แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด โครงการเรสซิเดนซ์ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่บนถนนราชดำริ แถลงความสำเร็จโครงการ กวาดยอดขายทั้งจากผู้ซื้อและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศกว่า 65% รวมมูลค่ากว่า 3,100 ล้านบาท ลั่นพร้อมประกาศเดินหน้าก่อสร้างเต็มกำลัง หลังผ่านมาตรฐานการรับรองการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว มั่นใจโครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดตัวโรงแรม 5 ดาว ระดับโลก “วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย” แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามกำหนดปี 2558 ต้อนรับ AEC มั่นใจศักยภาพตลาดคอนโดไฮเอนด์ ตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 5 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ภายใน 5 ปี พร้อมเตรียมจับมือพันธมิตรธุรกิจและและเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ
นายธนวันต์ ชัยวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกโนเลีย ไฟน์เนสท์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด ว่า “นับตั้งแต่เปิดตัวโครงการในเดือนมิถุนายน ในปี 2555 เราประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทำยอดขายได้ตามที่วางแผนไว้ ถึงปัจจุบันขณะนี้เราขายไปได้แล้ว 65% คิดเป็นยอดขาย กว่า 3,100 ล้านบาท จากผู้ซื้อและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยภายในสิ้นปีนี้ เราตั้งเป้าว่า ยอดขายจะทะลุ 75% อย่างแน่นอน โดยขณะนี้เรามีกลุ่มลูกค้าแบ่งเป็นสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 50 % และต่างชาติ 50 % ในจำนวนนี้มีกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติจากฮ่องกงเป็นสัดส่วนถึง 15%, จีน 10% สิงคโปร์ 7% และอื่นๆ อีก 18%”
แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด เป็นโครงการที่พักอาศัยหรูรวม 316 ยูนิต บนพื้นที่ 6 ไร่ ซึ่งมีทั้งห้องชุดตั้งแต่แบบ 1 ห้องนอน (48 ตร.ม.) แบบ 2 ห้องนอน (เฉลี่ย 80 ตร.ม.) เพนท์เฮ้าส์และดูเพล็กซ์เพนท์เฮาส์ (250 – 360 ตร.ม.) ทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงแรม 5 ดาวระดับโลก “วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ” จากเครือฮิลตัน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท โครงการฯ ออกแบบ โดยได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากกลีบดอกแมกโนเลีย และนำแนวคิดสถาปัตยกรรมไทยมาออกแบบเป็นส่วนชายคา (Sunshade) ของตัวอาคารซึ่งถูกคำนวณอย่างแม่นยำและดีไซน์ให้กลายเป็นส่วนประดับ(Fa?ade) โอบล้อมอาคารได้อย่างสวยงาม ทั้งยังสมบูรณ์แบบด้วยมาตรฐานเพื่อการพักอาศัย และตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง
“ที่ผ่านมาลูกค้าของเราโดยเฉพาะลูกค้าต่างชาติจะให้ความสำคัญกับคุณภาพ การออกแบบ และให้ความสำคัญมากกับคุณภาพของโครงการ สิ่งที่ลูกค้าทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน คือ ทำเลที่ถือได้ว่าเป็นทำเลทองของกรุงเทพฯ และเนื่องจากภายในโครงการของเราจะมีโรงแรม “วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ” แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นแบรนด์ไฮเอนด์หรูระดับ 5 ดาว ที่เป็นที่รู้จักของนักธุรกิจและนักเดินทางทั่วโลก จึงยิ่งเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น” ธนวันต์กล่าว
“ราคาของเราเมื่อเปิดตัว ราคาขายเริ่มต้นที่ 170,000 ต่อตารางเมตร หรือยูนิตละ 8.5 ล้านบาท ปัจจุบันราคาเฉลี่ยของเราอยู่ที่ ตารางเมตรละ 200,000 บาท เฉลี่ยสูงขึ้นประมาณ 15% ซึ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงศักยภาพทางการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน” ธนวันต์กล่าวต่อ
เร็วๆ นี้ โครงการได้รับรองการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment: EIA) และเตรียมเดินหน้าโครงการก่อสร้างเพื่อให้ส่งมอบโครงการได้เสร็จตามกำหนด โดยเฉพาะต้อนรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งมีประชากรที่เป็นผู้บริโภคมากกว่า 600 ล้านคน ในปี 2558 ซึ่งมั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจของไทยจะมีการเติบโตและขยายตัวมากยิ่งขึ้น โดยมีกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางทั้งในด้านการค้าและการท่องเที่ยว และถือเป็นเมืองที่นักลงทุนด้านอสังหาฯ โดยเฉพาะโครงการเรสซิเดนซ์ระดับไฮเอนด์ ให้ความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะทำให้ราคาของอสังหาฯ โดยเฉพาะโครงการในทำเลย่านธุรกิจยิ่งมีราคาสูงขึ้น อันเนื่องมาจากอุปสงค์ทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงคาดว่าโครงการแมกโนเลียส์ฯ จะทำยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เดินหน้ากิจกรรมและโรดโชว์ต่างประเทศ
“จากความสำเร็จด้านยอดขายและการออกไปทำโรดโชว์ในต่างประเทศ ยืนยันถึงความมั่นใจได้ว่า ตลาดคอนโดไฮเอนด์ยังมีศักยภาพ มั่นใจว่าเราจะก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 5 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดไฮเอนด์ได้ภายใน 5 ปีนี้ อยางแน่นอน ล่าสุดเราเป็น’โครงการเรสซิเดนซ์ที่ได้รับการแนะนำมากที่สุดของกรุงเทพฯ’ ประจำปี 2556 จากสถิติโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทยที่ขายดีที่สุดทั้งในกรุงเทพฯและฮ่องกงในปีนี้ โดยเราสามารถขายห้องชุดจากโรดโชว์ที่ฮ่องกงครั้งเดียวได้ถึง 19 ยูนิต ภายในปีนี้เราก็มีแผนจะว่ากลับไปฮ่องกงอีกครั้ง รวมทั้งอาจจะเป็นสิงคโปร์ จีน มาเลเซียและดูไบ ประมาณปีหน้า นอกจากนี้ เรายังคงจับมือกับพันธมิตรธุรกิจจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ ร่วมกับซิตี้แบงก์ เสนอโปรโมชั่นพิเศษแก่ผู้ถือบัตรเครดิตที่ซื้อห้องชุด เป็นต้น ในส่วนของลูกค้าที่ซื้อโครงการแล้ว เราเตรียมที่จะเปิดตัวเว็บไซต์สำหรับให้ลูกค้าที่อยู่ในไทยและต่างประเทศ ซึ่งอาจจะอยู่ในโซนเวลาที่แตกต่างกัน สามารถติดตามตรวจสอบข้อมูล ทั้งสัญญา ความคืบหน้าต่างๆ ได้ตลอดเวลา ถือได้ว่าผู้พัฒนาโครงการรายแรกที่ทำ CRM เว็บไซต์ให้กับลูกค้า ธนวันต์กล่าวถึงแผนธุรกิจ
แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด เพียบพร้อมด้วยส่วนบริการเพื่อการพักอาศัยระดับไฮเอนด์ ทั้งคลับส่วนตัว ล็อบบี้ส่วนตัวสำหรับผู้พักอาศัย และจุดรับ-ส่งสำหรับบริการจอดรถ ห้องประชุมสังสรรค์ เอ็กเซ็กคิวทีฟเลาจน์ พื้นที่สวนสีเขียวดีไซน์แบบลดระดับ ห้องสมุด ศูนย์บริการไปรษณีย์ ศูนย์ธุรกิจพร้อมระบบสื่อสารและการเชื่อมต่อออนไลน์แบบครบวงจร ตลอดจนศูนย์ฟิตเนส ลู่วิ่งออกกำลังกลางแจ้ง เซาว์น่า สระว่ายน้ำยาวถึง 70 เมตร พร้อมจากุชชี่และสระเด็ก รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมมอบพื้นที่จอดรถมากกว่า 100% สำหรับผู้อยู่อาศัยทุกยูนิต โดยบริษัทแมกโนเลียฯ เป็นผู้บริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการตลอดอายุสัญญา
นอกเหนือจากภาพลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่มีความหรูหราสง่างามระดับแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ แล้ว โครงการแมกโนเลียส์ฯ ยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับผู้อยู่อาศัย การประหยัดน้ำและพลังงาน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ซึ่งถือเป็นการช่วยสร้างสรรค์สังคมเพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง นี่คือบ้านแห่งอนาคตซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ในตัวเอง และยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่างเหนือชั้น โครงการฯ เพิ่มมูลค่าให้ห้องพักด้วยการเลือกสรรเฉพาะผลิตภัณฑ์คุณภาพที่นักออกแบบระดับโลกให้การยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Bulthaup, Franke, Donbracht, Siemens, Hansgrohe, Kasch ฯลฯ เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์เหนือระดับสำหรับผู้มีรสนิยมอันละเมียดละไมในการใช้ชีวิต โครงการ ได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน Green Building และยังเป็นโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ไฮเอนด์แห่งแรกของไทยที่ออกแบบตามมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่ยอมรับสูงสุดในปัจจุบัน