แม่ทัพหลักทรัพย์กสิกรไทยคนใหม่ วางหมากเพื่อรักษาแชมป์ Top of Mind ที่ 1 ในใจนักลงทุน เผยกลยุทธ์ผนึกฐานลูกค้าแบงก์แม่ พัฒนาเทคโนโลยีรองรับตลาดลงทุนออนไลน์ พร้อมบทวิเคราะห์ครอบคลุม 120 หลักทรัพย์ เสริมศักยภาพนักลงทุนรุ่นใหม่ก่อนเข้าสู่ตลาดผ่าน KS Investment Academy มองตลาดครึ่งปีหลัง ยังเป็นขาขึ้นตามตลาดโลก คาดดัชนี SET Index อยู่ที่ 1700 จุด
นายธิติ ตันติกุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมกลยุทธ์สำคัญเพื่อรักษาความเป็น Top of mind โบรกเกอร์แรกที่นักลงทุนเลือก และเป็น 1 ใน 3 โบรกเกอร์ชั้นนำของตลาด โดยการเสริมจุดแข็งควบคู่กับการสร้างบริการที่แตกต่างให้กับลูกค้า ด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนให้ครบถ้วน เพื่อตอบสนองทุกรูปแบบของการลงทุนที่ลูกค้าต้องการ พร้อมวางนโยบายขยายฐานลูกค้าร่วมกับธนาคารกสิกรไทย โดยเน้นที่กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงของธนาคาร ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและพร้อมที่จะลงทุนในหลายรูปแบบ นอกจากนั้นจะเน้นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการลงทุนให้ล้ำหน้าเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าออนไลน์ และพัฒนาบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ให้ได้ 120 หลักทรัพย์ ครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรมภายในปีนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งลูกค้าสถาบันและนักลงทุนรายย่อย
“ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย มีฐานลูกค้าประมาณ 42,000 ราย เป็นลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2556 ประมาณ 10,200 ราย คาดว่าทั้งปีจะสามารถเพิ่มลูกค้าใหม่ได้ 18,000 ราย โดยจำนวนบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวซื้อขายเป็นประจำประมาณ 43% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าตลาด โดยนักลงทุนรายใหม่ที่เป็นลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่ 66% จะเป็นลูกค้าที่ซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต แม้ว่ามูลค่าซื้อขายโดยรวมจะยังไม่สูงเท่ามูลค่าการซื้อขายจากนักลงทุนที่ซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด แต่บริษัทฯเห็นว่าลูกค้าออนไลน์มีศักยภาพและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จึงเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้มีความทันสมัยที่สุดเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น KS Access โบรกเกอร์แรกที่ให้บริการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์แบบออนไลน์ การันตีซื้อขายได้ภายใน 1 วัน KS Chat โปรแกรมแชทสดกับผู้จัดการเงินทุนบุคคลเพื่อปรึกษาเรื่องการลงทุนแบบ Real Time และล่าสุดกับบริการ Bisnews webstation โปรแกรมการลงทุนที่รวบรวมฟังก์ชั่นและเครื่องมือวิเคราะห์หุ้นไว้ได้มากที่สุด เป็นต้น” นายธิติกล่าว
นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัท ฯ ยังคงสานต่อกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด KS Investment Academy ที่เน้นให้นักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจการลงทุนในตลาดทุน ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในพี้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เช่น โครงการ KS The Young Turk Investor Season 4 และกิจกรรมอบรมสัมมนาต่างๆ เป็นต้น รวมทั้งการสื่อสารผ่าน รายการโทรทัศน์ หนังสือที่ให้ความรู้เรื่องการลงทุน และโซเชียลมีเดียอื่นๆเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ครบถ้วนที่สุด
สำหรับมุมมองภาวะตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าตลาดทุนโดยรวมจะยังเป็นขาขึ้น ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาการแข็งค่าของเงินเยนและการอ่อนค่าของเงินบาททำให้เกิดการขายสินทรัพย์หรือหุ้นเพื่อนำไปคืนเงินกู้ยืมในสกุลต่างประเทศ (Unwind Carry Trade) จึงทำให้มีแรงขายทำกำไรทั้งหุ้นไทยและหุ้นเอเซียออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อประกอบกับความกังวลต่อแนวโน้มการยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงนโยบาย (QE) ซึ่งอาจกระทบต่อสภาพคล่องของตลาดหุ้นโลกแล้วนั้น ส่งผลให้นักลงทุนซื้อขายหุ้นในระดับP/Eที่ต่ำลง ซึ่งบริษัทมีความเห็นว่าระดับดัชนีที่ 1300 – 1400 จุด เป็นระดับที่สะท้อนความเสี่ยงจากการขายทำกำไรแล้ว มีความเหมาะสมต่อการเข้าลงทุน
“กลยุทธ์การลงทุนในช่วงไตรมาส 3 จะเป็นลักษณะการซื้อขายในกรอบ (Trading range) ทิศทางของตลาดจะฟื้นตัวตามทิศทางของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศในซีกโลกตะวันตก อย่างสหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวได้ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีนี้ และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกลับมาสนับสนุนภาพการลงทุนของตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปีได้ บริษัทจึงยังคงเป้าหมาย SET Index ของปีนี้อยู่ ที่ 1700 จุด” นายธิติกล่าว