เป็นเวลากว่า 9 ปีแล้วที่ “ผลงานจบการศึกษา” ของเหล่าบัณฑิตหน้าใหม่เป็นที่เลื่องลือกระฉ่อนวงการนักออกแบบไทย เหตุเพราะพื้นที่ของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) เต็มไปด้วยความหลากหลายของงานดีไซน์ขั้นเทพ และยังเป็น “สะพานเชื่อมไอเดีย” ระดมความคิด และร่วมมือกันระหว่างเจ้าของผลงานและเจ้าของกิจการ เพื่อต่อยอดสู่การค้าเชิงพาณิชย์ หวังผลให้ความคิดสร้างสรรค์เหล่านั้นส่งเสริมเศรษฐกิจไทยได้จริง
หลายเสียงในสังคมสะท้อนปัญหาส่วนใหญ่ของบัณฑิตจบใหม่ว่า เปรียบเหมือน “มือใหม่หัดขับ” ไร้ประกาศนียบัตรการันตีความสามารถ นอกเหนือจากใบปริญญาที่ใครๆ ก็มีได้ตามหลักสูตร เลยไม่รู้ว่า “เก่งจริง หรือ ฝีมือกลางๆ” จะคัดกรองเข้าทำงานก็เกรงจะต้องเสียเวลา “สอนงาน” นับหนึ่งใหม่ทุกครั้งไป สู้ไม่ได้กับการเดิน “ชอปปิ้ง” หาเซียน ผู้มี “Portfolio” สุดเจ๋ง ได้คะแนนเกรดเอ สิบเต็มสิบ ซึ่งนับเป็นทางออกที่ดีกว่าในตอนนี้
สืบเนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่มาของเทศกาล “ปล่อยแสง คิด/ทำ/กิน” ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ “Creative Thailand สร้างเศรษฐกิจไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์” มุ่งหวังสร้างเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ด้วยการมุ่งพัฒนาไปสู่ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) พูดง่ายๆ คือ ทำในสิ่งที่คิดไว้ ให้ขายได้นั่นเอง
เทศกาลนี้เปิดพื้นที่อิสระสำหรับผู้ที่มีไอเดียทำกินได้ (Practical Idea) ให้สามารถเข้ามานำเสนอผลงานของตนเองตามแนวคิดหลัก 3 หัวข้อ คือการคิดไอเดียตอบโจทย์ (Inspiration) เน้นหาคำตอบว่าทำไมคนต้องซื้อของของเรา แล้วจะทำสิ่งนั้นด้วยกระบวนการหรือกรรมวิธีใด (Practical Process) ตลอดจนจะสร้างจุดขายให้ร้องว้าวได้อย่างไร (Attraction)
สำหรับปีนี้ก็เช่นกัน ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบยังคงจัดเทศกาล “ปล่อยแสง 10 ตอน 10 เต็ม 10” ซึ่งเปิดพื้นที่ให้เยาวชนของชาติได้มีโอกาสค้นหาและพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่ พร้อมกับแสดงตัวเป็นกรณีศึกษาชั้นยอดให้น้องๆ ที่กำลังจะจบการศึกษาได้เรียนรู้สู่การประยุกต์ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 11 สิงหาคมนี้ เวลา 10.30 – 21.00 น. ณ ห้องนิทรรศการ 2 TCDC ชั้น 6 ดิเอ็มโพเรียม ชอปปิ้ง คอมเพล็กซ์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย …แต่ทว่าครั้งนี้รายละเอียดของงานพิเศษและต่างออกไปจากครั้งก่อนๆ
อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ เปิดเผยว่า ไอเดียจัดงานครั้งที่ 10 ต้องการเล่นกับคำว่า สิบ โดยนึกถึงผลการเรียนเป็นเลิศก็คือ สิบเต็มสิบ จึงเปรียบได้กับผลงานบัณฑิตจบใหม่ในปี 2555 ทุกระดับชั้นที่นำมาโชว์นั้น ได้คะแนนเต็มจากการประเมินของคณะกรรมการระดับประเทศ นั่นแปลว่าผลงานกว่า 100 ชิ้นเหล่านี้มีความสมบูรณ์ที่สุดในความเป็นนักศึกษา พร้อมแล้วที่จะก้าวเป็นคนทำงานตัวจริง
นอกจากนั้น เทศกาลครั้งนี้ยังเพิ่มจำนวนแขนงงานออกแบบให้ครอบคลุมมากขึ้น ได้แก่ ออกแบบนิเทศศิลป์ ออกแบบอุตสาหกรรม มัลติมีเดีย แฟชั่นและเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ภาพยนตร์ ภาพถ่าย สถาปัตยกรรมและอื่นๆ รวมทั้งมีจำนวนสถาบันการศึกษาเข้าร่วมเพิ่มขึ้นกว่า 15 สถาบัน หวังจะเติมครีเอทีฟให้เต็มวงการนักออกแบบไทยเลยทีเดียว
“ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ ทำให้เราคัดมาได้เพียงร้อยชิ้น จริงๆ ผลงานดีๆ ยังมีอีกมาก เราเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นประตูโอกาสให้กับนักออกแบบได้มีพื้นที่แสดงผลงาน ศึกษาวิธีจัดงานแสดง เรียนรู้เทคนิคการนำเสนอผลงาน การฝึกอบรมเฉพาะ และเข้าถึงช่องทางพบปะแลกเปลี่ยนความเห็นและสานต่อการทำงานร่วมกัน ฉายไฟให้สังคมรู้จักมากขึ้น ส่งผลให้นักศึกษามีโอกาสได้ทำงาน หรือผลิตงานต่อไป เป็นกระบวนการที่จะทำให้ได้งานมากขึ้นและตรงกับสายงานมากขึ้น ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาสามารถต่อยอดและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่เข้าสู่โลกแห่งธุรกิจได้แล้วไม่ต่ำกว่า 500 ราย” อภิสิทธิ์ กล่าว
ในปีนี้มีผลงานที่โดดเด่นมากมาย อาทิ เครื่องประดับแสงและรุ้งบนแนวระนาบของร่างกาย การออกแบบสถาปัตยกรรมเชิงทดลองที่ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้แก่พื้นที่ รองเท้าเพื่อสุขภาพเท้าของคนไทย ดอกไม้ประดิษฐ์สะท้อนความเป็นไทยร่วมสมัย เอนิเมชัน 2 มิติ ภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับความตาย หนังสือภาพถ่ายเชิงสารคดี เป็นต้น
อีกทั้ง ยังมีการออกแบบเครื่องแต่งกายที่นำลายเส้นและภาพกราฟิกบนหน้าไพ่มาเป็นแนวคิดหลัก ซึ่งมัณฑนา สุภาพร เจ้าของผลงานความสวยงามของลวดลายไพ่ The Poker Card เป็นกรณีศึกษาด้านไอเดีย เผยว่า ถ้าพูดถึงไพ่ป๊อกเกอร์ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการพนัน แต่หารู้ไม่ว่าอันที่จริงแล้ว ยังสามารถใช้ในทางโหราศาสตร์ได้อีกด้วย ซึ่งได้ซ่อนความหมายต่างๆ มากมาย ไว้ภายใต้ลวดลายอันสวยงาม ซึ่งเธอนำมาสร้างสรรค์เป็นลายผ้า สร้างความสะดุดตาแก่ผู้พบเห็นได้ไม่น้อย และคาดหวังว่าเทศกาลครั้งนี้จะสร้างโอกาสในวงการแฟชั่นไทย
หนทางหมื่นลี้ เริ่มต้นที่ก้าวแรก เทศกาลปล่อยแสงครั้งที่ 10 นี้จะเป็นก้าวแรกที่จะปูทางไปสู่โอกาส เติมเต็มความฝัน และแบ่งปันโอกาสอีกมากมายในอนาคต