ฟุตบอลโลกถือเป็นหนึ่งในกีฬายอดนิยมที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก กำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายนที่จะถึงนี้ และเป็นเรื่องปกติแล้วที่จะได้เห็นคนทำงานตั้งตารอดูศึกฟุตบอลโลกตลอด 1 เดือนที่จะมีการถ่ายทอด ยิ่งเวลาถ่ายทอดในปีนี้ค่อนข้างดึก บางนัดไปแข่งขันต้องช่วงเช้าตรู่ หลายบริษัทอาจต้องปวดหัว กับการที่พนักงานอาจต้องนั่งทำงานด้วยความง่วงงุน หรืออาจต้องส่งใบลาเพราะไปทำงานไม่ไหว
กล่มบริษัทอเด็คโก้ ประเทศไทย โดย ธิดารัตน์ กาญจนวัฒน์ ผู้อานวยการส่วนภูมิภาคไทยและเวียดนาม มีคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการวา ให้ผู้บริหารองค์กร มาตรการทำอย่างไร ให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้ พนักงานก็มีความสุข
ก่อนอื่นเลย อเด็กโก้ มองว่า การจะสร้าง “ความได้เปรียบในการแข่งขัน” ได้นั้น การสร้างความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งองค์กรหลายแห่งเชื่อมโยงความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรกับปัจจัยต่างๆ เช่น ผลการปฏิบัติงานของพนักงาน ความพึงพอใจของลูกค้า ความสามารถในการทำงาน การขาดงาน จำนวนการเข้าออก นอกจากนี้ ผลศึกษาล่าสุดของเฮย์กรุ๊ป ยังพบว่า หนึ่งใน 6 ปัจจัยที่มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของธุรกิจ คือ “ความเป็นปัจเจกบุคคล” หมายถึงความมีอิสระในการการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างที่พนักงานแต่ละคนคาดหวังจะได้รับจากบริษัท ซึ่งแนวโน้มนี้กระทบอย่างมหาศาลต่อ “ความจงรักภักดี” มีให้องค์กร และเป็นแรงจูงใจในการทำงาน นอกเหนือจากเรื่องอื่นๆ อย่างค่าตอบแทน
สอดคล้องกับ ผลสำรวจของสมาคมบริหารทรัพยากรบุคคล ในปี 2012 ที่ระบุวา 87% ของพนักงาน คิดว่าความยืดหยุ่นในการทำงานสำคัญอย่างยิ่งในการหางานใหม่
กลุ่มบริษัทอาดิดาส แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องกีฬา และสปอนเซอร์หลักของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ซึ่งยอมรับว่าได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่จากฟุตบบอลโลกที่กำลังจะมีขึ้น แต่เขาเลือกที่จะให้อิสระกับพนักงานในการเลือกวิธีที่ดีที่สุดในการทำงานให้ก้าวหน้า ด้วยระบบการทำงานที่มีความยืดหยุ่น โดยที่พนักงานทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก ยังสามารถสนุกกับการชมการแข่งขันได้ทุกคน
อย่างแรก- ยืดหยุ่นเรื่องเวลาทำงาน
– การให้พนักงานใช้วันลาหยุดประจำปีในช่วงที่มีถ่ายฟุตบอลโลก โดยอาจให้ใช้นโยบาย “ใครส่งใบลาก่อน ก็ลาได้ก่อน” วิธีนี้จะช่วยให้สามารถควบคุมจำนวนพนักงานที่น้อยที่สุดในการดำเนินงานไวได้ และยังได้เปิดโอกาสให้พนักงานใช้เวลาชมการแข่งขัน หรือ ร่วมฉลองชัยได้
– ปรับเวลาทำงาน เช่น วันไหนมีแข่งขันตอนตีสอง ปรับเวลาทำงานให้มาทำงานตอนบ่ายโมง และทำงานจนถึงสามทุ่มได้
เมื่อบริษัทออกนโยบายยืดหยุ่นเรื่องเวลาทำงาน ก็จำเป็นต้องมีการกำหนด “ระเบียบและขั้นตอน” และต้องสื่อสารเรื่องนโยบายต่างๆ ของบริษัทอย่างชัดเจนว่า อะไรคือสิ่งที่พนักงานสามารถทำได้ และทำไม่ได้ เพราะจะนำไปสู่ความรับผิดชอบ พนักงานจะเข้าใจขอบเขต และความคาดหวังของบริษัท จะได้มีการเตรียมพร้อมที่ดี ในช่วงที่ไม่อยู่ในที่ทำงาน
เช่น แจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าว่า เวลาไหนสามารถติดต่อได้ และกำหนดผู้สามารถรับผิดชอบงานแทนในช่วงที่ไม่อยู่ เป็นต้น
สอง – จัดปาร์ตี้เสริมความสัมพันธ์ ใช้โอกาสของฟุตบอลโลกเสิรมสร้างความสนิทสนมให้พนักงาน เช่น หากมีการแข่งขันช่วงหัวค่ำ ถือโอกาสจัด “ปาร์ตี้” ให้พนักงานได้ร่วมชมการแข่งขันร่วมกัน เพื่อให้พนักงานได้มีกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ร่วมกันนอกเวลางาน
สาม – จัดกิจกรรมทายผลฟุตบอล อีกวิธีใช้เสริมสร้างความสัมพันธ์ คือ การเปิดโอกาสให้พนักงานร่วมทายผลการแข่งขัน ทีมไหนจะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ หรือให้พนักงานร่วมโหวดคะแนนให้ทีมโปรดของพวกเขา ของรางวัลที่มอบให้ มีตั้งแต่ บัตรกำนัลไปจนถึงวันลาหยุดเพิ่มเติม
จุดประสงค์หลักของกิจกรรมเหล่านี้ คือ การให้พนักงานได้รับรุ้ว่า บริษัทใส่ใจเรื่องสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตของพวกเขา ไมได้สนใจแค่เรื่องตัวเลข ผลกำไรขาดทุน เพื่อสร้างความผูกพันและความรู้สึกดีๆ ให้บริษัทมากขึ้น เกิดความจงรักภักดี และกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้น