เอพี-มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มั่นใจศักยภาพ-โอกาสอสังหาฯ ไทยบูม ตอบรับการขยายตัวของเมืองตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ลั่นเปิดคอนโดใหม่ล่าสุด 1 ก้าวจาก BTS ตลาดพลู ภายใต้โปรเจคร่วมทุนโครงการที่ 4 ตอกย้ำการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาว และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกันเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมส่ง Aspire สาทร – ท่าพระ คอนโดสำหรับคนเมืองที่ผสานการดีไซน์สถาปัตยกรรม และพื้นที่ส่วนกลางสไตล์ญี่ปุ่น ตอบรับทุกมิติความต้องการการใช้ชีวิต ด้วยทำเลที่ดีที่สุด เพียง 1 ก้าวจาก BTS ตลาดพลู ราคาเริ่มต้น 1.98 ล้านบาท พร้อมเปิดขายรอบพิเศษสำหรับลูกค้าลงทะเบียน www.apthai.com 27 – 28 กันยายนนี้
คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำการพัฒนาคอนโดมิเนียมสำหรับคนเมืองเผยว่า จากภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยครึ่งปีหลัง 2557 ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนอานิสงค์เส้นทางการเดินรถไฟฟ้าเชื่อมต่อระหว่างสาทรไปยังฝั่งธนบุรี ส่งผลให้ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมย่านดังกล่าวมีดีมานด์ที่สูงขึ้น ดังนั้น เอพี-มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป พร้อมต่อยอดองค์ความรู้จากการทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมที่โดดเด่น ทั้งด้านโลเคชั่นที่ดีที่สุดในย่านฝั่งธนฯ และดึงเสน่ห์การดีไซน์สไตล์ญี่ปุ่น เพื่อสร้างเอกลักษณ์ทั้งมิติด้านฟังก์ชั่นและเติมเต็มมิติด้านสุนทรียศาสตร์ในพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมตอบทุกความต้องการการใช้ชีวิตของคนเมือง
ด้าน มร.โชจิโร่ โคจิม่า กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย ในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป หนึ่งในบริษัทฯ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น เผยว่า บริษัทฯ วางการลงทุนในต่างชาติคิดเป็นสัดส่วน 16% ของการลงทุนทั่วโลก โดยประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจากการร่วมทุน 3 โครงการก่อนหน้ากับเอพี มูลค่าโครงการรวม 7,250 ล้านบาทนั้น ได้ประสบความสำเร็จทางยอดขายตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ตลอดจนการศึกษาตลาดอสังหาฯ ในไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้พบลักษณะไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ ที่คล้ายคนโตเกียว คือ ลักษณะครอบครัวขนาดเล็ก ประกอบกับการขยายตัวของเมือง (Urbanization) และการขยายของเส้นทางรถไฟฟ้า ทำให้มั่นใจในโอกาสของสินค้าคอนโดมิเนียม ซึ่งนับว่าเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ ในเอเชียแล้ว ศักยภาพและผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ อีกทั้งการร่วมงานกับเอพีที่มีความเป็นมืออาชีพและบรรษัทภิบาลเป็นปัจจัยสำคัญในการเดินหน้าร่วมทุนพร้อมพัฒนาโครงการสู่การเติบโตไปด้วยกันระยะยาว
“คีย์ไฮไลท์การพัฒนาโครงการ Aspire สาทร-ท่าพระ เป็นการต่อยอดองค์ความรู้ทั้งด้านการวางระบบบริหารจัดการโครงการ การก่อสร้าง ตลอดจนการร่วมวางคอนเซ็ปต์โครงการ โดยทีม AP Product Development และทีมสถาปนิกและดีไซเนอร์จาก Mitsubishi Jisho Sekkei บริษัทสถาปนิกชั้นนำในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ได้แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์ความรู้ร่วมกัน และทีม AP Product Development ได้ออกแบบคอนเซ็ปต์โครงการโดยนำองค์ความรู้การดีไซน์ของญี่ปุ่นและความรื่นรมย์ของธรรมชาติผสานในทุกรายละเอียดของงานสถาปัตยกรรมและพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้เป็นโครงการพักอาศัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พรั่งพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลาย มาประยุกต์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนไทยได้อย่างลงตัว” คุณวิทการ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับโครงการดังกล่าว ตั้งอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู บนพื้นที่ประมาณ 5-1-20.4 ไร่ จำนวน 1 อาคาร สูง 30 ชั้น มูลค่า 3,300 ล้านบาท ภายในโครงการได้ดึงเสน่ห์การออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น ที่ครบครันทั้งมิติฟังก์ชั่นการใช้งานจริง และผสานความร่วมสมัยในทุกรายละเอียดตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ล็อบบี้ และพื้นที่ส่วนกลาง อาทิ หลัก “PASS THROUGH” การออกแบบประตูทางเข้าโครงการทอดยาวแบบซุ้มประตูญี่ปุ่น ปราการป้องกันความวุ่นวายจากภายนอก “INTERLOCK – IN & OUT VISION” การดีไซน์ทางเดินสู่ภายในที่ถูกร้อยเรียงกับธรรมชาติ พร้อมเพิ่มมิติมุมมองของทางเดินเพื่อให้เป็นทางเดินที่สร้างสุนทรีย์แก่ผู้อาศัย และ “ENGAWA” หนึ่งในการออกแบบบริเวณล็อบบี้ที่ก่อให้เกิดการเชื่อมโยงพื้นที่ภายนอกและภายในให้มีความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องกัน ผู้อาศัยสามารถสัมผัสความรู้สึกโปร่งสบายใกล้ชิดธรรมชาติ สร้างความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ Aspire สาทร-ท่าพระ ได้รับการจัดสรรเป็นส่วนห้องพักอาศัย จำนวน 1,219 ยูนิต โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 1.สตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 23.5 ตารางเมตร 2.ห้องชุด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.5–30.5 ตารางเมตร และ 3.ห้องชุด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 38-46 ตารางเมตร โดยทุกยูนิตได้รับการจัดสรรสเปซภายในอย่างเป็นสัดส่วน ด้วยพื้นที่ครัวติดอากาศและแยกพื้นที่การใช้งานส่วนเปียกและแห้งอย่างเป็นสัดส่วน พร้อมตอบรับทุกการเดินทางของการใช้ชีวิตในเมือง ด้วยทำเลที่ตั้งบนถนนราชพฤกษ์ เพียง 1 ก้าวจาก BTSสถานีตลาดพลู และ BRT ราชพฤกษ์ แวดล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก อาทิ The Mall ท่าพระ The Circle และ Asiatique ในราคาเริ่มต้น 1.98 ล้านบาท พร้อมเปิดขายรอบพิเศษสำหรับลูกค้าลงทะเบียน www.apthai.com 27 – 28 กันยายนนี้
และสำหรับอีเว้นท์ใหญ่ก่อนส่งท้ายปี เอพีเตรียมจัดงาน AP SPACE ODYSSEY ณ ลานพาร์คพารากอน ระหว่างวันที่ 22 – 26 ตุลาคม 2557 นำเสนอ 8 วิธีคิดการออกแบบสเปซจาก 8 โครงการใหม่ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน และไฮไลท์ SPACE CAPSULE กับการถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ชีวิต คนเมืองในมุมมองที่ไม่ซ้ำใคร ผ่านการนำเสนอในรูปแบบมัลติมีเดีย โดย AP SPACE ODYSSEY ได้รับการออกแบบโดย คุณปิตุพงษ์ เชาวกุล สถาปนิกผู้สร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นจาก Supermachine Studio เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คสำคัญตั้งตระหง่านใจกลางลานพาร์คพารากอน
เกี่ยวกับบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน)
บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ MEC หนึ่งในผู้นำการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในประเทศญี่ปุ่น มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว MEC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว พ.ศ. 2496 ดำเนินงานครอบคลุมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโครงการที่อยู่อาศัย (Residential Properties) ธุรกิจโครงการสำนักงาน (Office Buildings) ธุรกิจศูนย์การค้า (Retail Properties) และธุรกิจโรงแรม (Hotel Business) ซึ่งทุกโครงการมีความโดดเด่นในด้านคุณภาพ การออกแบบสถาปัตยกรรมและการบริหารพื้นที่ใช้สอยอย่างยั่งยืน โดยทีมออกแบบ ทีมควบคุมคุณภาพ และทีมสถาปนิกในเครือบริษัท Mitsubishi Jisho Sekkei Inc. (MJS) ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและบริหารอสังหาริมทรัพย์
ผลงานที่เห็นได้อย่างชัดเจนในกรุงโตเกียว คือ การพัฒนาโครงการสำนักงานกว่า 30 โครงการ และเป็นผู้พัฒนาเขตธุรกิจสำคัญใจกลางโตเกียว เช่น เขต Marunouchi มานานกว่า 120 ปี โดย Marunouchi เป็นเขตธุรกิจสำคัญที่มีครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,200,000 ตารางเมตร (120 hectares) ประกอบด้วยอาคารสำนักงานกว่า 100 อาคาร จำนวนกว่า 4,000 บริษัท และมีพนักงานกว่า 230,000 คน นอกจากนี้ MEC ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 50 ปี อีกทั้งยังเข้าลงทุนพัฒนาโครงการในหลายๆ ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และประเทศในกลุ่มเอเชีย โดยการดำเนินงานผ่านบริษัท MEA ประเทศสิงค์โปร์