ผู้ให้บริการมือถือชั้นนำ 11 ราย ใน 11 ประเทศ ร่วมกันจัดตั้ง “เครือข่าย M2M” (Machine to Machine) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก เพื่อส่งมอบการให้บริการ M2M แบบครบวงจรในกลุ่มประเทศสมาชิก โดย Bridge M2M Alliance จะเป็นศูนย์รวมของบริการและโซลูชั่น M2M ที่หลากหลาย เพื่อร่วมกันส่งมอบประสบการณ์แบบ “One Stop Shop” ให้กับลูกค้าต่างๆ ของประเทศสมาชิก
สมาชิกของ Bridge M2M Alliance ประกอบไปด้วย Airtel – อินเดีย , AIS – ไทย , CSL – ฮ่องกง , Globe Telecom – ฟิลิปปินส์ , Maxis – มาเลเซีย , MobiFone – เวียดนาม , Optus – ออสเตรเลีย , SingTel – สิงคโปร์ , SK Telecom – เกาหลีใต้ , Taiwan Mobile – ไต้หวัน และ Telkomsel – อินโดนีเซีย โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการรวมกันมากกว่า 500 ล้านราย ส่งผลให้เครือข่าย M2M มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
โดย Bridge M2M Alliance จะช่วยลดความซับซ้อนในการประสานงานกับผู้ให้บริการจำนวนหลายๆราย ด้วยการนำเสนอการส่งมอบบริการ M2M ที่ข้ามพรมแดนทางภูมิศาสตร์ในระดับภูมิภาค ให้เป็นไปอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ นอกจากนี้สมาชิกกลุ่มเครือข่ายยังจะช่วยพัฒนาประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้าผ่านการทำงานร่วมกัน เพื่อยกระดับการให้บริการและการดูแลลูกค้าด้วย
มร.อเลซซานโดร อาดริอานี CEO ของ Bridge Alliance กล่าวว่า “ทวีปเอเชียเป็นทวีปที่มีความแตกต่างทางด้านเศรษฐกิจสูงมาก นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่เท่าเทียมกัน รวมทั้งมีข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่หลากหลาย เป็นผลให้ธุรกิจข้ามชาติต่างๆพบว่าเป็นการยากมากที่จะนำความซับซ้อนของภูมิภาคเหล่านี้นำไปสู่การผลิตที่มีต้นทุนต่ำ ดังนั้นพัฒนาการต่างๆของ Bridge Alliance ในธุรกิจ M2M จึงเป็นเครื่องบ่งชี้ความมุ่งมั่นของทั้ง 11 บริษัทผู้ให้บริการมือถือ ที่ต้องการเอาชนะความท้าทายในการทำให้ธุรกิจของกลุ่มลูกค้าประสบความสำเร็จ”
พันธมิตรของ M2M ครอบคลุมธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ รถยนต์ , การรักษาความปลอดภัย , การจัดการพลังงาน เป็นต้น ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้เกิดการพัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ การสร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ๆ และการลดต้นทุนในการดำเนินงานของลูกค้า ดังนั้นสมาชิกเครือข่ายจึงมุ่งมั่นในการสร้างระบบนิเวศน์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ โดยการร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ M2M อาทิกลุ่มนักพัฒนา Application , กลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์ และผู้ให้บริการต่างๆ
โดยสมาชิกเครือข่ายจะยังคงเดินหน้าร่วมมือกันเพื่อรักษาประโยชน์ในเชิงธุรกิจให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าประหยัด สามารถสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ การเป็นผู้นำในการให้บริการในแต่ละประเทศจะเป็นการยกระดับ และสนับสนุนบริษัทข้ามชาติต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการเจริญเติบโตในทวีปเอเชีย เช่นเดียวกับบริษัทต่างๆในเอเชียที่ต้องการขยายไปทั่วโลก
ทางด้าน นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “ความร่วมมือของกลุ่มพันธมิตรในระยะยาวครั้งนี้ ส่งผลให้เอไอเอสสามารถยกระดับและเรียนรู้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการนำเสนอบริการที่ดีกว่า และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ M2M ในระดับภูมิภาค หรือแม้แต่ระดับโลกได้ ซึ่ง M2M ถือเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่จะทำให้พวกเรากลุ่มสมาชิกมีการเจริญเติบโต อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีความได้เปรียบในตลาดระดับภูมิภาค และทำให้ลูกค้าของเราสามารถก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค และมีบริการที่เป็นเลิศได้”