จากแนวคิด Internet for All ของ “ดีแทค” ที่ตั้งเป้าว่าภายในปี 2017 ลูกค้าดีแทคจำนวน 80% จะต้องใช้อินเตอร์เน็ต จากปัจจุบันที่มีการใช้อินเตอร์เน็ตหรือดาต้าจำนวน 40% เท่านั้น จึงเป็นที่มาของการที่ดีแทคต้องการกระตุ้นการใช้ดาต้าของผู้บริโภค ซึ่งจากอินไซต์ของผู้บริโภคเองนั้น คนส่วนใหญ่กว่า 80% ที่เริ่มมีการใช้ดาต้าเพราะใช้เฟซบุ๊กก่อน
ประกอบกับทางเฟซบุ๊กเองที่มีแนวคิดคล้ายๆ กัน โดยที่เฟซบุ๊กก็เป็นหนึ่งในองค์กร NGO หรือองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ในชื่อว่า internet.org เป็นการร่วมมือกันอีก 6 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในวงการไอที ได้แก่ Ericsson, Mediatek, Opera, Samsung, Nokia และ Qualcomm เพื่อสร้างโอกาสให้กับประชากรทั่วโลกได้เข้าถึงอินเตอร์เน็ต
การจับมือกันเป็นพันธมิตรระหว่างเฟซบุ๊คและแฮปปี้จึงเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ หลังจากที่เป็นพาร์ทเนอร์กันมาตั้งแต่ปี 2009 แต่ในรูปแบบของการออกแพ็คเกจมากกว่า ในครั้งนี้ถือว่าแฮปปี้เป็นพันธมิตรของเฟซบุ๊ครายแรกในประเทศไทย และเป็นพันธมิตรรายที่ 6 ของโลก ซึ่งประเทศอื่นๆ ที่ผ่านมา ได้แก่ ฟิลิปินส์ และซิมบับเว เป็นต้น ล้วนเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ และการใช้อินเตอร์เน็ต
ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคตั้งใจกระตุ้นยอดดาต้า และให้ลุกค้าเก่าใช้งานเพิ่มมากขึ้น เน้นให้แบรนด์แฮปปี้เป็นหลัก เพราะระบบเติมเงิน(Prepaid) มีการใช้ดาต้าเพียง 30% จากจำนวนลูกค้ากว่า 24.4 ล้านเลขหมาย โดยตั้งเป้าให้มีการใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในสิ้นปี 2015 ในขณะที่ระบบรายเดือน (Postpaid) มีการใช้แพ็คเกจอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว และมีการใช้ดาต้าจำนวน 80% จากจำนวนลูกค้า 3.5 ล้านเลขหมาย ในแคมเปญนี้ลูกค้าใหม่ที่เปิดซิมแฮปปี้จะได้เล่นเฟซบุ๊คฟรี 6 เดือนแล้ว ลูกค้าจะได้ประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีขึ้น เพราะจะมีการแจ้งเตือนเมื่อมีการเปิดลิงค์ออกนอกเฟซบุ๊ค ที่มีปัญหาทำให้การใช้งานรั่วไหล และเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการเพิ่ม Feeling Happy เข้าไปในสเตตัสบนเฟซบุ๊ค ซึ่งจะขึ้นเป็นตัวโลโก้ของแฮปปี้ สามารถสร้างมูลค่าให้แบรนด์แฮปปี้เพิ่มขึ้นไปอีกด้วย”
ซึ่งดีลนี้ถือว่า Win-win กันทั้งสองฝ่าย ทำให้เฟซบุ๊คสามารถลดค่าใช้จ่ายสำหรับการทำแคมเปญ internet.org ในการเพิ่มพื้นที่การใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย โดยที่นอกจากทางดีแทคจะมีทีมงาน “เน็ตอาสา” ในการลงพื้นที่เพื่อสอนการใช้งานอินเตอร์เน็ตแก่ชาวต่างจังหวัดแล้ว ดีแทคยังเสริมเรื่อง Digital Economy หรือสอนการทำธุรกิจบนเฟซบุ๊ค ที่ยังไงแล้วนอกจากผู้ประกอบการจะได้รายได้ที่เพิ่มขึ้น ทางเฟซบุ๊คก็ได้รายได้จากค่าโฆษณาเช่นเดียวกัน