‘ไอริส กรุ๊ป’ รุกธุรกิจอสังหาฯ ครบวงจร ทุ่ม 300 ลบ. เปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปแห่งแรก

ไอริส กรุ๊ป ย้ำความเป็นมืออาชีพด้านอสังหาริมทรัพย์ รุกเปิดตัวโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูป “พรีแคส” แห่งแรกของบริษัท เน้นย้ำเป็นนวัตกรรมใหม่ ได้รับรองมาตรฐานจากประเทศเยอรมัน หวังช่วยลดปัญหา ด้านขาดแคลนแรงงาน มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพบ้านและยกระดับเทคโนโลยีการก่อสร้างในวงการอสังหาฯ พร้อมรองรับความต้องการพัฒนาโครงการจัดสรรและคอนโดมิเนียมในอนาคต ก่อนประกาศเดินเครื่องการผลิตแบบเต็มรูปแบบเดือน ก.ค. นี้

นายกิตติพงษ์ สุมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน และต้องการมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพบ้าน พร้อมยกระดับเทคโนโลยีการก่อสร้างในวงการอสังหาฯ ให้เทียบเท่าระดับโลก ล่าสุดบริษัทได้ลงทุนเปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูป หรือ “พรีแคส” แห่งแรกของบริษัทฯ เพื่อพัฒนาคุณภาพบ้านและเพิ่มกำลังผลิตรองรับการขยายธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาด้านแรงงาน โรงงานใหม่ดังกล่าวยังช่วยเพิ่มศักยภาพในการควบคุมต้นทุนการก่อสร้างของบริษัท เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ได้รับรองมาตรฐานจากประเทศเยอรมัน นอกจากนี้ การใช้ชิ้นส่วนสำเร็จรูปจะช่วยร่นระยะเวลาในการก่อสร้าง เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการก่อสร้างให้ทันความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนในการก่อสร้างและ มีความคล่องตัวในการกำหนดราคาขายเฉลี่ยเพื่อคงระดับอัตรากำไร เห็นได้จากในปัจจุบันบริษัทผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ต่างหันมาใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปด้วยกันทั้งสิ้น โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะอยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ไบร์ท พรีแคสเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด

โรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูป หรือ “พรีแคส” ตั้งอยู่ที่บางบัวทอง นนทบุรี ใช้พื้นที่ก่อสร้างโรงงานประมาณ 43 ไร่ มูลค่าการพัฒนารวมกว่า 300 ล้านบาท โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้ดำเนินการทดลองเดินเครื่องจักรและทดสอบการผลิต ซึ่งกำลังการผลิตสูงถึง 400,000 ตรม./ปี โดยสามารถรองรับการพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 110 ตรม. สามารถก่อสร้างได้ 700 ยูนิต ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม ขนาด 28 ตรม. จะสามารถก่อสร้างได้ 1,800 ยูนิต และในเดือนกรกฎาคมนี้ บริษัทจะเริ่มเดินเครื่องการผลิตอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทในอนาคต นอกจากนี้ หากกำลังการผลิตเพียงพอก็จะผลิตเพื่อจำหน่ายให้แก่บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ทั่วไป ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง