LINE จัดงานสัมมนาเชิงธุรกิจครั้งที่ 2 ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ

LINE ประเทศไทย จัดงานสัมมนาเชิงธุรกิจครั้งที่ 2 (ฺฺBusiness Seminar) ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์มบนมือถือสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ในประเทศไทย และเพื่อเล่าถึงความสำเร็จของพันธมิตรทางธุรกิจในการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดผ่าน LINE โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจร่วมงานกว่า 500 คน ปัจจุบัน LINE มีผู้ใช้มากกว่า 29 ล้านคนในประเทศไทย และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ภายในงานสัมมนา LINE ได้บรรยายถึงความสำเร็จในการเป็นมากกว่าแชทแอพพลิเคชั่น โดยยกตัวอย่าง การใช้ฟีเจอร์และบริการออฟฟิเชียลแอคเคาท์ของพันธมิตรอย่าง Big C, Tesco Lotus, Bar B Q Plaza และ Power Buy เพื่อยืนยันถึงการเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ

LINE ได้นำเสนอกรณีศึกษาต่างๆ เกี่ยวกับการทำการตลาดของพันธมิตรโดยใช้ฟีเจอร์และบริการต่างๆ ของ LINE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น ฟีเจอร์ Rich Message ที่ผู้ใช้สามารถคลิกที่ข้อความเพื่อลิงค์ไปยังเว็บไซต์ หรือรายละเอียดเแคมเปญเพิ่มเติม ซึ่งฟีเจอร์นี้ทำให้พันธมิตร เช่น BIG C สามารถเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้เพิ่มขึ้นถึง 350 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งมีผู้ที่สนใจโทรสอบถามโปรโมชั่นกับทาง Call center เพิ่มสูงเกิน 2,000 เปอร์เซ็นต์ สำหรับออฟฟิเชียลแอคเคาท์ของ Power Buy มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่มาจาก LINE สูงถึง 54 เปอร์เซ็นต์ และยังเพิ่มฐานลูกค้า วัยรุ่นอายุ 18 – 34 ปี มากขึ้นอีกด้วย ส่วนออฟฟิเชียลแอคเคาท์ของ Tesco Lotus ปล่อยโปรโมชั่นลดราคาทีวีผ่าน Rich Message มียอดคลิกเข้าไปดูรายละเอียด 3.6 เปอร์เซ็นต์และ 13 เปอร์เซ็นต์ของผู้คลิกซื้อสินค้า ซึ่งภายใน 1 ชั่วโมง  มียอดขายของทีวี LED 42 นิ้วเพิ่มขึ้น 400 เปอร์เซ็นต์และทีวี LED 55 นิ้วเพิ่มขึ้น 1,000 เปอร์เซ็นต์ ถือว่า LINE ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เข้าถึงลูกค้ารวมถึง ขยายฐานกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น และยังเพิ่มยอดขายให้แบรนด์อีกด้วย

นอกจากฟีเจอร์และบริการออฟฟิเชียลแอคเคาท์ LINE ยังมีเครื่องมือการตลาดที่โดดเด่นอย่างสติกเกอร์ ซึ่งถือว่าช่วยสร้างการจดจำให้กับแบรนด์เป็นอย่างดี และยังเป็นเครื่องมือในการเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์อีกด้วย อย่าง

Bar B Q Plaza ที่แจกสติกเกอร์บาร์บีกอนให้กับลูกค้าที่สั่งชุดอาหารของทางร้าน โดยสติกเกอร์สามารถช่วยเพิ่มยอดขาย เกินกว่าที่ตั้งไว้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์และเพิ่มลูกค้าใหม่ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสติกเกอร์ไม่เพียงเพิ่มความสนุก แต่ยังช่วยให้แบรนด์มียอดขายและลูกค้าเพิ่มขึ้น

งานสัมมนาครั้งนี้ LINE ประเทศไทยยังแนะนำถึงเครื่องมือทางการตลาดใหม่ที่จะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับแผนการตลาดอีกด้วย อย่าง Animated sticker  หรือสติกเกอร์ดุ๊กดิ๊กที่ AIS  และ Oppo ปล่อยให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเมื่อไม่นานมานี้ และยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Free Coin หรือการแจกเหรียญฟรี ซึ่งเจ้าของแอพพลิเคช่ันจะแจกเหรียญฟรีให้กับผู้ที่ดาวน์โหลดและติดตั้งแอพนั้นๆ ปัจจุบัน LINE ได้เพิ่มฟังค์ชั่นให้กับแบรนด์ต่างๆ ในการเลือกโปรโมทออฟฟิเชียลแอคเคาท์หรือคลิปวิดีโอ คลิปโฆษณาของแบรนด์ โดยแจกเหรียญฟรีให้เพื่อนที่คลิกตามออฟฟิเชียลแอคเคาท์หรือแจกให้ผู้ที่คลิกดูคลิปโฆษณา คลิปวิดีโอของแบรนด์ เพื่อให้แบรนด์ได้เข้าถึงลูกค้าได้ใกล้มากขึ้น

LINE ประเทศไทย ขอแสดงความขอบคุณจากใจ สำหรับความร่วมมืออันดีจากบริษัทพันธมิตรทางธุรกิจที่มีโอกาสได้ร่วมงานกัน ทั้งนี้ LINE จะยังคงสร้างความสัมพันธ์อันดีอย่างต่อเนื่อง และจะพยายามตอกย้ำถึงจุดยืนของบริษัทในการสร้างโอกาสทางธุรกิจนี้ต่อไป โดยใช้การสื่อสารที่สนุกสนาน เป็นมิตร คาแรกเตอร์ที่โดดเด่น การสื่อสารผ่านออฟฟิเชียลแอคเคาท์ รวมถึงฟีเจอร์และบริการต่างๆ ที่เป็นจุดแข็งของ LINE เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น