อีฟ ให้ “ณเดชน์” ตบแหลก แหวกทางเข้ากลุ่มแมส

เมื่อต้องการ ขยับจากแบรนด์ “น้องใหม่” มาเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดน้ำผลไม้ “อีฟ ฟรุตตามีน” ของค่ายดริ้งค์โคโลจีสต์ เลยต้องยอมควักเงินค่าตัวระดับ 8 หลัก จ้างดาราระดับ ซุปตาร์ อย่าง “ณเดช คูกิมิยะ” มาเป็นพรีเซนเตอร์

อีฟ เข้าสู่ตลาดน้ำผลไม้เมื่อปีที่แล้ว ใช้จุดขายของการเป็น น้ำผลไม้ที่ผสมชิ้นเนื้อผลไม้  ทำส่วนแบ่งตลาดฟังก์ชั่นแนลดริงก์ 7-10% จากมูลค่าตลาดรวม 2,500 ล้านบาท

ต่อมาได้ ขยายพอร์ตสินค้า เพิ่มอีก 2 แบรนด์ “อีฟ โลคอล เซ็นเซชั่น” จะเป็นเอเชียลดริ้งก์ เน้นน้ำสมุนไพร ที่ตอบโจทย์สุขภาพ โดยมี “น้ำมะขาม” เป็นรสชาติแรก จากนั้นในช่วงปลายปีก็ได้แตกแบรนด์เพิ่มอีกหนึ่งแบรนด์คือ “อีฟ บูม บูม” น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มแบบไทยๆ เช่น น้ำส้ม น้ำเก็กฮอวย น้ำชาดำเย็น และน้ำชามะนาว เพื่อตอบรับกับตลาดอีโคโนมี ตั้งราคาไว้ 10 บาท รองรับลูกค้ากลุ่มแมส

มาปีนี้ อีฟก็เลยต้องทำตลาดให้ “เปรี้ยง” มากขึ้น  ด้วยการนำระดับซุปตาร์อย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” มาเป็น พรีเซ็นเตอร์ ต่อจาก “เจมส์ มาร์” พรีเซ็นเตอร์คนแรก เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังลูกค้าในระดับแมส  รองรับกับช่วงไฮซีชั่นของตลาดเครื่องดื่ม ซึ่งถือเป็นโกยรายได้ได้มากกว่าช่วงอื่นถึง 30-40 %

รวมทั้งยังต้องการสื่อถึงแคมเปญใหญ่ “Only Best Only If”  อีฟมีสิ่งที่ดีที่สุด 4 อย่าง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ กระบวนการผลิต และพรีเซ็นเตอร์

โดยใช้ คีย์เวิร์ดในการสื่อสารโฆษณาว่า “ตบแหลก” ที่สื่อว่าตบผลไม้แท้ๆ ให้ออกมาเป็นขวด และเป็นการต่อยอดจากแคมเปญในตอนเปิดตัวที่ว่า If you can choose, Choose If Fruitamin.

การทำตลาด จะมุ่งเน้นการสื่อสารผ่าน 3 ช่องทางหลักคือ 1. ทำอีเวนต์ โดยเจาะไปที่กลุ่มเป้าหมายที่มหาวิทยาลัย หรืออาคารสำนักงาน 2. เน้นสื่อดิจิตอลมากขึ้น 3. แจกตัวอย่างชิมฟรี และเพิ่มงบการตลาดเป็น 150 ล้านบาท จากเดิม 100 ล้านบาทในปีที่แล้ว

พงศกร พงษ์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดริ้งค์โคโลจีสต์ จำกัด กล่าวว่า “ตลาดน้ำผลไม้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมายังโต 3-5% เพราะคนไทยคุ้นเคยกับการทานผลไม้ และด้วยเทรนด์เรื่องการดูแลสุขภาพการแข่งขันกันดุเดือดมากขึ้น ทั้งในแง่ของการมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามา และผู้เล่นหน้าเดิมที่จะมาลุยหนักในปีนี้เพิ่มมากขึ้น