เมจิ บัลเกเรียปลุกกระแส “โยเกิร์ตเจมส์จิ” คัมแบ็ค

หลังจากที่ซีพีเมจิได้ส่ง “เมจิ บัลเกเรีย” ลงในตลาดโยเกิร์ต เมื่อช่วงไตรมาสสามของปีที่แล้ว ครั้งนั้น ซีพี-เมจิ งัดกลยุทธการตลาดแบบครบเครื่อง

วางจุดยืนของสินค้าให้เป็นโยเกิร์ตระดับพรีเมียม เน้นตัวโยเกิร์ต ที่ไม่ใส่ส่วนผสมที่เป็นผลไม้ และออกแบบแพคเกจจิ้งเป็นถาดแนวนอน เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด

ขณะเดียวกันก็ใช้ความฮอตของซุปตาร์ “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างความจดจำ จนบางคน เรียกว่า “โยเกิร์ต เจมส์จิ

ประกบด้วยแคมเปญแรงๆ จากเซเว่น อีเลฟเว่น ช่องทางขายสำคัญ ด้วยการซื้อเมจิ บัลเกเรีย 2 ถ้วย ได้รับสแตมป์รักเมืองไทยจำนวนถึง 9 ดวง ทำเอาเมจิ บัลเกเรีย

กลยุทธครั้งนี้ ทำเอาขายดีถึงกับขาดตลาด

โดยที่ในช่วงที่จัดแคมเปญสแตมป์รักเมืองไทยนั้น เมจิ บัลเกเรียมียอดขายสูงที่สุดถึงวันละ 300,000 ถ้วย ซึ่งในปัจจุบันมียอดขายเฉลี่ยวันละ 80,000-100,000 ถ้วย

หลังจากว่างเว้นการออกแคมเปญมาได้พักใหญ่ ซีพี เมจิ ใช้โอกาสครบรอบ 1 ปี นำกระแส“เจมส์จิ” ให้กลับมาอีกครั้ง  ด้วยออกโปรโมชั่นชิงรางวัล “อร่อยทุกวัน ลุ้นไปเที่ยวด้วยกันกับเมจิ บัลเกเรีย” ให้ผู้ซื้อร่วมสนุกลุ้นรหัสใต้ฝาเมจิ บัลเกเรีย ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับเจมส์จิ

สุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวว่า จากกระแสการดูแลสุขภาพทำให้คนหันมาบริโภคโยเกิร์ตมากขึ้น แต่การบริโภคโยเกิร์ตของคนไทยอยู่เพียงแค่ 3 กิโลกรัม/คน/ปี เท่านั้น ถือว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับบางประเทศ

ซีพีเมจิ มองเห็นโอกาส ในการผลักดันให้คนหันมาบริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะโยเกิร์ตรสธรรมชาติ  ที่คนไทยยังไม่นิยมมากนัก เพราะดูจากสูตรกลมกล่อม บรรจุภัณฑ์สีเขียว เป็นสูตรที่ปรับเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ขายดีมากกว่าสูตรธรรมชาติ บรรจุภัณฑ์สีน้ำเงิน

แคมเปญครั้งนี้ จึงต้องการผลักดัน สูตรธรรมชาติ ซึ่งจะให้ประโยชน์มากกว่า เป็นหลัก ด้วยการแนะวิธีกินคู่กับผลไม้ น้ำผึ้ง หรือซีเรียล

ส่วนการทำแคมเปญชิงโชคก็สามารถดึงดูดได้ส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะ เรื่องท่องเที่ยวก็เป็นกิจกรรมที่คนไทยชอบอยู่แล้ว

แคมเปญนี้จะใช้งบการตลาดทั้งงหมด 50 ล้านบาท สื่อออนไลน์ หรือเป็นการโปรโมทผ่าน Influencer บนโลกออนไลน์ด้วย เพื่อแชร์สูตรการกินเมจิ บัลเกเรียคู่กับท้อปปิ้งอะไร

ซีพี เมจิตั้งเป้ารายได้เติบโตจากแคมเปญนี้ 30-40% หรือประมาน 2 แสนถ้วย/วัน และคิดเป็นรายได้รวมในสิ้นปีนี้ 600-700 ล้านบาท รวมทั้งตั้งเป้าการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 15% จาก 10% ในปีที่แล้ว

ส่วนตลาดรวมของโยเกิร์ตในสิ้นปี 57 คาดว่าจะเติบโต 5.5% และมีมูลค่าตลาดรวมที่ 4,800 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมในปี 2556 ที่ 4,500 ล้านบาท