โอลิมปัสเปิดตัวนวัตกรรมใหม่อย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วโลก เทคโนโลยีสุดล้ำแห่งกล้องแบบมิเรอร์เลสและเลนส์ชนิดเปลี่ยนได้

โอลิมปัสเปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดแห่งการถ่ายภาพ ด้วยกล้องมิเรอร์เลสรุ่น “OM-D E-M5 Mark II” ที่มาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบห้าแกนครั้งแรกของโลก เลนส์ฟิชอายชนิดเปลี่ยนได้รุ่น M.ZUIKO DIGITAL ED 8mm f1.8 Fisheye PRO เลนส์ชนิดเปลี่ยนได้รุ่น  M.ZUIKO DIGITAL ED 14-150mm f4.0-5.6 II (28-300mm, 35mm equivalent) และอัพเดทเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชั่น Version 3.0 สำหรับกล้อง OM-D E-M1

มร.ชินโช อิเคดะ กรรมการและผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โอลิมปัสได้เปิดตัวกล้องมิเรอร์เลสรุ่น “OM-D E-M5 Mark II” ไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยเป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจาก OM-D E-M5 รุ่นเดิมที่นําเสนอในรูปแบบสไตล์การใช้งานและคุณภาพในลักษณะของกล้อง SLR โดยเป็นครั้งแรกของโลกที่บรรจุระบบกันสั่นห้าแกน มาในตัวกล้องที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ระบบเลนส์ช่วยให้ถ่ายภาพได้คุณภาพสูง ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ไม่ว่าจะในสภาพแวดล้อมใด

“OM-D E-M5 Mark II มีระบบกันสั่นห้าแกนในตัวเครื่อง มีประสิทธิภาพในการชดเชยแสงเทียบเท่ากับความเร็วชัตเตอร์ 5 สต็อป ให้ถ่ายรูปได้คมชัดในทุกสถานที่ และมีระบบ FAST AF และ C-AF ช่วยให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ tracking ได้โดยการโฟกัสจะเคลื่อนตามวัตถุโดยอัตโนมัติ ซึ่งถือว่าเหนือกว่ากล้องระดับไฮเอนด์รุ่นอื่นๆ ดังนั้นโอลิมปัสจึงมั่นใจว่านวัตกรรมใหม่ของเราจะชนะใจผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้แน่นอน”

นอกจาก OM-D E-M5 Mark II แล้ว โอลิมปัสยังได้เปิดตัวเลนส์รุ่นใหม่ในประเภท M.ZUIKO PRO คือรุ่น M.ZUIKO DIGITAL ED 8mm f1.8 Fisheye PRO เป็นครั้งแรกของโลกกับคุณสมบัติกันน้ํากันฝุ่นที่มาพร้อมกับเลนส์ฟิชอายไวแสงพิเศษ F1.8 หนึ่งในเลนส์ตระกูล M.ZUIKO PRO รองรับการใช้งานระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง ด้วยชิ้นแก้วพิเศษคุณภาพสูงที่ถ่ายทอดแสงอย่างเที่ยงตรง คุณภาพการใช้งานที่เป็นเลิศในทุกสถานการณ์ อีกรุ่นหนึ่งที่เปิดตัวพร้อมกันคือ M.ZUIKO DIGITAL ED 14-150mm f4.0-5.6 II (28-300mm, 35mm equivalent) ออกแบบต่อยอดมาจาก M.Zuiko Digital ED 14-150mm f4.0-5.6เวอร์ชั่นแรก ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2553 เพิ่มเทคโนโลยีการเคลือบผิวเลนส์ด้วย ZERO (Zuiko Extra-low Reflection Optical) เพื่อให้เห็นภาพเสมือนจริง ลดเงาสะท้อนที่ก่อให้เกิดแสงแฟลร์และภาพเงาต่างๆ รวมถึงประสิทธิภาพในการกันฝุ่นและกันละอองน้ําเทียบเท่ากล้อง OM-D E-M1 และ E-M5 Mark II

นอกจากนี้ โอลิมปัสยังได้เปิดตัวเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น 3.0 สำหรับกล้อง OM-D E-M1 เพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องการถ่ายภาพลักษณะต่อเนื่องสูงสุด9 ภาพต่อวินาทีเมื่อใช้งานร่วมกับการโฟกัสติดตามวัตถุแบบพิเศษ AF Trackingเพื่อให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวได้โดยไม่พลาดช็อตสําคัญ จากการพัฒนาเซนเซอร์ Phase-Detection AF ทําให้เวอร์ชั่น 3.0 สามารถถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวแบบออโต้โฟกัสได้คมชัดทั้งเลนส์ระบบ Four Thirds และ Micro Four Thirds

มร.ชินโช อิเคดะ กล่าวว่าในปีนี้ทางบริษัทได้เตรียมงบกว่า150 ล้านบาทเพื่อทุ่มด้านการตลาดและการสื่อสาร ทั้งแบบ below the line และabove the line เพื่อสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคไทยจดจำ โดยกิจกรรมทางการตลาดจะเน้นเวิร์กช็อป โดยโอลิมปัสเชื่อมั่ยว่านอกจากจะรักษาตำแหน่งผู้นำของตลาดไว้ได้แล้วยังจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางตลาดได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย OM-D E-M5 Mark II จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันยอดขายของ โอลิมปัสในส่วนของกล้องเลนส์ชนิดเปลี่ยนได้ ในปีนี้โอลิมปัสจะเน้นแคมเปญทางการตลาดมากขึ้นและจะทะยอยเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆสู่ตลาด   อย่างต่อเนื่อง

ในปีที่ผ่านมา ตลาดกล้องถ่ายรูปค่อนข้างทรงตัวเนื่องมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลกหรือสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการบริโภคภายในประเทศ อย่างไรก็ตามโอลิมปัสมั่นใจว่าตลาดจะกระเตื้องขึ้นในปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคมีความเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น และอำนาจในการจับจ่ายเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เซ็กเมนต์หลักทั้ง 2 เซ็กเมนต์ของตลาดกล้อง ทั้งคอมแพ็คและดีเอสแอลอาร์ ก็น่าจะกลับมาคึกคักขึ้นหลังจากที่ค่อนข้างซบเซาในปีที่แล้