เจ. วอลเตอร์ ธอมสัน บริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสารการตลาดระดับโลกในเครือดับบลิวพีพี กรุ๊ป ได้พยากรณ์ทิศทางการตลาด“10 Years of 10 Trends” หรือ 10 แนวโน้มที่จะส่งผลในระดับมหภาคที่สำคัญที่สุด ที่จะหล่อหลอมพฤติกรรมและทัศนคติทางสังคมรวมไปถึงจะกำหนดทิศทางธุรกิจในปัจจุบัน โดยแนวโน้มเหล่านี้ได้มีการพัฒนาจนถึงปัจจุบันได้อย่างไร และมุ่งหน้าไปในทิศทางใดต่อไป รวมทั้งส่งผลต่อแง่มุมของการใช้ชีวิตของผู้บริโภค และการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ต่างๆ ต่อเนื่องอีกหลายปี
10 Years of 10 Trends
1. Everything Is Retail (จากรายงานฉบับ 10 Trends for 2013) :
ทุกสิ่งอย่างจะเป็นช่องทางเพื่อการค้าปลีกเนื่องจากมีการเชื่อมต่อของโทรศัพท์มือถือที่รวมการเชื่อมโยงระหว่างโลกดิจิตอลและโลกฟิสิคอลไว้ด้วยกัน และแบรนด์ต่างๆ ได้หาหนทางหลอมรวมโอกาสของการค้นพบสิ่งใหม่ๆ และการซื้อขายเข้าไว้ด้วยกันอีกด้วย
2. Food as the New Eco-Issue (จากรายงานฉบับ 10 Trends for 2012) :
“ความยั่งยืน” กำลังกลายเป็นคำที่นิยมกันมากในวงการอาหาร เนื่องจากในปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคที่มีการศึกษาดีได้มีความเข้าใจดียิ่งขึ้นว่าอาหารที่เลือกรับประทานจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร รวมไปถึงผู้บริโภค แบรนด์ต่างๆ และภาครัฐจะขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงในทิศทางบวกได้อย่างไรบ้าง
3. Mobile Device as the Everything Hub (จากรายงานฉบับ 10 Trends for 2009) :
โทรศัพท์มือถือรวมไปถึงอุปกรณ์การสื่อสารเคลื่อนที่ต่างๆ เป็น “ศูนย์รวมของทุกอย่าง” อย่างแท้จริง เนื่องจากสิ่งต่างๆ ได้เข้าสู่รูปแบบดิจิตอลหรือเชื่อมต่อมากยิ่งขึ้น และผู้คนเริ่มหันมาใช้หน้าจอที่เล็กลงในการรับชมวีดีโอ จับจ่ายใช้สอย ซื้อของ ติดตามดูสุขภาพของตนเอง รวมถึงเรียนรู้ เล่นสนุก และอื่นๆ อีกมาก
4. Going Private in Public (จากรายงานฉบับ 10 Trends for 2013) :
ความเป็นส่วนตัวกลายเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนต่างพยายามดิ้นรนหาทางรักษาอัตลักษณ์ของตนเองบนโลกดิจิตอลให้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ
5. Buying the Experience (จากรายงานฉบับ 10 Trends for 2007) :
เนื่องจากมีความต้องการมากขึ้นในการ “ลงมือทำ” แทนที่จะเพียงแค่ “มี” ผู้บริโภคต่างพากันเสาะหาประสบการณ์ที่สดใหม่ แบ่งปันได้ และขยายความได้มากยิ่งขึ้น
6. De-teching (จากรายงานฉบับ 10 Trends for 2011) :
ในขณะที่ผู้คนต่อสู้และดิ้นรนอยู่กับบทบาทชีวิตของตนเองบนเทคโนโลยี ซึ่งตระหนักได้ว่าผลกระทบด้านลบจะครอบงำผลกระทบในด้านบวกหากเราไม่หาวิธีที่จะใช้มันอย่างระมัดระวัง
7. Predictive Personalization (จากรายงานฉบับ 10 Trends for 2013) :
การวิเคราะห์อภิมหาข้อมูล (Big Data)รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) และบรรดาเทคโนโลยีใหม่ๆ กำลังสร้างสรรค์วิธีการที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อที่จะคาดเดาและตอบสนองความต้องการของปัจเจกบุคคล
8. Queen Trumps King (จากรายงานฉบับ 10 Trends for 2008) :
ผู้หญิงกำลังก้าวไปข้างหน้า อันเนื่องมาจากพลวัตเรื่องเพศได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และในทางวัฒนธรรม อีกทั้งคนทุกเพศยังมีความมุ่งมั่นอย่างแรงแรงกล้าที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
9. Retooling for an Aging World (จากรายงานฉบับ 10 Trends for 2010) :
ผลกระทบเต็มรูปแบบของลักษณะประชากรที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากยุคประชากรหนุ่มสาวไปสู่ยุคประชากรสูงอายุอาจยังไม่ส่งผลให้รู้สึกได้ชัดเจนนัก แต่แบรนด์ต่างๆ ยังต้องปรับตัวเป็นอย่างมากเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคที่สูงวัยขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังรีแบรนด์เรื่องการสูงวัยด้วยเช่นกัน
10. Cooperative Consumption (จากรายงานฉบับ 10 Trends for 2008) :
เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (sharing economy) มีการเติบโตขึ้น และในขณะเดียวกันผลสะท้อนรุนแรงมากขึ้นด้วยเช่นกัน แม้ว่าโมเดลธุรกิจแบบใหม่นี้ได้คุกคามบางแบรนด์ แต่ยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่กำลังหาวิธีสุดสร้างสรรค์เพื่อใช้ประโยชน์จากโมเดลธุรกิจนี้
ที่มา : สำหรับรายงานฉบับนี้ เจดับบลิวที อินเทลลิเจนซ์ ได้ดำเนินการสำรวจวิจัยเชิงปริมาณทั่วทั้ง 12 ตลาดเมื่อช่วงวันที่ 20 กันยายน – 3 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยใช้ SONAR™ ซึ่งเป็นเครื่องมือออนไลน์กรรมสิทธิ์ของเจดับบลิวที เพื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวนทั้งหมด 6,063 คนในประเทศออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน โคลอมเบีย กรีซ อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น ไทย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้รายงานยังครอบคลุมข้อมูลที่ได้รับจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายท่านจากทุกภาคส่วนด้วย