การที่ไทยไม่ได้เป็นหนึ่งใน 4 เสือเศรษฐกิจหลายทศวรรษก่อน ข้อด้อยที่เห็นได้ชัดก็คือ การพัฒนาด้านระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานโดยเฉพาะในส่วนของระบบโทรคมนาคมนั้นยังถือว่าเติบโตช้ากว่า 4 ประเทศ 4 อย่างสิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง และไต้หวันหลายช่วงตัวนัก
ในขณะที่ปี 2013 ปัญหาการประมูล 3G บนความถี่ 2.1 GHz ของไทยที่ให้ความเร็ว 14 เมกะบิตต่อวินาทีนั้นยังไม่ประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน แต่วันนี้ที่ไต้หวันก็โปรโมต 4G ผ่านร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 แล้ว
อันที่จริง 4G มิใช่ของใหม่ที่ไต้หวัน!
จุดเริ่ม 4G ในไต้หวันเริ่มตั้งแต่ปี 2006 รัฐบาลทุ่มงบด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานกว่า 8,000 ล้านบาทโปรโมต M-Taiwan ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมสมัยใหม่อย่าง WiMAX เพื่อช่วยยกระดับการใช้ชีวิตคนเมือง และการศึกษา ซึ่งจะมาในรูปแบบของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสายเคเบิลเป็นหลัก
ปี 2007 จัดสรรคลื่นความถี่ WiMAX (Worldwide Interoperability for Microwave Access) บนความถี่ 2.5-2.69 GHz กับค่ายมือถือทั้ง 6 ค่ายของไต้หวัน ได้แก่ Global Mobile Corp (全球一動), VMAX Telecom Co (威邁思), Far EasTone Telecommunications Co (遠傳電信), First International Telecom Corp (大眾電信), Tatung InfoComm Co (大同電信) และ Vee Time ซึ่งขณะนั้นคาดว่าจะมีผู้ใช้ 15 ล้านคน นอกจากนี้เหตุผลสำคัญที่ทางกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวันโปรโมต WiMAX มากก็เพราะหวังจะปั้นให้ไต้หวันเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไฮเทคที่รองรับเทคโนโลยีนี้มากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกนั่นเอง
ในความเป็นจริงก็คือ เมื่อถึงปี 2012 ผลก็คือทั้ง 6 ค่ายมือถือสามารถหาลูกค้าที่ใช้บริการ WiMAX ไม่ถึง 2 แสนคน! ผิดกับที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่สำเร็จอย่างงดงาม
เหตุผลประการสำคัญที่ทำให้ WiMAX ไม่ประสบความสำเร็จในวงการมือถือไต้หวัน คือ เทคโนโลยีมาเร็วเกินไปที่ผู้บริโภคจะรับได้ ทั้ง 3G ก็ครอบคลุมและยังใช้งานได้ดีอยู่ ประกอบกับเนื้อหามัลติมีเดียที่ต้องการใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงก็ยังไม่แพร่หลายเท่ากับยุคยูทูบและเฟซบุ๊กในปัจจุบันนี้ สุดท้ายก็คือ ค่ายผู้ผลิตฮาร์ดแวร์เองก็ต่างไม่หันมาผลิตมือถือที่รองรับเครือข่าย WiMAX แต่กลับพากันแห่ไปผลิตมือถือ 4G ที่เป็นน้องใหม่มาแรงอย่าง LTE (Long Term Evolution) แทน
ในที่สุดปีที่แล้วรัฐบาลของไต้หวันก็ประกาศชัดเจนว่าจะเตรียมยกเลิกการใช้งาน WiMAX และหันไปหา LTE ตามเพื่อนบ้านกว่า 100 ค่ายมือถือทั่วโลกที่ร่วมลงนามใช้ LTE เช่นกัน
โดยคาดว่าไต้หวันจะเปิดประมูลลื่นความถี่ LTE อีกครั้งในปี 2013 นี้ ซึ่งจะใช้คลื่นความถี่ 700 MHz, 900 MHz และ 1.8 GHz และคาดว่าราคาการประมูลจะสูงกว่าสมัยการประมูล 3G ถึง 2 เท่า ส่วนมูลค่าของลงทุนปรับปรุงเครือข่ายเพียงอย่างเดียวก็สูงถึง 1.5 ล้านล้านบาทแล้ว และคาดว่าจะเปิดใช้งานเครือข่าย LTE จริงๆ พร้อมกันในไต้หวันก็จะเป็นปี 2017
และกว่าจะถึงวันนั้นก็ถือว่าไต้หวันเดินช้ากว่าพี่ใหญ่อย่างจีนแผ่นดินใหญ่เสียแล้ว เพราะปัจจุบันนี้ค่ายไชน่า โมบายได้เริ่มนำร่องทดสอบการใช้งานเครือข่าย 4G TD-LTE ที่ปักกิ่งและมณฑลเจ้อเจียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว