรุกตลาดไลฟสไตล์และแฟชั่นรีเทลในประเทศไทยเต็มรูปแบบเปิดตัว บริษัท ซาโลร่า (ประเทศไทย) จำกัด และเว็บไซด์ช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังระดับโลก www.zalora.co.th ในเมืองไทย ชูจุดเด่นระดมสุดยอดบริการและสินค้ากว่า 40,000 ไอเท็มเอาใจนักช้อปชาวไทยโดยเฉพาะ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ในประเทศไทยโตแบบก้าวกระโดด ด้วยตัวเลขคาดการณ์มูลค่าตลาดรวมของช้อปปิ้งออนไลน์ในประเทศไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 40,000  ล้านบาทในปีนี้ ตั้งเป้าภารกิจสำคัญขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งไลฟสไตล์และแฟชั่นรีเทลในประเทศไทยในปี 2556 

มร.เจอร์รี่ อีเดล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัท ซาโลร่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเข้ามาบุกตลาดในเอเซียและประเทศไทยของร็อกเกต อินเตอร์เน็ตในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญที่ไม่ใช่เพียงการเข้ามาบุกธุรกิจอีคอมเมิร์ชในประเทศไทย แต่เรามีเป้าหมายสำคัญ คือ การเปลี่ยนไลฟสไตล์การซื้อสินค้าของคนไทย ให้หันมาซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ด้วยความมั่นใจผ่านทาง www.zalora.co.th ด้วยสินค้าและบริการระดับโลกจาก Zalora 

ZALORA Thailand หรือ บริษัท ซาโลร่า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทภายใต้ ร็อกเกต อินเตอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นยักษ์ใหญ่ของธุรกิจออนไลน์ในยุโรปและเป็นผู้ก่อตั้งเว็ปไซด์ช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังอย่าง Zalando ในยุโรป, Dafiti ในบราซิล, และ Lamoda ในรัสเซีย ร็อกเกต อินเตอร์เน็ต คือบริษัท E-Commerce ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบริษัทหนึ่งของโลก และถือเป็นกำลังสำคัญของการขับเคลื่อนวงการ E-Commerce ในยุโรปให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 

นับย้อนไปเมื่อปี 2008 ร็อกเกต อินเตอร์เน็ต ได้เปิดตัวเว็บไซด์ Zalando ที่ถือเป็นต้นแบบของ Zalora ครั้งแรกที่ประเทศเยอรมัน แล้วขยายไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วทวีปยุโรป โดยเวลาเพียง 4 ปีสามารถขึ้นแท่นเว็บแฟชั่นช้อปปิ้งออนไลน์สุดฮ็อตของเหล่าแฟชั่นนิสต้าและขาช้อปทั่วโลก จนถึงวันนี้ตลาดใหญ่ที่สุดของ Zalando ในประเทศเยอรมันมีการสั่งซื้อสูงกว่าแสนออร์เดอร์ต่อวัน  ส่งผลตลาดออนไลน์ของสินค้าไลฟสไตล์และแฟชั่นมีขนาดใหญ่มากคิดเป็น 40 เปอร์เซ็นของมูลค่าตลาดรวมของสินค้าแฟชั่นในยุโรป

“ประเทศไทยเป็นเป้าหมายสำคัญของการรุกตลาดเอเซีย ด้วยปัจจัยของจำนวนประชากร และพัฒนาการของวงการแฟชั่นไทยที่ล้ำหน้าประเทศอื่นๆ รวมไปถึงศักยภาพในการบริโภคแฟชั่นของคนไทยที่สูงกว่าชาติอื่นในแถบเอเซีย อีกทั้งในประเทศไทยและเอเซียยังไม่มีผู้นำตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ที่ชัดเจน นี่จึงเป็นปัจจัยของการรุกตลาดในเอเซียในครั้งนี้ โดยตั้งแต่ต้นปีได้มีการเปิดตัวเว็บไซด์ Zalora ในประเทศต่างๆ  อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น” มร. เจอร์รี่ กล่าวเสริม

แม้จะเปิดให้บริการในประเทศไทยได้เพียง 6 เดือน แต่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเกินคาด ด้วยยอดสมาชิกในเว็บไซด์กว่า 60,000 คน พร้อมจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซด์ที่มากกว่า 70,000 คนต่อวัน โดยปัจจุบันมีอัตราการเพิ่มขึ้นของยอดคำสั่งซื้อสูงมากกว่า  20 เปอร์เซ็นต์ต่อสัปดาห์ สำหรับเป้าหมายในปีแรกของการทำธุรกิจในประเทศไทย Zalora ได้ตั้งเป้าสมาชิกภายในสิ้นปี 55 ไว้ไม่น้อยกว่า 250,000 คน และตั้งเป้ายอดสั่งซื้อสินค้าขึ้นสู่หลักพันออร์เดอร์ต่อวันภายในสิ้นปี 2555 

โดยล่าสุดได้มีการอัดฉีดงบเพื่อการลงทุนเพิ่มในประเทศไทยเพื่อที่จะสามารถผลักดันธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยล่าสุดได้ลงทุนเปิดพื้นที่โกดังสินค้าขนาดใหญ่กว่า 2,500 ตร.ม. ทั้งนี้เพื่อการสร้างมาตรฐานของการจัดส่งและการจัดเก็บสินค้าให้ได้คุณภาพต่อไป พร้อมด้วยในเร็วๆนี้ Zalora มีแผนการที่จะเปิดตัวรายการโทรทัศน์และทีวีออนไลน์ โดยเน้นคอนเซ็ปต์การให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นและไลฟสไตล์ใหม่ๆ ให้กับคนไทยเพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่ม Mass มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเตรียมเปิดตัวกลุ่มสินค้าไลฟสไตล์ในเร็วๆ นี้อีกด้วย

ทั้งนี้ จุดเด่นของ Zalora ที่ทำให้เป็นหนึ่งในใจนักช้อปตัวจริงทั่วโลก คือ ความหลากหลายของสินค้าที่ครอบคลุมสินค้าไลฟสไตล์และแฟชั่นทุกชนิดสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยมีสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้า เครื่องประดับ และแอ็กเซสเซอรี่ต่างๆ รวมถึงเสื้อผ้าชุดกีฬา และผลิตภัณฑ์ความงาม อาทิ เครื่องสำอาง น้ำหอม เป็นต้น อีกทั้งยังมีความหลากหลายของแบรนด์ตั้งแต่ระดับไฮเอ็นอินเตอร์แบรนด์และแบรนด์ดังในประเทศนั้นๆ ซึ่งสำหรับในประเทศไทยในขณะนี้มีแบรนด์ที่จัดจำหน่ายในซาโลร่ามากกว่า 500 แบรนด์ อาทิ แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นชั้นนำ Sretsis, Kloset, Across the Universe, AMAT, CRAZY STEP, Glitz & Glam, Gravis, Nike, Ksubi, Levi’s, Mosstories, Stylenanda, PainKiller, Jeffrey Campbell เป็นต้น รวมถึงแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามชื่อดัง อาทิ  Anna Sui, Nail Rock, Face Lace และ e.l.f. เป็นต้น รวมแล้วมีสินค้าให้เลือกช้อปมากกว่า 40,000 รายการ ในราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 60 – 9,000 บาท และโดยเฉลี่ยสินค้าที่จำหน่ายในเว็บไซด์ Zalora จะมีราคาต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไปประมาณ 10 – 20 เปอร์เซ็นต์ ด้วยปัจจัยของโครงสร้างการทำราคาที่แตกต่างจากสินค้าที่จำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป

และนอกจากนี้เพื่อเป็นการดึงดูดใจให้เหล่านักช้อปได้ทดลองใช้บริการซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซด์ Zalora.co.th ได้จัดทำแคมเปญการตลาดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแจกคูปองส่วนลดสำหรับผู้สมัครสมาชิกทางเว็บไซด์ หรือการจัดกิจกรรม Flash Sale ซึ่งจะเป็นการให้ส่วนลดพิเศษในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อกระตุ้นความสนใจของเหล่านักช้อป รวมถึงการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นพิเศษโดยดีไซเนอร์ชื่อดังเพื่อจำหน่ายเฉพาะทางเว็บไซด์ Zalora.co.th เท่านั้น 

“เราพบว่าสิ่งที่เป็นอุปสรรคในความรู้สึกของคนไทยในใช้บริการช้อปปิ้งออนไลน์ คือ ความยุ่งยากในการใช้เทคโนโลยี รวมถึงพฤติกรรมการซื้อสินค้าเมื่อได้ลองหรือสัมผัสสินค้าเท่านั้น และที่สำคัญที่สุดคือความกังวลในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลบัตรเครดิตที่จะต้องกรอกเมื่อชำระเงิน ซึ่งความรู้สึกทั้งหมดนี้จะหมดไปเมื่อทุกคนได้มาช้อปปิ้งผ่านทาง Zalora  เพราะเราออกแบบเว็บไซด์ที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อนยุ่งยากด้วยเมนูภาษาไทยทั้งหมด รวมไปถึงการแสดงรูปและขนาดของสินค้าที่ละเอียดสามารถเลือกดูภาพสินค้าได้ทุกมุมมองและหากสินค้าไม่เป็นที่พอใจก็สามารถคืนได้พร้อมรับเงินคืนเต็มจำนวนใน 30 วัน และที่โดดเด่นที่สุดคือการชำระเงินที่เราได้นำบริการพิเศษ Cash on Delivery หรือเก็บเงินปลายทางมาใช้ในประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทุกคน นอกเหนือจากการชำระเงินโดยระบบทั่วไป อาทิ บัตรเครดิต อินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง เป็นต้น และรับประกันการบริการส่งของที่รวดเร็ว ภายใน 1 – 3 วันทั่วประเทศ โดยไม่มีราคาขั้นต่ำและไม่เก็บค่าบริการส่งสินค้าอีกด้วย พร้อมด้วยบริการ Customer Service ให้ลูกค้าทุกคนสามารถสอบถามรายละเอียดการใช้บริการ และการสอบถามสถานะของการจัดส่งสินค้าได้ผ่านทาง [email protected] หรือ Call Center เบอร์ 02-204-7522” มร.เจอร์รี่ กล่าวในตอนท้าย