ใน 1-2 ปีที่ผ่านมาเราคงได้เห็น “ชานมไข่มุก” กลับมาฟีเวอร์อีกครั้ง พร้อมทั้งมีแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้น และยึดหัวหาดอยู่ทั่วห้างสรรพสินค้า ซึ่งในปัจจุบันตลาดชานมไข่มุกก็ยังคงมีอัตราการเติบโตสูงอยู่ เพราะผู้บริโภคยังนิยมดื่มอย่างต่อเนื่อง
โอกาสที่ว่านี้จึงไปเตะตา “ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก” ในฐานะบริษัทลูกของ “ปตท.” ที่บริหารแบรนด์ร้านสะดวกซื้อ “Jiffy” และพื้นที่ร้านค้าปลีกภายในปั้มปตท. จึงปั้น “ชานมไข่มุก” แบรนด์ “Pearly Tea” เพื่อเสริมทัพธุรกิจค้าปลีก โดยได้ทำการสร้างแบรนด์มาแล้วกว่า 2 ปี
จักรกฤช จารุจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจชานมไข่มุกยังคงเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็อาศัยทำเลในห้างสรรพสินค้าทั้งสิ้น เราจึงใช้จุดแข็งจากการมีพื้นที่ปั้มปตท.กว่า 1,400 แห่ง ในการเข้าไปบุกตลาด ซึ่งตอนนี้ได้เปิดไปแล้ว 150 แห่งที่เป็นปั้มที่อยู่ในความดูแลของปตท.ค้าปลีกโดยตรง เมื่อแบรนด์เป็นที่รู้จักทั่วไปแล้ว เราก็จะทำการขายแฟรนไชส์
ส่วนเหตุผลที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเพื่อสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภค เพราะแน่นอนว่าในปตท.มีร้านกาแฟอเมซอนอยู่ทุกที่ แต่คนที่เข้าปตท. 100 คน จะเข้าอเมซอน 20 คน ใน 80 คนที่เหลือเขามองหาตัวเลือกอื่นในการเลือกรับประทาน ชานมไข่มุกจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เขาสำหรับคนไม่ดื่มกาแฟ
ในครั้งนี้แผนการปั้มชานมไข่มุก Pearly Tea จึงเจริญรอยตามรุ่นพี่อย่างร้านกาแฟอเมซอน โดยที่ปตท.ได้ปลุกปั้นร้านกาแฟ “อเมซอน” มาเป็น 10 ปี จนเป็นที่ติดตลาด โดยเริ่มต้นจากพื้นที่ที่ตนเองมีอยู่นั่นคือในปั้มปตท. จนอเมซอนกลายเป็นแลนด์มาร์กประจำปตท.ที่ต้องติดตามไปทุกที่ที่มีการเปิดสาขาใหม่ จากนั้นจึงขยายธุรกิจต่อด้วยการขายแฟรนไชส์ไปสถานที่อื่น ปัจจุบันมีกว่า 1,000 สาขา
ในปี 2558 ปตท. ค้าปลีกจะเน้นการทำตลาดสำหรับ Pearly Tea เป็นพิเศษ เพื่อตอบรับกับการแข่งขันดุเดือดในตลาด พร้อมทั้งปั้นแบรนด์เพื่อให้ติดตลาดเหมือนอย่างอเมซอน โดยที่จะมีโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการรับรู้จากผู้บริโภค