เมืองไทยประกันชีวิต บริษัทของคนหัวคิดทันสมัย แสดงจุดยืนด้านการเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแกร่งเสมอมา ด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพของการดำเนินงานในทุกส่วนขององค์กร ตลอดจนนโยบายด้านการตลาดที่ครอบคลุมช่องทางการขายที่เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายรวมทั้ง มุ่งมั่นการให้บริการแก่ลูกค้าที่เป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง พร้อมเข้าสู่การเป็น Digital Insurer และตอบรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ได้แข็งแกร่งทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทฯ คงรักษาอัตราการเติบโตที่มั่นคงแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทฯ มีความพร้อมในทุกด้านเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมดำเนินนโยบายหลักที่ปฏิบัติมาอย่างถูกทางที่เป็นผู้นำการบุกเบิกการตลาดที่หลากหลายช่องทาง (Multi Distribution Channels) เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีแนวทางการใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ มีการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่เปลี่ยนไป โดยเน้นนโยบายในการดำเนินงานเชิงรุก ตัวแทนมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและเข้าถึงทุกความต้องการของลูกค้าทั่วทุกพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านทุกช่องทางทำให้บริษัทประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยมีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเบี้ยประกันรับรวม 60,249 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 23 ซึ่งเป็นเบี้ยประกันรับใหม่สูงถึง 27,613 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 และเบี้ยประกันต่ออายุ 32,636 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 20 ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจ
สำหรับในปี 2557 นี้ เพื่อรองรับการขยายตัวของตัวแทนใหม่ บริษัท ได้จัดเตรียมระบบการสอบใบอนุญาตตัวแทนผ่านคอมพิวเตอร์ผ่านศูนย์สอบ จำนวน 19 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสามารถรองรับการสอบตัวแทนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ได้มากกว่า 50,000 คนต่อปี เพื่ออำนวยความสะดวกและความคล่องตัวให้กับตัวแทน นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการขายผ่านตัวแทนประกันชีวิตที่มีความรู้ความสามารถ ความมีคุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติงาน ตลอดจนยังได้วางเครือข่ายการสนับสนุนการสรรหาตัวแทนให้สามารถเข้าไปยังทุกสาขาทั่วประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเข้าสู่การเป็น Digital Insurer เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความทันสมัยสามารถสนับสนุนและเป็นเครื่องมือด้านการขายของตัวแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุค digital ซึ่งลูกค้ายุคใหม่มีความต้องการติดต่อได้ทุกที่ ทุกเวลา บริษัทฯ จึงได้พัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยี แอพพลิเคชั่นและการใช้ social media ต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองพฤติกรรมของลูกค้า เพิ่มศักยภาพในการบริการ การติดต่อสื่อสาร ความสะดวกสบาย และสามารถตอบโจทย์รูปแบบการ
ใช้ชีวิตของลูกค้าและเพิ่มความผูกพันของลูกค้ากับบริษัทฯ โดยเมืองไทยประกันชีวิตตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในด้านดิจิตอลในธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งผู้นำในด้านดิจิตอลในธุรกิจประกันชีวิตที่กล่าวถึงในที่นี้ไม่ได้หมายความเพียงด้าน digital marketing เท่านั้น แต่หมายความถึงทั้งองค์กรทั้งในมุมของลูกค้า คู่ค้า ตัวแทนขาย และพนักงานเพื่อตอบสนองกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและในปีนี้บริษัทจะนำระบบ Automatic Underwriting เข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และเหมาะสมกับลูกค้า ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้นำเครื่อง MPOS อุปกรณ์ชำระเบี้ยประกันแบบบพกพาเข้ามาให้ตัวแทนใช้ เพื่อเพิ่มอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระเบี้ยประกัน
สำหรับการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น บริษัทฯ ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าและรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนจากเดิม มีการแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งกลุ่มออมเงิน กลุ่มรายย่อย กลุ่มด้านประกันชีวิตและสุขภาพ ตลอดจนกลุ่มผู้สูงวัยที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ และในด้านการสนับสนุนตัวแทนขาย บริษัทฯ ได้พัฒนาเครื่องมือการขายและเทคโนโลยีต่างๆ เป็นเครื่องมือที่สำคัญของฝ่ายขายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Google Apps สนับสนุนการทำงานของฝ่ายขายด้วยการรับส่งข้อมูลข่าวสาร การประชุมได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยมีฟังก์ชันต่างๆ อาทิ E-mail, Calendar, Chatting Meeting, VDO Conference ตลอดจนนำ Application Line & Line Band มาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ กับฝ่ายขาย รวมทั้งการพัฒนา โปรแกรมใบเสนอขาย Smart Proposal สามารถใช้บน IOS และ Android ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าผ่านอุปกรณ์ Tablet
นอกจากนี้การให้บริการแก่ผู้เอาประกันเป็นนโยบายที่สำคัญของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นรักษาการให้บริการที่เป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการมอบความสุขและรอยยิ้มที่นอกเหนือจากการให้บริการด้านต่างๆ กับกิจกรรมเมืองไทย สไมล์คลับ ที่จะเข้มข้นมากขึ้น โดยในด้านการอำนวยความสะดวกผ่านศูนย์บริการลูกค้า บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ เพื่อเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งชุมชน ห้างสรรพสินค้า และในโรงพยาบาล ปี 2556 ที่ผ่านมานั้นมีการเปิดศูนย์บริการลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 15 แห่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 145 สาขา ซึ่งนอกเหนือจากเป้าหมายการขยายศูนย์บริการลูกค้าแล้ว บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพด้านการบริการด้วยการเพิ่มช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้เอาประกันภัยในการบริการด้านประกันชีวิต โดยลูกค้าสามารถรับบริการกู้รอรับตามสิทธิ์กรมธรรม์ในวงเงินที่สาขาอนุมัติได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เพิ่มระบบรับเงินสินไหมทดแทนที่จุดบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต โดยลูกค้าสามารถเลือก
ช่องทางการรับเงินสินไหมทดแทนอุบัติเหตุและสุขภาพได้ที่จุดให้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่มีมากกว่า 7,000 สาขาทั่วประเทศทุกวัน สำหรับการขอรับสินไหมทดแทนอุบัติเหตุและสุขภาพผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส โดยมีวงเงินในการจ่ายเงินสินไหมทดแทนอุบัติเหตุและสุขภาพไม่เกิน 10,000 บาท ต่อผู้เอาประกันภัย 1 ราย ต่อการเรียกร้องสินไหมทดแทนอุบัติเหตุและสุขภาพแต่ละครั้ง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีโครงการเปิดศูนย์บริการลูกค้าแห่งใหม่เพิ่ม ในปี 2557 นี้ อีกกว่า 10 สาขา อาทิ บลูพอร์ต หัวหิน เซ็นทรัลพลาซ่าศาลายา เซ็นทรัลพลาซ่าระยอง และศูนย์บริการที่ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ เมญ่า เชียงใหม่
ด้านการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2556 ที่ผ่านมานับได้ว่าเมืองไทย Smile Club ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากแคมเปญ แจ่มว๊าว 9 ปี เมืองไทย Smile Club ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเมืองไทย Smile Trip ที่เชิญชวนสมาชิกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ 2 ทริปใหญ่กับประเทศพม่า และประเทศภูฏาน กิจกรรม The Avengers 9 Smile Concert รวมถึงเมืองไทย Smile Movie Day ดูหนังฟรี 9,999 ที่นั่ง และเพื่อเป็นการร่วมฉลอง 1 ทศวรรษ ของเมืองไทย Smile Club ที่ไม่เคยหยุดการสร้างสรรค์ความสุขมอบให้แก่ลูกค้าสมาชิก ในปี 2557 นี้บริษัทฯ เตรียมจัดกิจกรรมมากมายภายใต้แนวคิด เมืองไทย Smile Club “10 Year Real Smile Real Style” หรือ 10 ปีกับรอยยิ้มที่จริงใจและสัมผัสได้ สไตล์คนหัวคิดทันสมัย โดยจะมีการเปิดตัวแคมเปญอย่างเป็นทางการ พร้อมกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นอีกมากมายให้สมาชิกเลือกตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ สำหรับกิจกรรมอุ่นเครื่องช่วงต้นปี อาทิ เมืองไทย Smile Trip Special 5 : สบายดีหลวงพระบาง The Real Smile Concert กับศิลปินชื่อดัง ปาล์มมี่ ป๊อป แคลอรี่บาบา ว่าน ธนกฤต ที่จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับสิทธิประโยชน์พิเศษกับ เมืองไทย Smile Dining สมาชิกผู้ถือบัตรเมืองไทย Smile Club รับส่วนลดร้านอาหาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ Enjoy Shopping With Smart Pay ใช้อปปิ้งสินค้าราคา M- Price ที่ Home Fresh Mart, Gourmet Market อีกด้วย ทั้งนี้ลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถสมัครสมาชิกเมืองไทย Smile Club ได้ฟรีที่ศูนย์บริการลูกค้าทั่วประเทศหรือสอบถามที่ตัวแทนฝ่ายขาย หรือที่โทร 1766 เมืองไทย Smile และ www.muangthai.co.th
และอีกภารกิจสำคัญที่บริษัทฯ ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องคือการตอบแทนคืนสู่สังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาคุณภาพสังคม การการศึกษา ศิลปวัฒนธรรม ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านเสริมสร้างสุขภาพด้านกีฬา ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ สานต่อโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพเด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดารในภาคต่างๆ ของประเทศ ทั้งยังจัดทำโครงการค่ายเมืองไทยประกันชีวิตอาสาพัฒนาชุมชน ตลอดจนภารกิจด้านเยาวชนและกีฬา ด้วยการสนับสนุนการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ
ในปี 2556 เป็นปีที่สำคัญของบริษัทฯ ในด้านความตั้งใจในการตอบแทนสังคมที่ได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องและสร้างความยินดีแก่ผู้บริหารและพนักงานทุกคนด้วย บริษัทฯ ได้รับรางวัลอันดับที่ 1 จาก Asia Insurance Awards สาขา Corporate Social Responsibility (CSR) ซึ่งนับว่าเป็นรางวัลสุดยอดระดับเอเชียที่มอบให้กับบริษัทที่มีการทุ่มเททรัพยากรและเวลาในการสร้างสรรค์ประโยชน์ที่สำคัญและสร้างความยั่งยืนต่อชุมชนในด้านสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ ได้มองโอกาสของการขยายตัวของธุรกิจที่จะก้าวเข้าสู่AEC นั้น จะเห็นได้ว่าบริษัทฯ ได้เตรียมวางระบบInfrastructure พร้อมจะก้าวสู่AEC โดยศึกษารูปแบบตามความเหมาะสมของปัจจัยแวดล้อมในแต่ละประเทศ เช่น กฎหมาย หรือสภาพเศรษฐกิจ ในเบื้องต้นบริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้เปิดสำนักงานผู้แทน (Representative Office) ใน เมียร์ม่าร์ ซึ่งจะทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ถึงประโยชน์ของการทำประกันชีวิตและรู้จักเมืองไทยประกันชีวิตมากยิ่งขึ้น รวมถึงให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการ พร้อมทั้งศึกษาและเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสทางธุรกิจเมื่อเหมาะสม
“บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพขององค์กรและพนักงานให้ก้าวสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ตลอดจนพัฒนาประสิทธิภาพของช่องทางการขายและการให้บริการของทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง เพื่อผู้เอาประกันของบริษัทฯ จะได้รับการให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการให้บริการที่ประทับใจหรือเกินความคาดหมาย ซึ่งบริษัทฯ จัดไว้สำหรับผู้เอาประกันของเรา”