บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย จัดพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าแห่งใหม่ที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยเงินลงทุนมูลค่า 17,150 ล้านบาท ตอกย้ำพันธสัญญาในการเติบโตเคียงข้างสังคมไทยตลอดไป โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะมีกำลังการผลิต 120,000 คันต่อปี พร้อมเริ่มเดินสายการผลิตได้ในปี 2558 และสร้างโอกาสในการจ้างงานประมาณ 2,500 อัตรา
พิธีวางศิลาฤกษ์จัดขึ้นบริเวณพื้นที่ที่จะดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ณ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดปราจีนบุรี โดยมี นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี และมร. ชิเกะคะสุ ซะโต เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ข้าราชการระดับสูง ร่วมด้วยคณะผู้บริหารฮอนด้า ซึ่งนำโดย มร.ทาคาโนบุ อิโต้ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด พร้อมทั้งพันธมิตรคู่ค้าทางธุรกิจ และผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างมาก ในปี 2555 ที่ผ่านมา ถือเป็นประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่สามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งยอดขายในประเทศ ยอดการส่งออกและยอดการผลิต ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยสามารถผลิตรถยนต์ได้มากกว่า 2 ล้านคันต่อปีเป็นครั้งแรก
สำหรับพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานแห่งที่ 2 ของบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ในวันนี้ แสดงถึงการกลับมาอย่างแข็งแกร่งของฮอนด้า และความเชื่อมั่นของฮอนด้าที่มีต่อประเทศไทย ที่เห็นถึงความสำคัญของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตหลัก อีกทั้งยังทำให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพิ่มการจ้างงานให้กับคนไทย และนับเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเติบโตอย่างมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศต่อไป”
มร. ทาคาโนบุ อิโต้ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปีของการดำเนินงานในประเทศไทย ฮอนด้ามีความผูกพันกับคนไทยและสังคมไทยอย่างแน่นแฟ้น ทั้งยังได้รับการสนับสนุนที่ดีจากลูกค้าชาวไทย และรัฐบาลไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ก้าวผ่านอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ มาได้ด้วยดีเสมอ
ภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2560 ฮอนด้ามีเป้าหมายที่ท้าทายเพื่อที่จะส่งมอบความสุขในการใช้รถยนต์ฮอนด้าให้กับลูกค้าทั่วโลกมากถึง 6 ล้านคน การก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าแห่งใหม่ที่จังหวัดปราจีนบุรีนี้ จึงถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่จะมีส่วนช่วยให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว โดยโรงงานแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตามนโยบายในการสร้างฐานการผลิตในพื้นที่ที่ใกล้กับลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการใช้รถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย
ทั้งนี้ประเทศไทยเป็นฐานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฐานการผลิตรถยนต์และยังเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชีย และโอเชียเนียมาโดยตลอด”
มร. ฮิโรชิ โคบายาชิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ประกาศการลงทุนเพื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าแห่งใหม่ ที่จังหวัดปราจีนบุรี มูลค่า 17,150 ล้านบาท โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะผลิตรถยนต์ประเภทซับคอมแพคท์ เพื่อรองรับตลาดในประเทศไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา กลุ่มประเทศในแถบทะเลแคริบเบียน และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
“โรงงานแห่งใหม่ที่ปราจีนบุรีจะเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่ทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย โดยจะนำนวัตกรรมการผลิตอันล้ำสมัยของโรงงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่เมืองโยริอิ ประเทศญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ ซึ่งจะช่วยลดเวลาในกระบวนการผลิตแต่ละขั้นตอนและมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่กระบวนการเชื่อมตัวถัง การพ่นสี ไปจนถึงการประกอบรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และมีระบบการใช้น้ำหมุนเวียน เพื่อลด
การใช้น้ำในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย”
นอกจากนี้ ยังได้ประกาศการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตที่โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกมูลค่า 2,910 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิต 280,000 คันต่อปี และจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 300,000 คันต่อปีภายในต้นปี 2557 เมื่อรวมกำลังการผลิตจากโรงงานทั้งสองแห่งเข้าด้วยกัน ฮอนด้าจะมีกำลังการผลิตรวมที่ 420,000 คันต่อปี ในปี 2558
มร. โคบายาชิ กล่าวเสริมว่า “เมื่อเดือนมีนาคม 2555 กลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทยได้ร่วมกันก่อตั้งกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยขึ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทยในยามที่อาจจะต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัจจุบัน มีเงินสมทบเข้ากองทุนแล้วเป็นจำนวน 500 ล้านบาท และได้นำไปใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้ง ล่าสุด กองทุนฯ ยังได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 14.4 ล้านบาทให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อดำเนินงานโครงการแก้มลิงโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ ได้มีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค และทำการเกษตรเพื่อยังชีพตลอดทั้งปี”
“ฮอนด้าจะมุ่งมั่นคิดค้นยนตรกรรมที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเดินหน้าสานต่อปณิธานด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับลูกหลานต่อไปในอนาคต ภายใต้แนวคิด “Blue Skies for Our Children” พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องไปพร้อมกับสังคมไทย สมดังเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการเป็นองค์กรที่สังคมไทยต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไป มร. ทาคาโนบุ อิโต้ กล่าวทิ้งท้าย